นครศรีธรรมราช - เกิดเหตุคนร้ายขับรถยนต์ใช้ปืนเอ็ม 16 ตามประกบถล่มยิง “เหมี๊ยบ พรหมโลก” พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ เสียชีวิตคารถปิกอัพ ผบก.นครศรีธรรมราช เผยเป็น 1 ใน 5 ที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามพฤติกรรม
เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนถล่มหนุ่มใหญ่ประวัติยาว เสียชีวิตคารถยนต์ปิกอัพรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น.ของวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา ร.ต.ท.พีระพงศ์ หนูชนะ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ย่อยมหาชัย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงถล่มกันด้วยอาวุธปืนสงครามที่บริเวณหน้าที่ทำการ อบต.นาทราย ม.6 ต.นาทราย ริมถนนสายเบญจมะ-ท่าอากาศยาน มีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ
หลังจากนั้นจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไฝจู ผกก. พ.ต.ท.บุญมี ศิริปาละกะ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ในที่เกิดเหตุพบว่ามีร่องรอยรถแฉลบไปจากถนนสายหลักลงไปข้างทางจนต้นไม้หักโค่น ห่างไปจากถนนราว 100 เมตร มีรถยนต์กระบะอีซูซุตอนครึ่ง สีดำ ทะเบียน นก-8219 นครศรีธรรมราช สภาพเสียหลักพุ่งเข้าชนร้านค้าของชำเลขที่ 78/1 ม.ต.นาทราย อ.เมือง สภาพพังยับเยิน ข้าวของในร้านเสียหายจำนวนมาก ส่วนภายในรถตรงที่นั่งผู้ขับขี่ พบผู้เสียชีวิตสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 หลายนัด เข้าที่ศีรษะ ขมับ ลำตัวด้านขวาหลายนัด ประตูด้านผู้ขับขี่มีรอยกระสุนนับสิบรู
ทราบชื่อต่อมาคือ นายสมศักดิ์ คันธิก อายุ 42 ปี หรือที่รู้จักในนาม “เหมี๊ยบ พรหมโลก” อยู่บ้านเลขที่ 196/2 ม.2 ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ในตัวมีสร้อยคอทองคำ เลสข้อมือ น้ำหนักประมาณ 10 บาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ค้นภายในรถมีการติดตั้งเครื่องเสียงหรูหราทั้งคันมีลำโพงนับ 10 ตัว และพบเงินสดประมาณ 300,000 บาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยมี น.ส.เรวดี วิเวกรักษ์ อายุ 25 ปี อยู่ 45/3 ม.1 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มาขอรับทรัพย์สินดังกล่าวโดยระบุว่าเป็นภรรยาของผู้ตาย
เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลก่อนเกิดเหตุได้ความว่า นายสมศักดิ์ หรือเหมี๊ยบ ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่งแต่มีฐานะร่ำรวย ก่อนเกิดเหตุไม่นานได้ขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุออกมาจาก อ.พรหมคีรี มุ่งหน้าไปหาภรรยาที่อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม.เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายใช้รถยนต์กระบะสีขาวไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนตามประกบ แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่หลายนัดอย่างหูดับตับไหม้ ส่งผลให้นายสมศักดิ์เสียชีวิตทันที โดยที่เท้าของผู้ตายยังเหยียบอยู่ที่คันเร่ง ขณะที่แฉลบพุ่งลงไปข้างทางก่อนที่จะไปชนกับร้านค้าของชำพังยับเยินดังกล่าว
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อตรวจสอบประวัติของผู้ตายพบว่า เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน และหลังจากที่พ้นโทษออกมานั้นยังมีส่วนพัวพันกับยาเสพติดและอาวุธสงคราม เป็น 1 ใน 5 รายของนครศรีธรรมราชที่เจ้าหน้าที่พยายามติดตามพฤติการณ์อย่างใกล้ชิด และผู้ตายยังเคยประกาศตั้งค่าหัวจำนวน 2 ล้าน ประกาศเด็ดชีพ พ.ต.ท.ลพชน หรือกษิยิ์เดช ชาญกัน สวป.สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช มาแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามส่งสายเข้าทำการล่อซื้อหลายครั้งแต่ผู้ตายระวังตัวมาก ทุกอย่างจะไม่ผ่านมือของนายสมศักดิ์เลย แต่มีเครือข่ายทำการแทนทั้งหมดแต่ถูกจับไปแล้วหลายราย
“ขณะนี้ขบวนการค้ายาเสพติดมีการติดอาวุธสงครามร้ายแรงเพิ่มมากขึ้น คาดว่าน่าจะเกิดการขัดแย้งกันขึ้นบางอย่าง นายสมศักดิ์จึงถูกตามมาสังหารปิดบัญชีก็เป็นได้” ผบก.นครศรีธรรมราชระบุ
นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า นายสมศักดิ์ยังประกาศเป็นศัตรูกับนายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ในฐานที่นายเฉลิมได้ตั้งหมู่บ้านปลอดยาเสพติด และประกาศต่อสู้กับขบวนการค้ายาเสพติดทุกรูปแบบ โดยมีการตั้งค่าหัวนายเฉลิมสูงถึง 400,000 บาท