xs
xsm
sm
md
lg

พบ “แก๊งค้ายาคุกคอน” ไม่สะดุ้ง สั่งซื้อขายเป็นปกติ-ส่งมือถือเข้าคุกต่อเนื่องเครื่องละ 4 แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค้นบ้านเครือข่ายค้ายาเสพติด คุกเมืองคอน
นครศรีธรรมราช - พบเครือข่ายยาเสพติดในคุกนครศรีฯ ยังสั่งซื้อขายเป็นปกติ มือถือคุกราคาพุ่งทะลุเครื่องละ 4 แสน อดีตนักโทษขาใหญ่ แฉ ขบวนการส่งโทรศัพท์เข้าเรือนจำ-มีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์-กาสิโนครบวงจร ด้าน ผบ.เผย เจ้าหน้าที่เริ่มผ่อนคลายความเครียด เริ่มยิ้มได้ เตรียมชงกรมราชทัณฑ์ สอบทั้งระบบ สาวผู้คุม “กินตรวน”

ปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ครั้งประวัติศาสตร์โดย พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันเปิดยุทธการเข้าทำการตรวจค้น ตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ได้มีการขยายผลดำเนินการสืบสวน ทั้งทางลับ และปฏิบัติการเข้าทำการตรวจค้นเป้าหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (3 พ.ค.) ปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ และในส่วนที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้า โดยในช่วงกลางคืนที่ผ่านมา พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รองผกก.สส. พ.ต.ต.วิชาญ รักพริก สว.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่สืบสวน ได้ใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เข้าแสดงตัว และทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 5 ชุมชนมะขามชุม ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช หลังจากสืบสวนได้ว่า นายสุนทร แก้วสีทอง อายุ 30 ปี มีภูมิลำเนาตามบัตรประชาชน เลขที่ 103/1 ม.5 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว และใช้เป็นจุดสั่งซื้อยาเสพติดจากเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ก่อนที่จะนำยาเสพติดที่ได้ไปบริหารจัดการขายให้แก่เครือข่าย

หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้น พบหลักฐานทางการเงิน บันทึกการสั่งซื้อยาเสพติดจาก นายเชาว์ การโอนจ่ายเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท เอกสารการโอนเงินผ่านทางธนาคารพาณิชย์ และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ จำนวน 3 ชุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นายสุนทร ยอมรับสารภาพว่า เพิ่งสั่งซื้อยาบ้าจำนวน 1,000 เม็ด จาก นายเชาว์ นักโทษในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการติดต่อสื่อสารกับนายเชาว์ ยังเป็นไปตามปกติ และสั่งซื้อยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่มีของส่งให้ โดยเมื่อมียาพร้อมส่ง นายเชาว์ จะนัดหมายให้ไปรับของที่ทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ แล้วแต่นัดหมาย จากนั้นจะโอนเงินค่ายาเสพติดไปที่บัญชีของ น.ส.วรรณี พึ่งพงศ์ ซึ่งตนเองไม่รู้จักเช่นเดียวกัน หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐาน และขยายผลทางคดีอย่างต่อเนื่อง

ต่อมา ช่วงเช้าตรู่ของวันเดียวกัน พ.ต.ต.วิชาญ รักพริก สว.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช ร.ต.ต.ยุทธพล พรหมแก้ว รองสว.สส.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 96/4 ม.8 ต.ทอนหงส์อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช หลังจากข้อมูลการขยายผล พบว่า เป็นบ้านหลังงาม โอ่อ่า กว้างขวาง ของนายสินชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นอดีตนักโทษในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และมีพฤติกรรมเชื่อมโยงกับขบวนการส่งโทรศัพท์เข้าไปในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช และยังพบข้อมูลอีกว่า นายสินชัย เคยเป็นถึงอดีตแชมป์มวยไทยเวทีลุมพินี เมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย

ในการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบเอกสารทางการเงิน มีข้อมูลบางอย่างที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน จึงทำการตรวจยึด แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เมื่อตรวจปัสสาวะของ นายสินชัย เบื้องต้นพบสารเสพติด จึงคุมตัวมาทำการสอบสวน ซึ่ง นายสินชัย รับว่า เสพยาเสพติดจริง และเมื่อถามถึงการส่งโทรศัพท์เข้าเรือนจำ นายสินชัย ระบุว่า ช่วงนี้ได้หยุดส่งเข้าไปแล้วเนื่องจากเป็นข่าวโด่งดัง และเจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น

