xs
xsm
sm
md
lg

ผุดคอนโดฯ ลานจอดรถไฮเทค “เดอะ เอชพีที” จีบ 3 บิ๊กอสังหาฯ นำร่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เดอะ เอชทีพีฯ” รุกธุรกิจสร้างลานจอดรถไฮเทครับที่ดินในเมืองแพง เจรจาค่ายบิ๊กอสังหาฯ ศึกษาและพัฒนารูปแบบลานจอดรถแยกกับคอนโดฯ หวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการ เร่งเครื่องเจาะ 5 กระทรวงใหญ่ภาครัฐ คาดภายในปีงบประมาณ 56 รู้ผลชัด ลั่นยอดขายปี 55 ได้ 100 ล้านบาท ปี 57 กระโดดเป็น 1,000 ล้านบาท

นายจรัส อารยะชัย นายกสมาคมลานจอดรถไฮเทค (ประเทศไทย) ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ เอชทีพี กรุ๊ป จำกัด และบริษัทในเครือ กล่าวถึงแผนการขยายธุรกิจเกี่ยวกับลานจอดรถไฮเทคสำเร็จรูปว่า ในปีนี้ ทางบริษัทฯ จะเข้าไปเสนอบริการแก่หน่วยงานภาครัฐให้มากขึ้น โดยมีการเสนอโครงการไปยังหน่วยงานราชาการที่มีข้อจำกัดการให้บริการการจอดรถแก่ข้าราชการและประชาชนที่มาใช้บริการ เช่น กระทรวงคมนาคม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงการคลัง, กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงมหาดไทย คาดว่าจะรู้ผลชัดเจนเกี่ยวกับงบประมาณที่แต่ละหน่วยงานจะดำเนินการได้ภายในปีงบประมาณ 56 (ต.ค. 55-ก.ย. 56)

ขณะเดียวกัน ทางบริษัทฯ กำลังเจรจากับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เช่น บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตทฯ, บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์ฯ บริษัท ศุภาลัยฯ และกรุงเทพมหานคร ที่จะเสนอบริการเกี่ยวกับลานจอดรถไฮเทคให้แก่โครงการและลูกค้าได้ใช้บริการ อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่โครงการคอนโดมิเนียม โดยหากสามารถแยกที่จอดรถออกมาจากอาคารชุดได้ มูลค่าโครงการจะสูงขึ้น ขณะที่ผู้อยู่อาศัยก็ยังได้ที่จอดรถตามเดิม หรืออาจจะลงทุนซื้อที่จอดรถเพื่อรับผลประโยชน์ในรูปของค่าเช่าอีกทางหนึ่ง

“ที่ประเทศไต้หวัน หรือที่ญี่ปุ่น การให้บริการเกี่ยวกับลานจอดรถไฮเทคมีมาหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากที่ดินค่อนข้างแพง ทำให้ธุรกิจดังกล่าวเป็นที่นิยมและเติบโต ขณะที่ของประเทศไทยยังอาจจะเป็นเรื่องใหม่ แต่ก็คิดว่าไม่นานเพราะคนไทยเรียนรู้และรับรู้ได้ไวและง่าย อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจดังกล่าวนั้นเราไม่ได้มีปัญหาอะไร ยกเว้นเรื่องลิฟต์ที่บริษัทฯ ได้เสนอไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง ในการออกเป็นพระราชบัญญัติเกี่ยวกับธุรกิจลานจอดรถ เนื่องจากกฎหมายเดิมมีข้อกำหนดไว้ว่า ลิฟต์ 1 ตัวที่ขนคนและรถต้องไม่เกิน 30 คัน จะขอปรับเป็นลิฟต์๋ 1 ตัวที่ขนคนและรถได้ 50 คัน รวมถึงต้องมี 2 ลิฟต์นั้น ให้เป็นแค่ 1 ลิฟต์ คาดว่าเร็วๆ นี้จะสามารถออกเป็น พ.ร.บ.ได้ และจะสอดคล้องกับต้นทุนที่ขายขาดให้แก่ลูกค้าที่ 2-4 แสนบาท แล้วแต่ทำเล” นายจรัสกล่าว

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจในปี 55 นี้ นายจรัสระบุว่า ได้เปิดบริษัทมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 8 ปี ซึ่งธุรกิจของบริษัทเริ่มมาจากไม่มีอะไร จนขณะนี้มีลูกค้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยมีการติดตั้งให้แก่บริษัทเอกชนหลายแห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม (เพลินจิต), โรงแรมคอร์ทยาร์ด (ซอยมหาเล็กหลวง 1) รวมถึงโชว์รูมรถยนต์หลายแห่ง เป็นต้น ส่วนลูกค้าที่อยู่ระหว่างการออกแบบและติดตั้งมีประมาณ 5 ราย เช่น โครงการคอนโดฯ The Circle 2 (มักกะสัน เพชรบุรี) ที่สามารถจอดรถได้ 210 คัน และอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายอื่นอีกประมาณ 20 ราย

ทั้งนี้ รูปแบบของสินค้าที่นำเสนอจะมีทั้ง 2 อาคารและเป็นแบบทาวเวอร์สูงสุด 25 ชั้น ซึ่งพื้นที่ที่ดิน 50 ตร.ม.สามารถสร้างเป็นอาคารรองรับที่จอดรถได้ 50 คัน ราคาขายขาดกับลูกค้าอยู่ที่ 2-4 แสนบาท กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพน่าจะรองรับการใช้บริการลานจอดรถไฮเทคน่าจะเป็น 5 ทำเลหลัก ได้แก่ สุขุมวิท, ทองหล่อ เพลิตจิต, สีลม และสาทร

“เราคิดว่าในปี 55 ยอดขายที่ 100 ล้านบาทสามารถทำได้ โดย เลข ณ สิ้นเดือนเมษายนมียอดขายไปแล้ว 50 ล้านบาท ส่วนในปี 56 น่าจะมียอดขายอยู่ที่ 500 ล้านบาท และปี 57 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท”
กำลังโหลดความคิดเห็น