ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - จนท.งัดมาตรการดูแลความปลอดภัยเมืองหาดใหญ่กู้ภาคการท่องเที่ยว สนธิกำลังร่วมพันนายต่อวัน รับห้วงสงกรานต์ การแข่งวอลเลย์บอล และกีฬามหาวิทยาลัย พร้อมสอดแนมด้วยหน่วยอรินทราชอีก 1 กองร้อย ด้านผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวร่วมใจทั้งลดราคา 10-70% ห้องพักซื้อ 1 แถม 1 ดีเดย์หลังสงกรานต์ฉุดเมืองหาดใหญ่ผงาดอีกครั้ง
ฝ่ายความมั่นคงและภาคเอกชนร่วมกู้วิกฤตความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเคยสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวปีละกว่า 1.6 ล้านบาท โดยตื่นตัวรื้อแผนและเพิ่มมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัย ภายหลังจากที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ภายในลานจอดรถชั้นใต้ดิน ห้างลี การ์เดนส์ พลาซ่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีก 416 คน ล่าสุดนั้น นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียชุดแรกร่วมพันเดินทางมาพักผ่อนในเมืองหาดใหญ่แล้วในวันหยุดก่อนเทศกาลสงกรานต์เพียง 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ตามที่ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้นโยบายมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้นตลอด 2 เดือนนี้ ซึ่งจะมีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ทำให้หลายหน่วยงานต้องทำงานกันอย่างเข้มขวด เพื่อดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ ย่านถนนเสน่หานุสรณ์ใจกลางเมืองหาดใหญ่ ระหว่าง 11-13 เม.ย., การแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาด “สมิหลา-ช้าง” เอเชียนทัวร์ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 14-16 เม.ย. และกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39 ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระหว่างวันที่ 1-8 พฤษภาคม
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 เปิดเผยว่า ในห้วงนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมวางมาตรการเรียกคืนความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยสนธิกำลังทหาร ตำรวจ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ในพื้นที่เพื่อจัดกำลังตั้งด่านตรวจค้น และเฝ้าระวังความปลอดภัยเป็นกรณีพิเศษใน 3 อำเภอ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ อ.เมืองสงขลา และ อ.สะเดา ทั้งในการตรวจรถต้องสงสัยทั้งชนิด และทะเบียนที่มีการแจ้งว่าคนร้ายอาจใช้ก่อเหตุ บุคคลผู้ต้องสงสัย ตลอดจนสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ที่อาจอาศัยช่วงเทศกาลในการขนย้าย
นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ยังได้อบรมเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย และผู้ประกอบการในเมืองหาดใหญ่ เพื่อเรียนรู้ถึงการปฎิบัติการ และนโยบายด้านความมั่นคงของเป้าหมาย ที่อาจถูกก่อวินาศกรรม และตัดโอกาสการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายในกรณีต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่ และสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง
สำหรับเมืองหาดใหญ่ซึ่งอยู่ในช่วงจัดกิจกรรมต่างๆ นั้น นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ให้ความสำคัญในการดูแลครอบคลุมตั้งแต่สนามบินนานาชาติ สถานีขนส่ง สถานีรถไฟ โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่พลุกพล่าน ขณะเดียวกัน ได้มีการตั้งด่านจุดตรวจรวม 45 จุด ร่วมด้วยเครื่องมือการตรวจ สุนัขดมกลิ่น ตลอดจนจัดกำลังตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วจำนวน 10 ชุด และแบ่งหน้าที่ให้หน่วยงานภาครัฐร่วมบูรณาการดูแล 3 ชั้น คือ หาดใหญ่ชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ร่วมด้วยกับกำลังของหน่วยอรินทราช ซึ่งเป็นหน่วยตำรวจที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้อาวุธ และยุทธการพิเศษ จำนวน 1 กองร้อย 150 นาย ที่จะเดินทางมาถึง จ.สงขลา ในวันที่ 11 เมษายนนี้ เพื่อเฝ้าจับตาสถานการณ์
