ทีมข่าวภูมิภาค
อาจจะเป็นด้วยกำลังหมดวาระและจะต้องกระโจนลงสนามเลือกตั้งครั้งใหม่ จึงทำให้เห็น “วิกฤต” ของบ้านเมืองที่อยู่ตรงหน้ากลายเป็นช่องทางของการสร้าง “โอกาส” ขึ้นมาทันที โดยเฉพาะการได้ “ซุป'ตาร์” นักเล่าข่าวและนักสร้างภาพชื่อเสียงกระฉ่อนจอแก้วมาช่วยการันตี จึงไม่ลังเลที่จะรีบตัดสินใจดำเนินการใดๆ เพื่อไขว่คว้าสิ่งเหล่านั้นไว้
ขณะที่เปลวเพลิงและควันไฟจากคาร์บอมบ์ยังลามเลียตั้งแต่ชั้นจอดรถใต้ดินกลืนกินไปยังชั้นต่างๆ ของอาคารสูง 33 ชั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าหรูและโรงแรมดังระดับ 5 ดาว “ลี การ์เดนส์ พลาซ่า” ในย่านเศรษฐกิจของนครหาดใหญ่เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 31 มี.ค.2555 และเกิดความโกลาหลไปทั่วเมืองนั้น ได้เกิดเสียงร่ำลือแพร่สะพัดว่า ต้นตอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องการก่อวินาศกรรม แต่เป็นเพียงแก๊สระเบิดเท่านั้น
มีรายงานข่าวว่า นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ ช่วงบ่ายวันเกิดเหตุระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่ผ่านทีวีช่องหนึ่งในลักษณะประสานเสียงกับฝ่ายตำรวจและปกครองในพื้นที่ว่า สาเหตุของระเบิดที่ห้างและโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า เกิดจากแก๊สระเบิดบริเวณชั้นจอดรถยนต์ใต้ดิน
ท่ามกลางข่าวที่พยายามจะให้สะพัดไปว่าระเบิดกลางเมืองหาดใหญ่เป็นเพียงแก๊สระเบิด เพื่อลดภาวะตื่นตระหนกนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศนั้น ประชาชนจำนวนมากกลับปักใจว่าเป็นเรื่องของการก่อวินาศกรรม เนื่องจากเหตุการณ์ที่หาดใหญ่เกิดขึ้นหลังจากคาร์บอมบ์กลางเมืองยะลา 2 จุด และจักรยานยนต์บอมบ์ที่ จ.ปัตตานีอีก 1 จุดแบบนับนาทีได้
ทว่า ช่วงค่ำวันนั้นก็มีภาพจากทีมกู้ภัยยืนยันว่าต้นตอของเหตุระเบิดหาดใหญ่คือ คาร์บอมบ์ แถม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ที่เดินทางไปตรวจพื้นที่ก็ออกมาให้สัมภาษณ์สำทับว่า เป็นคาร์บอมบ์และเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ไม่เพียงเท่านั้น ภายหลังเกิดเหตุพื้นที่ชั้นจอดรถใต้ดินของอาคารลี การ์เดนส์ พลาซ่า ก็ถูกปิดตายและมีการ์ดคอยกันไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้านอกจากเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะบรรดาสื่อมวลชนที่รุมล้อมอยู่รอบๆ ที่เกิดเหตุไม่ต่างจากกองทัพย่อยๆ ช่างภาพทีวีบางคนพยายามจะแอบเข้าไปถ่ายภาพยังถึงกับถูกล็อกคอนำตัวออกมา
แต่แล้วค่ำของวันที่ 2 เม.ย.ก็กลับเกิดปรากฏการณ์ผู้บริหารท้องถิ่น นายไพร พัฒโน แอบนำพิธีกรรายการโทรทัศน์ชื่อดังทางช่อง 3 นายสุรยุทธ สุทัศนะจินดา และคณะชุดใหญ่เข้าไปบันทึกรายการและเก็บรายละเอียดที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ชั้นใต้ดินอาคารลี การ์เดนส์ พลาซ่า แล้วมาถ่ายทอดในรายการได้อย่างเอิกเกริก โดยสิ่งนี้ยืนยันได้จากคลิปรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ที่ออกอากาศช่วงเช้าของวันที่ 3 เม.ย.2555
ทั้งนี้ รายการเรื่องเล่าเช้านี้ทางช่อง 3 ในวันนั้นมีการสร้างภาพสุดหรูให้พิธีกร ชาย-หญิง นั่งจัดรายการอยู่บนลานโลงบนยอดเขาคอหงส์ เทือกเขาคู่เมืองหาดใหญ่ ซึ่งบนเขานั้นนอกจากจะมองเห็นวิวได้ทั่วเมืองหาดใหญ่แล้ว ยังสามารถมองเห็นทะเลสาบสงขลาอันตระการตาที่อยู่ถัดไปได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม เวลานี้กลับเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขรมไปทั่วเมืองหาดใหญ่ โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการและประชาชนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวว่า ในขณะที่หลายฝ่ายพยายามช่วยกันกอบกู้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวด้วยวิธีการต่างๆ นานา โดยต้องการรักษานักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งถึงขั้นมีการประสานเชิญรัฐมนตรีและผู้บริหารจากประเทศมาเลเซียให้มาเยือนหาดใหญ่เพื่อลดกระแสความตื่นตระหนก
ประกอบด้วย ดาโต๊ะลัด ซาลีมัน อับดุลเลาะ เลขานายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เดินทางมาหลังเกิดเหตุเพียงวันเดียวคือวันที่ 1 เม.ย. ตามด้วย ดาโต๊ะอาซิส ราฮัม ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีมาเลเซียฝ่ายสวัสดิการและสังคม เดินทางมาแล้วเมื่อวันที่ 3 เม.ย. อีกทั้ง Dato Sri Dr.Ng Yen Yen รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวแห่งประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางมาด้วยตัวเองในวันที่ 5 เม.ย.ที่แล้ว
แต่ปรากฏว่า ภาพและเนื้อหาของรายการเรื่องเล่าเช้านี้ที่ออกอากาศในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งมีทั้งการบรรยายและฉายให้เห็นภาพหลุมระเบิดที่เกิดจากคาร์บอมบ์เป็นวงกว้าง รวมถึงซากรถยนต์ ซากปรักหักพังต่างๆ และแม้กระทั่งซากศพคนตาย โดยตลอดเวลามีการบรรยายและถาม-ตอบระหว่างพิธีกร นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และผู้ร่วมรายการคือ นายไพร พัฒโน อย่างออกรสชาตินั้น สิ่งนี้กลับถูกระบุว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียแตกกระเจิงกลับประเทศ และกรุ๊ปทัวร์ที่ถูกจองไว้ล่วงหน้าว่าจะเข้ามาเที่ยวหาดใหญ่ก็ถูกยกเลิกไปเกือบทั้งหมด
“หากใครไม่เชื่อว่ารายการนี้เป็นสาเหตุให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลย์ตื่นตระหนัก ซึ่งเวลานี้ช่วงเทศกาลสงการนต์น่าเป็นห่วงมาก และเรายังประเมินกันว่าน่าจะสะเทือนไปถึงสิ้นปีนี้ด้วย หรือแม้กระทั่งคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เองไม่เชื่อว่าการกระทำของท่านมีผลกระทบดังกล่าว ผมอยากจะเชิญมาพบกับพวกเราที่หาดใหญ่ได้ตลอดเวลาครับ” หนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองหาดใหญ่ที่ล้อมวงพูดคุยกันระบุ