นายสินชัย ได้ยอมเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ถึงขบวนการนอกกฎหมายที่เกิดขึ้นในเรือนจำ ว่า เมื่อครั้งที่ต้องโทษนั้นทุกอย่างมีหมดในเรือนจำ นักโทษชายที่มีลักษณะตุ้งติ้งหน่อยจะขายบริการให้แก่นักโทษด้วยกัน ยิ่งถ้ามีผิวพรรณขาว ยิ่งเป็นที่ต้องการ ถือเป็นระดับดารา มีลูกค้ามาก มีบ่อนไฮโล บ่อนน้ำเต้า แทงได้เสียกันเป็นเงินสด นักค้าขายโทรศัพท์ นักค้ายาเสพติด ทุกอย่างมีหมด ผู้คุมที่อยู่เป็น นิ่งเฉยเป็น ผู้คุมคนนั้นรวย พาโทรศัพท์เข้าแต่ละเครื่องแต่ละคราวซื้อรถยนต์ขับได้สบายๆ

“หลังจากพ้นโทษเมื่อ 2 ปีก่อน ผมส่งโทรศัพท์เข้าไปเอง ผ่านทางคอกหมู คอกเลี้ยงสัตว์ของเรือนจำเข้าคราวละ 5-10 เครื่อง ค่าส่งเครื่องละ 30,000-50,000 บาท แต่ในช่วงเวลาส่งของนั้น ต้องเตรียมการจ่ายค่าปิดหูปิดตาของเรือนจำ 2 จุด จุดละ 150,000 บาท ที่เหลือไม่มีปัญหา ส่งเครื่องเข้าไปได้อย่างสบายๆ และเมื่อส่งเข้าไปนั้นมีผู้คุมเก็บไว้ มีสองทาง คือ เก็บไว้เอง และส่งต่อให้นักโทษ ส่วนใหญ่เก็บแล้วหายไปเลย แล้วนักโทษก็มีโทรศัพท์ใช้ราคาค่าเครื่องจึงสูงมาก เนื่องจากกว่าโทรศัพท์จะเข้าไปได้นั้น ต้องมีค่าผ่านทางหลายด่าน

สำหรับนักโทษนั้น เงินถือว่าเป็นเรื่องเล็ก เพราะซื้อทุกอย่างได้ในเรือนจำ แม้กระทั่งเรื่องการสักผิวหนังของนักโทษ ถึงเรือนจำจะห้ามนักโทษสัก แต่ก็มีผู้คุมเอาหมึก และอุปกรณ์การสักมาขายให้ในราคาสูงมาก นักโทษจึงซื้อมาสักกันจนลายพร้อยเป็นเอกลักษณ์ของบุรุษผู้ผ่านการติดคุก” อดีตนักโทษรายนี้ กล่าว

ส่วนความเคลื่อนไหวในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช บรรยากาศทั่วไปดูเหมือนว่าจะเริ่มคลี่คลายมากขึ้น ญาติยังคงมาเยี่ยมผู้ต้องขังอย่างหนาตาด้วยความห่วงใยญาติพี่น้องที่ต้องโทษเกรงว่า จะได้รับผลจากการกระทำความผิดในเรือนจำเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ผู้คุมที่ถูกพักราชการที่ได้เข้าให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจวานนี้ เปิดเผยขบวนการนำสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำว่าจะอยู่ทางประตูหน้า เข้าไปพร้อมกับรถขนข้าวหมู รถขนอาหาร รถของเรือนจำเอง ซึ่งจะเป็นฝีมือของผู้คุมที่นำเข้าไปเอง เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ตรวจค้นก็จะค้นพอประมาณ คือค้นพอเป็นพิธีเท่านั้น ช่องว่างจึงมีมากให้มีการกอบโกยหาผลประโยชน์กัน

นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ภาพรวมของเช้าวันนี้ถือว่าเป็นปกติ เจ้าหน้าที่คอยติดตามข้อมูลข่าวสารจากการสืบสวนภายในถึงแหล่งซุกซ่อนของต้องห้าม และจะเข้าดำเนินการตรวจค้นตรวจยึด แต่วันนี้ยังไม่มีการค้นพบสิ่งของต้องห้าม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่นั้น ดูภาพรวมแล้วเริ่มมีความผ่อนคลายความตึงเครียดมากขึ้น เริ่มที่จะยิ้มได้มากขึ้น พูดจาหยอกล้อกันบรรยากาศผ่อนคลายไปมาก

