นครศรีธรรมราช - แฉ “ไอ้หมึก” อดีตมือปืนอันดับ 1 ของไทยในคุกนครศรี ตั้งแก๊งทวงหนี้ให้ขบวนการค้ายา นักถอดข้อมูลมือถือมึนนักโทษสุดไฮเทค ใช้ “วอตส์แอป” “สไกป์” “แทงโก” ในการสั่งยา ส่อวืดข้อมูล-ส่วนการสืบค้นเบอร์โทรศัพท์คืบหน้าไปมาก พบ 10 เครือข่ายยานรก ด้าน “สุรพล แก้วภราดัย” ว่าที่ ผบ.คุกคนใหม่ เดินทางมาถึงแล้ว
นักถอดข้อมูลมือถือมึนนักโทษสุดไฮเทคใช้ “วอตส์แอป” “สไกป์” “แทงโก” สั่งยา
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้าการขยายผลขบวนการที่เชื่อมโยงกับการค้นพบยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ว่า ยังคงมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการถอดรหัสตรวจสอบข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือหลากหลายชนิดเกือบ 350 เครื่อง ที่ได้จากการตรวจยึด
วันนี้ ที่หอประชุมขุนพันธรักษ์ราชเดช บก.ภ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่เก็บของกลางโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเกือบ 350 เครื่องดังกล่าว มีการถอดรหัสตรวจสอบข้อมูล โดยในการถอดรหัสข้อมูลนั้น พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ ทิพย์รัตน์ ผกก.ส.ภ.นครศรีธรรมราช ได้นำทีมพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านโทรศัพท์มือถือเข้าถอดรหัส โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มระบบปฏิบัติการ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่แบ่งออกเป็น โอเอส แอนดรอยด์ เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นสมาร์ทโฟนเหล่านี้ นักโทษในคดียาเสพติดเป็นผู้ใช้งาน
เบื้องต้นจากการถอดรหัสเข้าไปดู พบว่า นักโทษจะใช้การสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น “วอตส์แอป (WhatsApp)” “สไกป์ (Skype)” และ “แทงโก (Tango)” ซึ่งไม่ได้บันทึกข้อมูลการสื่อสารไว้ มีเพียงแอดเดรสของเป้าหมายที่นักโทษจะคุยด้วยเท่านั้น จึงทำให้ได้ข้อมูลในส่วนนี้ไม่สมบูรณ์ ส่วนการถอดข้อมูลการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์หมายเลขต่างๆ ของนักโทษนั้นก้าวหน้าไปมาก
“อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่แกะจากโทรศัพท์มือถือมาได้ในขณะนี้ ก็มีข้อมูลและหลักฐานจำนวนมากทีเดียวที่พบว่ามีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ถึง 10 เครือข่ายด้วยกัน โดยมีนักโทษขาใหญ่ทั้งในแดน 5 และแดน 6 จำนวนไม่ต่ำกว่า 4 คน เป็นหัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และสอบสวนสามารถเอาผิดดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน รวมทั้งผู้คุมจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน ที่พบหลักฐานชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติดนี้ด้วย คาดว่า เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วจะสามารถขออนุมัติไปยัง เลขา ป.ป.ส.ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในเร็วๆ นี้” ผกก.ส.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผย
ส่วนข้อมูลอื่นๆ ในโทรศัพท์ พบว่า มีการถ่ายคลิปบนเรือนนอนแสดงความสุขสบาย โดยเมื่อขึ้นเรือนนอนแล้ว ต่างนำโทรศัพท์ของตนเองมาโทร.กันอย่างสบายใจ ตั้งวงเล่นพนันกันอย่างสนุกสนาน โดยคลิปทั้งหมดจะเป็นหลักฐานที่สำคัญส่วนหนึ่งด้วย
ทางด้านเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชนั้น ความเคลื่อนไหวในการควบคุมและตรวจสอบการแสดงตนเข้าเยี่ยม รวมทั้งของเยี่ยมผู้ต้องขัง เป็นไปด้วยความเข้มงวด และห้ามไม่ให้มีการบันทึกภาพในเรือนจำ ขณะที่ความเคลื่อนไหวในเรื่องการดำเนินการทางวินัยของเข้าหน้าที่ยังไม่มีความคืบหน้า
