นครศรีธรรมราช - สางแค้นเครือข่าย “คุกนครศรี” มือปืนใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม “เอฟ เขาแก้ว” ขาใหญ่เชื่อมโยงขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช คาดปมตามล่าล้างหนี้บัญชีสั่งสังหารจากในคุก
จากเหตุการณ์ยิงถล่ม “เอฟ เขาแก้ว” ด้วยอาวุธสงคราม เครือข่ายยาเสพติดคุกนครศรีธรรมราชอาการโคม่า พบหมายจับติดตัวอื้อ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค.55 ร.ต.ท.ยิ่งยง ช่วยกิจ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มกันด้วยอาวุธสงคราม เหตุเกิดบริเวณทางลงจากลานจอดรถพรีเมียร์แมนชั่น ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
หลังจากนั้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก., พ.ต.ท.คมสัน พฤกษวานิช รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส., พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป. เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชแล้ว เบื้องต้น อยู่ในอาการสาหัส พบเพียงรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 4420 ตรัง จอดติดเครื่องเปิดไฟหน้าค้างไว้ กระจกด้านหน้าที่นั่งคนขับขี่ถูกกระสุนปืนหลายนัด เช่นเดียวกับกระจกด้านข้าง มีรอยรูกระสุนขนาดใหญ่ 1 รู ในรถพบอาวุธปืนขนาด .357 มีกระสุนเต็มรังเพลิง
เบื้องต้นพบว่า เป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกตัวรถพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ปลอกกระสุนปืน 9 มม.จำนวนหนึ่ง และยังพบรอยเลือดจากประตูด้านคนขับไปจนถึงเคาน์เตอร์ และลิฟต์ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรอยเลือดจำนวนหลายจุดบริเวณพื้นหน้าเคาน์เตอร์ และพื้นหน้าประตูลิฟต์
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดตามไปตรวจสอบผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ คือนายธีระวัฒน์ ผลกล่ำ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.6 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักในวงการในนาม “เอฟ เขาแก้ว” มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอก 5 นัด ลำคอ 1 นัด ต้นแขนขวา 1 นัด อาการอยู่ในขั้นโคม่า แพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนกระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ (11 พ.ค.) อาการของนายธีระวัฒน์ยังไม่พ้นขีดอันตราย
พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายธีระวัฒน์ ผลกล่ำ ผู้บาดเจ็บเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหมายจับด้วยกัน 3 หมายคือ คดีพยายามฆ่า 2 หมาย คดียาเสพติด 1 หมาย ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ใน อ.ลานสกา ฉายาที่รู้จักคือ “เอฟ เขาแก้ว” มีหมายจับในคดียาเสพติดเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจมานานแล้ว ซึ่งนายธีระวัฒน์ หรือ เอฟ เขาแก้ว ได้หลบหนีการจับกุมตัวของตำรวจตลอดมา และมีการพกพาอาวุธปืน.357 ไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา ล่าสุด ได้หลบหนีมากบดานเช่าแมนชันที่เกิดเหตุห้อง 502 อยู่กับภรรยาคนหนึ่ง
“ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายธีระวัฒน์ หรือ “เอฟเขาแก้ว” กำลังขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากลานจอดรถใต้ถุนแมนชันออกด้านข้างแมนชันลงถนนสายบ่ออ่าง ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนขับรถยนต์กระบะสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับมาดักปิดทางออก จากนั้น คนร้ายที่นั่งท้ายรถยนต์กระบะได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และ 9 มม.ยิงถล่มเข้าใส่จำนวนหลายนัด ถูกนายธีระวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บ เปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าไปในแมนชันจนไปล้มหน้าประตูลิฟต์ ส่วนคนร้ายได้พากันขับรถยนต์กระบะล่าถอยไปอย่างรวดเร็วทันที” ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการสืบสวนเชิงลึกพบว่า นายธีระวัฒน์ อยู่ในข่ายที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชรายสำคัญรายหนึ่ง ซึ่งในการสืบสวน และทางการข่าวก่อนหน้านี้พบว่า นักโทษค้ายาเสพติดรายสำคัญในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กำลังสั่งให้เครือข่ายที่อยู่ภายนอกเรือนจำเร่งติดตามทวงหนี้สินค่ายาเสพติด ซึ่งเป็นไปได้ว่า นายธีระวัฒน์ เข้าใจว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าทลายเรือนจำแล้ว ทำให้เพิกเฉยไม่ติดต่อ หรือชำระหนี้ยาเสพติด จนเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ค้าที่อยู่ในเรือนจำสั่งเครือข่ายทวงหนี้ที่อยู่ภายนอกตามมาสังหารดังกล่าวนั่นเอง