“วันนี้ผมทำงานอย่างเป็นทางการวันที่ 3 วันแรกๆ ข้าราชการเครียดมาก ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ต่างคนต่างกลัวว่าหากเข้าใกล้ ผบ.แล้วจะมีการฟ้องกัน ทุกคนเครียดไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่กล้าเดินผ่านหน้าห้อง ผบ. วันนี้เริ่มผ่อนคลาย เริ่มมีรอยยิ้ม เริ่มเดินผ่านหน้าห้องกันบ้างแล้ว”

ผบ.เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ยังกล่าวต่อว่า ในหลายประเด็นที่รับทราบจากสื่อมวลชน เช่น การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดนักโทษในเรือนจำที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยระบุว่า นักโทษชื่อ นายก้องภพ หรือ ก้องศรีสิน เป็นผู้จัดการส่งยาเสพติด ขณะนี้ได้สั่งให้สอบสวนหาตัวแล้ว

และในเรื่องของการ “กินตรวน” ในส่วนของการตรวจสอบสะสางภายในนั้น ต้องให้กรมราชทัณฑ์เป็นผู้สอบสวน ซึ่งจะขอให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ระหว่างพักราชการรายนั้น มาให้ข้อมูลเป็นพยานด้วย หากจะตั้งกรรมการสอบภายในเรือนจำเองนั้นคงไม่เหมาะ และเรื่องคงไม่ไปถึงไหน ดังนั้น กรรมการที่จะมาสอบสวนต้องมาจากกรมราชทัณฑ์จะเหมาะสมที่สุด

“ในเรื่องของการเล่นการพนันในเรือนจำนั้น นักโทษทำทุกอย่างทุกเรื่องให้เป็นการพนันได้ พนันถึงขั้นว่าผู้คุมเดินเข้ามาในแดนนั้น จะเดินเข้าประตูมาด้วยขาข้างไหนก่อนกัน ซ้ายหรือขวา หรือเดินแล้วรูดใบไม้แล้วพนันว่ากี่ใบ เล่นพนันกันได้ทุกอย่าง เรือนจำจึงมีมาตรการห้ามมีเงินสดอยู่ในมือนักโทษ แต่กระนั้นก็ยังพนันกันเป็นสิ่งของ ซึ่งเมื่อพนันกันแล้วติดหนี้กันแล้วบานปลายถึงขั้นแทงกันตายก็มี อุปกรณ์การพนันในเรือนจำจึงมีไม่ได้อย่างเด็ดขาดเป็นของต้องห้าม” ผบ.เรือนจำนครศรีธรรมราช กล่าว

ส่วนทางด้านการสอบสวนรวบรวมข้อมูลเครือข่ายค้ายาเสพติดจากโทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดมาได้นั้นยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีการประสานข้อมูลกันระหว่างฝ่ายสอบสวนและฝ่ายสืบสวนตลอดเวลา เมื่อข้อมูลเส้นทางยาเสพติดในพื้นที่ชัดเจนฝ่ายสอบสวนจะนำส่งไปยังฝ่ายสืบสวนทำการสืบสวนหาเป้าหมาย จากนั้นเริ่มเข้าสู่กระบวนการขอหมายศาลตรวจค้นหาหลักฐานเชื่อมโยง และจับกุม และหากกรณีจำเป็นเร่งด่วนเจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช จะใช้อำนาจเจ้าพนักงาน ป.ป.ส.เข้าทำการตรวจค้นทันที

อย่างไรก็ตาม ในการสืบสวนเครือข่ายในเรือนจำนครศรีธรรมราช ผู้ที่เกี่ยวข้องรายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น และยึดโทรศัพท์ออกไปได้จำนวนมากแล้วนั้น โทรศัพท์ที่ยังหลงเหลือเจ้าหน้าที่เรือนจำได้สอดส่องเพิ่มความเข้มงวดหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในกลุ่มนักโทษผู้ค้ายาเสพติดซึ่งต้องการโทรศัพท์ใช้ในการติดต่อกับเครือข่ายภายนอก ส่งผลให้มีการเสนอให้ราคามือถือที่เล็ดลอดเข้าไปได้สูงถึงเครื่องละ 400,000 บาท จึงยังมีความพยายามในการนำส่งเข้าไปในเรือนจำนครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง
ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเครือข่ายค้ายา

โพยซื้อขาย

กำลังโหลดความคิดเห็น