ส่วนกรณีที่ นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ได้มีคำสั่งให้ผู้คุมจำนวน 3 ราย ออกจากราชการก่อน เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงฐานสมคบกับผู้ต้องขังค้ายาเสพติด ปรากฏว่า คำสั่งดังกล่าวยังไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการดำเนินการกับผู้คุมทั้ง 14 รายก่อนหน้านี้ คงมีเพียงคำสั่งให้ออกไปปฏิบัติราชการนอกเรือนจำ ซึ่งทั้งหมดได้ไปรวมตัวกันอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวเขาหมาก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าหากไม่มีการดำเนินการใดๆ กับผู้คุมที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะนำไปสู่การทำลายหลักฐานต่างๆ เกิดขึ้นได้
“สุรพล แก้วภราดัย” ว่าที่ ผบ.คุก นครศรีคนใหม่เดินทางมาถึงนครศรีแล้ว
และในวันเดียวกันนี้ นายสุรพล แก้วภราดัย ว่าที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาถึง จ.นครศรีธรรมราช แล้วโดยอาจเดินทางเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 พ.ค.55 นี้
แฉ “ไอ้หมึก” อดีตมือปืนอันดับ 1 ของไทยในคุกนครศรี ตั้งแก๊งส์ทวงหนี้ให้ขบวนการค้ายา
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้อมูลว่า นายชูศักดิ์ นุ่มลืมคิด หรือที่เรียกว่า “เสือหมึก” มือปืนรับจ้างอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่ก่อคดีรับจ้างฆ่ามาแล้วทั่วประเทศ ได้ถูกส่งมาจากเรือนจำชุมพร มาควบคุมที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ในแดน 6 ซึ่งเดิมในเรือนจำชุมพรนั้น นายชูศักดิ์ หรือ หมึก จะถูกแยกขังเดี่ยวตลอดเวลาในห้องซอย ไม่มีโอกาสติดต่อโลกภายนอก
“แต่เมื่อย้ายมายังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเมื่อหลายเดือนก่อน นายชูศักดิ์ ซึ่งอดีตเคยเป็นมือปืนรับจ้างที่กว้างขวางในวงการ ได้ใช้ความกว้างขว้างในวงการมือปืนด้วยกันให้เป็นประโยชน์ในการติดตามทวงหนี้ให้กับขบวนการค้ายาเสพติด โดยใช้เครือข่ายรับจ้างฆ่าอยู่ภายนอกเป็นเครื่องมือ หลังจากนั้น จะเรียกค่าใช้จ่ายราว 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ทราบว่านายชูศักดิ์ หรือ หมึก มีเงินเป็นสิบล้านอยู่ภายนอกเรือนจำ และเขาจะใช้เงินนี้ในการวิ่งเต้นคดีจำนวนมากของเขาไปตามลำดับ ซึ่งต้องยอมรับว่า การวิ่งเต้นคดีมันมีอยู่จริงในระบบต้นธารยุติธรรมของประเทศไทย” เจ้าหน้าที่รายนี้ กล่าว
ด้าน นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขอเคลียร์ข่าวทั้งหมด ว่า ขณะนี้ขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ คือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงลงไปสอบเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ผบ.เรือนจำ ลงมาจนถึงเจ้าหน้าที่ในแดนควบคุม แต่ที่ติดปัญหาอยู่ขณะนี้ คือ เรื่องของการตั้งตั้งประธานกรรมการสอบ ต้องตั้งระดับเดียวกับ ผบ.คือ ระดับ 9 โดยจะเป็นผู้ตรวจราชทัณฑ์ แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ผู้ตรวจย้ายไปเป็น ผบ.หมด ส่วน ผบ.นครศรีฯ ก็ย้ายมาเป็นผู้ตรวจ คงจะสอบตัวเองไม่ได้ จึงอยู่ในระหว่างการดำเนินการ หลังสอบข้อเท็จจริงแล้วจะว่าไปในขั้นตอนต่อไป
“ส่วนการให้เจ้าหน้าที่ออกจากตำแหน่ง 3 รายนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการให้ออก จะต้องรอขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อน เช่น การนำไปสู่การออกหมายจับหรือจับกุม จะต้องรายงานมายังกรมราชทัณฑ์ หรือต้นสังกัดรายงานมาเอง หลังจากนั้นจะพิจารณาดำเนินการในส่วนนั้นอีกครั้งหนึ่ง” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