จากเหตุการณ์ยิงถล่ม “เอฟ เขาแก้ว” ด้วยอาวุธสงคราม เครือข่ายยาเสพติดคุกนครศรีธรรมราชอาการโคม่า พบหมายจับติดตัวอื้อ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 10 พ.ค.55 ร.ต.ท.ยิ่งยง ช่วยกิจ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มกันด้วยอาวุธสงคราม เหตุเกิดบริเวณทางลงจากลานจอดรถพรีเมียร์แมนชั่น ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.คลัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
หลังจากนั้น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุทัศน์ ชาญสวัสดิ์ รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก., พ.ต.ท.คมสัน พฤกษวานิช รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส., พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส., พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป. เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาราชแล้ว เบื้องต้น อยู่ในอาการสาหัส พบเพียงรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิซิ ไทรทัน สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กค 4420 ตรัง จอดติดเครื่องเปิดไฟหน้าค้างไว้ กระจกด้านหน้าที่นั่งคนขับขี่ถูกกระสุนปืนหลายนัด เช่นเดียวกับกระจกด้านข้าง มีรอยรูกระสุนขนาดใหญ่ 1 รู ในรถพบอาวุธปืนขนาด .357 มีกระสุนเต็มรังเพลิง
เบื้องต้นพบว่า เป็นของผู้ได้รับบาดเจ็บ นอกตัวรถพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ปลอกกระสุนปืน 9 มม.จำนวนหนึ่ง และยังพบรอยเลือดจากประตูด้านคนขับไปจนถึงเคาน์เตอร์ และลิฟต์ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบรอยเลือดจำนวนหลายจุดบริเวณพื้นหน้าเคาน์เตอร์ และพื้นหน้าประตูลิฟต์
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดตามไปตรวจสอบผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ คือนายธีระวัฒน์ ผลกล่ำ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.6 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช หรือที่รู้จักในวงการในนาม “เอฟ เขาแก้ว” มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอก 5 นัด ลำคอ 1 นัด ต้นแขนขวา 1 นัด อาการอยู่ในขั้นโคม่า แพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จนกระทั่งช่วงเช้าของวันนี้ (11 พ.ค.) อาการของนายธีระวัฒน์ยังไม่พ้นขีดอันตราย
พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมือง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายธีระวัฒน์ ผลกล่ำ ผู้บาดเจ็บเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีหมายจับด้วยกัน 3 หมายคือ คดีพยายามฆ่า 2 หมาย คดียาเสพติด 1 หมาย ซึ่งมีพฤติกรรมเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ใน อ.ลานสกา ฉายาที่รู้จักคือ “เอฟ เขาแก้ว” มีหมายจับในคดียาเสพติดเป็นที่ต้องการตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจมานานแล้ว ซึ่งนายธีระวัฒน์ หรือ เอฟ เขาแก้ว ได้หลบหนีการจับกุมตัวของตำรวจตลอดมา และมีการพกพาอาวุธปืน.357 ไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา ล่าสุด ได้หลบหนีมากบดานเช่าแมนชันที่เกิดเหตุห้อง 502 อยู่กับภรรยาคนหนึ่ง
“ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่นายธีระวัฒน์ หรือ “เอฟเขาแก้ว” กำลังขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากลานจอดรถใต้ถุนแมนชันออกด้านข้างแมนชันลงถนนสายบ่ออ่าง ได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนขับรถยนต์กระบะสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับมาดักปิดทางออก จากนั้น คนร้ายที่นั่งท้ายรถยนต์กระบะได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และ 9 มม.ยิงถล่มเข้าใส่จำนวนหลายนัด ถูกนายธีระวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บ เปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าไปในแมนชันจนไปล้มหน้าประตูลิฟต์ ส่วนคนร้ายได้พากันขับรถยนต์กระบะล่าถอยไปอย่างรวดเร็วทันที” ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการสืบสวนเชิงลึกพบว่า นายธีระวัฒน์ อยู่ในข่ายที่เชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชรายสำคัญรายหนึ่ง ซึ่งในการสืบสวน และทางการข่าวก่อนหน้านี้พบว่า นักโทษค้ายาเสพติดรายสำคัญในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช กำลังสั่งให้เครือข่ายที่อยู่ภายนอกเรือนจำเร่งติดตามทวงหนี้สินค่ายาเสพติด ซึ่งเป็นไปได้ว่า นายธีระวัฒน์ เข้าใจว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าทลายเรือนจำแล้ว ทำให้เพิกเฉยไม่ติดต่อ หรือชำระหนี้ยาเสพติด จนเป็นเหตุให้กลุ่มผู้ค้าที่อยู่ในเรือนจำสั่งเครือข่ายทวงหนี้ที่อยู่ภายนอกตามมาสังหารดังกล่าวนั่นเอง