ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯสงขลา ติดอาวุธทางปัญญาแก่อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ประจำมัสยิดในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ หวังใช้หลักคำสอนของศาสนาแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสร้าง ชุมชนให้เข้มแข็ง
วันนี้ (19 มี.ค.) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมอิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น ประจำมัสยิดทุกมัสยิดของอำเภอหาดใหญ่ ตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา อาคารมัสยิดกลาง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้หลักคำของศาสนาอิสลามมาบูรณาการในการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่งเสริมบุคลากรผู้นำศาสนาให้มีความเข้าใจในการนำบทบัญญัติศาสนาอิสลาม มาใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และเพื่อสร้างจิตสำนึกตามหลักศาสนาอิสลาม ในการรับผิดชอบต่อสังคม โดยมี นายเสรี พานิชกุล นายอำเภอหาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองร่วมให้การต้อนรับ
นายเฉ็ม เหมมัน รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยใช้หลักอิสลามมาตรการทางสังคม (หุกุมปากัต) พ.ศ.2546 กล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ.2546 ปัญหายาเสพติดมีความรุนแรง ทางรัฐบาลได้ทำการปราบปรามอย่างหนักหน่วง
ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ภายใต้การนำของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาในสมัยนั้น ได้ร่วมกันจัดทำมาตรการทางสังคม หรือ หุกุมปากัต พ.ศ.2546 ขึ้น และประกาศใช้อย่างเข้มข้น ทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง
แต่ในปัจจุบันปัญหายาเสพติดได้กลับมาทวีความรุนแรงอีกครั้ง และในขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ได้เล็งเห็นว่า รัฐบาลมีนโยบายเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของจังหวัดสงขลา ที่มีความตั้งใจจริงในการต่อสู้เอาชนะยาเสพติด
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ในฐานะประธานการประชุม กล่าวว่า จังหวัดสงขลา ขอขอบคุณที่ทางสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และทางชมรมผู้บริหารมัสยิดประจำอำเภอหาดใหญ่ ที่ได้จัดทำโครงการดีๆ ขึ้น ซึ่งทางจังหวัดเห็นว่า ทุกท่านมีจิตสำนึกร่วมกันว่า ปัญหายาเสพติด คือ ภัยร้ายที่ขัดต่อหลักศาสนา เป็นภัยร้ายที่ทำลายสังคม
“จังหวัดสงขลาได้เล็งเห็นถึงความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่ทุกภาคส่วนอุทิศตนโดยใช้ความรู้ความสามารถที่มี และใช้หลักการตามหลักศาสนา ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสร้างหมู่บ้าน/ชุมชนให้เข้มแข็ง และมีความสันติสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป จังหวัดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้ เป็นก้าวที่สำคัญ ที่ผู้นำศาสนาจะได้เข้ามาช่วยลูกหลานของท่าน รวมทั้งชุมชน หมู่บ้าน ให้เกิดความศรัทธาต่อหลักศาสนาอย่างแท้จริง” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าว