นักถอดข้อมูลมือถือมึนนักโทษสุดไฮเทคใช้ “วอตส์แอป” “สไกป์” “แทงโก” สั่งยา
วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครศรีธรรมราช รายงานความคืบหน้าการขยายผลขบวนการที่เชื่อมโยงกับการค้นพบยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ว่า ยังคงมีการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการถอดรหัสตรวจสอบข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือหลากหลายชนิดเกือบ 350 เครื่อง ที่ได้จากการตรวจยึด
วันนี้ ที่หอประชุมขุนพันธรักษ์ราชเดช บก.ภ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่เก็บของกลางโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือเกือบ 350 เครื่องดังกล่าว มีการถอดรหัสตรวจสอบข้อมูล โดยในการถอดรหัสข้อมูลนั้น พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ ทิพย์รัตน์ ผกก.ส.ภ.นครศรีธรรมราช ได้นำทีมพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านโทรศัพท์มือถือเข้าถอดรหัส โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มระบบปฏิบัติการ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนที่แบ่งออกเป็น โอเอส แอนดรอยด์ เป็นต้น ซึ่งเบื้องต้นสมาร์ทโฟนเหล่านี้ นักโทษในคดียาเสพติดเป็นผู้ใช้งาน
เบื้องต้นจากการถอดรหัสเข้าไปดู พบว่า นักโทษจะใช้การสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น “วอตส์แอป (WhatsApp)” “สไกป์ (Skype)” และ “แทงโก (Tango)” ซึ่งไม่ได้บันทึกข้อมูลการสื่อสารไว้ มีเพียงแอดเดรสของเป้าหมายที่นักโทษจะคุยด้วยเท่านั้น จึงทำให้ได้ข้อมูลในส่วนนี้ไม่สมบูรณ์ ส่วนการถอดข้อมูลการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์หมายเลขต่างๆ ของนักโทษนั้นก้าวหน้าไปมาก
“อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่แกะจากโทรศัพท์มือถือมาได้ในขณะนี้ ก็มีข้อมูลและหลักฐานจำนวนมากทีเดียวที่พบว่ามีการเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ถึง 10 เครือข่ายด้วยกัน โดยมีนักโทษขาใหญ่ทั้งในแดน 5 และแดน 6 จำนวนไม่ต่ำกว่า 4 คน เป็นหัวหน้าเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และสอบสวนสามารถเอาผิดดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน รวมทั้งผู้คุมจำนวนไม่ต่ำกว่า 3 คน ที่พบหลักฐานชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติดนี้ด้วย คาดว่า เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วจะสามารถขออนุมัติไปยัง เลขา ป.ป.ส.ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในเร็วๆ นี้” ผกก.ส.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผย
ส่วนข้อมูลอื่นๆ ในโทรศัพท์ พบว่า มีการถ่ายคลิปบนเรือนนอนแสดงความสุขสบาย โดยเมื่อขึ้นเรือนนอนแล้ว ต่างนำโทรศัพท์ของตนเองมาโทร.กันอย่างสบายใจ ตั้งวงเล่นพนันกันอย่างสนุกสนาน โดยคลิปทั้งหมดจะเป็นหลักฐานที่สำคัญส่วนหนึ่งด้วย
ทางด้านเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชนั้น ความเคลื่อนไหวในการควบคุมและตรวจสอบการแสดงตนเข้าเยี่ยม รวมทั้งของเยี่ยมผู้ต้องขัง เป็นไปด้วยความเข้มงวด และห้ามไม่ให้มีการบันทึกภาพในเรือนจำ ขณะที่ความเคลื่อนไหวในเรื่องการดำเนินการทางวินัยของเข้าหน้าที่ยังไม่มีความคืบหน้า