“ตอนนี้บอกได้เลยว่า การดูแลความปลอดภัยของเรามีความเข้มข้น แต่ละวันใช้กำลังของทุกฝ่ายร่วมพันคนในการทำงาน และจะเพิ่มในช่วงที่เทศกาลสงกรานต์นี้ ซึ่งหน่วยงานใดมีกำลังใดเสริมได้ก็จะเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นกำลังของ ทสปช. (ไทยอาสาป้องกันชาติ) เครือข่ายวิทยุเครื่องแดงจำนวน 1,403 เครื่อง เป็นต้น เช่นเดียวกับการตั้งด่านที่เฝ้าระวัง และสกัดกันในทั้ง 3 อำเภอ จนกว่าสถานการณ์ความเชื่อมั่นในความปลอดภัยจะกลับคืนมา” พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวต่อและว่า
ในขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรภาค 9 กำลังดำเนินโครงการตาตำรวจ โดยอยู่ระหว่างประสานงานให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยของตนเอง และพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งในส่วนของการใช้กล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV เป็นอุปกรณ์สำคัญชั้นหนึ่งในการติดตามตัวคนร้าย โดยได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มขึ้นจากเดิม และตรวจสอบสภาพให้ใช้การได้ ตลอดจนมุมในการติดตั้งที่จับภาพได้ชัดเจนขึ้น โดยจะมีการขึ้นทะเบียนกล้อง CCTV ของภาคเอกชนเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบให้เกิดประโยชน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับกล้องของหน่วยงานในภาครัฐที่กำลังระดมตรวจสอบสภาพและบำรุงรักษาให้ใช้การได้ด้วย
ในส่วนของการจอดรถยนต์ชนิดติดแก๊ส LPG ซึ่งคนร้ายใช้ถังแก๊สบรรจุชนวนระเบิดก่อเหตุคาร์บอมบ์นั้น พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ได้พยายามอุดช่องโหว่นี้โดยทำหนังสือขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ห้างร้าน และโรงแรมต่างๆ ใช้ดุลยพินิจของตนเองว่ามีความสามารถในการดูแลมากน้อยเพียงใด เนื่องจากแม้จะเชื่อว่าผู้ใช้รถยนต์ติดแก๊สจะมีความเข้าใจสถานการณ์ แต่ทางตำรวจก็ห้ามไม่ให้จอดในลานจอดรถได้ เพราะจะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ จึงขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ของสถานที่นั้นๆ เพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบ โดยให้บันทึกบุคคลที่นำรถมาจอดสามารถติดต่อได้หากเกิดผิดสังเกต และตรวจสอบชนิดของเชื้อเพลิงว่าเป็นแก๊สชนิดใด
ด้านนายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา และนายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า แม้หลังเกิดเหตุระเบิดจะทำให้นักท่องเที่ยวยกเลิกห้องพักเป็นจำนวนมาก แต่มีการฟื้นตัวของภาคธุรกิจได้เร็วขึ้น จากการปรับตัวของผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวซึ่งเข้าใจสถานการณ์ของ อ.หาดใหญ่ ได้ดีขึ้น ทำให้ใช้บริการห้องพักช่วงสงกรานต์ในปีนี้กระทบไม่มากนัก โดยมีการจองแล้ว 80%
“ตอนนี้นักท่องเที่ยวได้กลับมาเที่ยวหาดใหญ่ แต่ผลกระทบก็ยังคงมีอยู่บ้าง ทำให้ส่วนใหญ่เลือกพักโรงแรมรอบนอกแทนใจกลางเมือง เนื่องจากภาพควันพิษ และเหตุการณ์นั้นยังคงติดตาอยู่ ในส่วนของโรงแรมลี การ์เดนส์ ก็จะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที 12 เม.ย.นี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าเทศกาลสงกรานต์นี้น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 50 ล้าน ซึ่งลดจากที่คาดการณ์ไว้ในสถานการณ์ปกติ 50%” นายสมชาติกล่าวต่อและว่า
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยวได้ร่วมใจกันฟื้นเมืองท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักดังเดิม โดยการร่วมโปรโมชันลดราคาค่าบริการตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป รวม 5 สัปดาห์ ทั้งในส่วนของห้องพักที่ซื้อ 1 แถม 1, ห้างสรรพสินค้าลดราคาสินค้า 10-70%, ร้านอาหารลด 15%