ส่วนกรณีที่ นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ได้มีคำสั่งให้ผู้คุมจำนวน 3 ราย ออกจากราชการก่อน เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง เนื่องจากมีข้อมูลเชื่อมโยงฐานสมคบกับผู้ต้องขังค้ายาเสพติด ปรากฏว่า คำสั่งดังกล่าวยังไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรมาถึงเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และยังไม่มีความเคลื่อนไหวในการดำเนินการกับผู้คุมทั้ง 14 รายก่อนหน้านี้ คงมีเพียงคำสั่งให้ออกไปปฏิบัติราชการนอกเรือนจำ ซึ่งทั้งหมดได้ไปรวมตัวกันอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวเขาหมาก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้หลายฝ่ายหวั่นเกรงว่าหากไม่มีการดำเนินการใดๆ กับผู้คุมที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะนำไปสู่การทำลายหลักฐานต่างๆ เกิดขึ้นได้
“สุรพล แก้วภราดัย” ว่าที่ ผบ.คุก นครศรีคนใหม่เดินทางมาถึงนครศรีแล้ว
และในวันเดียวกันนี้ นายสุรพล แก้วภราดัย ว่าที่ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ได้เดินทางมาถึง จ.นครศรีธรรมราช แล้วโดยอาจเดินทางเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 พ.ค.55 นี้
แฉ “ไอ้หมึก” อดีตมือปืนอันดับ 1 ของไทยในคุกนครศรี ตั้งแก๊งส์ทวงหนี้ให้ขบวนการค้ายา
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีข้อมูลว่า นายชูศักดิ์ นุ่มลืมคิด หรือที่เรียกว่า “เสือหมึก” มือปืนรับจ้างอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่ก่อคดีรับจ้างฆ่ามาแล้วทั่วประเทศ ได้ถูกส่งมาจากเรือนจำชุมพร มาควบคุมที่เรือนจำนครศรีธรรมราช ในแดน 6 ซึ่งเดิมในเรือนจำชุมพรนั้น นายชูศักดิ์ หรือ หมึก จะถูกแยกขังเดี่ยวตลอดเวลาในห้องซอย ไม่มีโอกาสติดต่อโลกภายนอก
“แต่เมื่อย้ายมายังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเมื่อหลายเดือนก่อน นายชูศักดิ์ ซึ่งอดีตเคยเป็นมือปืนรับจ้างที่กว้างขวางในวงการ ได้ใช้ความกว้างขว้างในวงการมือปืนด้วยกันให้เป็นประโยชน์ในการติดตามทวงหนี้ให้กับขบวนการค้ายาเสพติด โดยใช้เครือข่ายรับจ้างฆ่าอยู่ภายนอกเป็นเครื่องมือ หลังจากนั้น จะเรียกค่าใช้จ่ายราว 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขณะนี้ทราบว่านายชูศักดิ์ หรือ หมึก มีเงินเป็นสิบล้านอยู่ภายนอกเรือนจำ และเขาจะใช้เงินนี้ในการวิ่งเต้นคดีจำนวนมากของเขาไปตามลำดับ ซึ่งต้องยอมรับว่า การวิ่งเต้นคดีมันมีอยู่จริงในระบบต้นธารยุติธรรมของประเทศไทย” เจ้าหน้าที่รายนี้ กล่าว
ด้าน นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขอเคลียร์ข่าวทั้งหมด ว่า ขณะนี้ขั้นตอนของกรมราชทัณฑ์ คือ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงลงไปสอบเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตั้งแต่ ผบ.เรือนจำ ลงมาจนถึงเจ้าหน้าที่ในแดนควบคุม แต่ที่ติดปัญหาอยู่ขณะนี้ คือ เรื่องของการตั้งตั้งประธานกรรมการสอบ ต้องตั้งระดับเดียวกับ ผบ.คือ ระดับ 9 โดยจะเป็นผู้ตรวจราชทัณฑ์ แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ผู้ตรวจย้ายไปเป็น ผบ.หมด ส่วน ผบ.นครศรีฯ ก็ย้ายมาเป็นผู้ตรวจ คงจะสอบตัวเองไม่ได้ จึงอยู่ในระหว่างการดำเนินการ หลังสอบข้อเท็จจริงแล้วจะว่าไปในขั้นตอนต่อไป
“ส่วนการให้เจ้าหน้าที่ออกจากตำแหน่ง 3 รายนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการให้ออก จะต้องรอขั้นตอนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อน เช่น การนำไปสู่การออกหมายจับหรือจับกุม จะต้องรายงานมายังกรมราชทัณฑ์ หรือต้นสังกัดรายงานมาเอง หลังจากนั้นจะพิจารณาดำเนินการในส่วนนั้นอีกครั้งหนึ่ง” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
