ปัตตานี - ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เผยใช้เงินเยียวยาให้ญาติผู้เสียชีวิตกรณีทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ กว่า 7.5 ล้านบาท เนื่องจากเงินที่มอบให้มีจำนวนมากกว่าทางศาสนาอิสลามได้กำหนด จึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิตในการนำเงินดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
วันนี้ (6 ก.พ.) นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า กรณีการเยียวยาให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต 7.5 ล้านบาท ให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตกรณีทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น การเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบต้องมองในหลายมิติ อันดับแรกที่สำคัญ คือ การเยียวยาในด้านจิตใจ โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามจะไม่คำนึงทรัพย์สินเป็นอันดับแรก แต่คำนึงถึงในด้านจิตใจมากกว่า
โดยในวันนี้ทางตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้น จำนวน 20 คน จังหวัดละ 5 คน ตามคำสั่งของเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คณะกรรมการอิสลามทั้ง 4 จังหวัด คือ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสงขลา มาตรวจสอบและหาข้อมูลในด้านต่างๆ เพื่อพิจารณาให้เข้าหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องของการเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นกรณีมัสยิดกรือเซะ ซึ่งผ่านมา 8 ปีแล้วก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา หรืออีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ตาม จึงต้องให้คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้น ไปตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง
ส่วนการมอบเงินเยียวยานั้น ตนมีความเห็นด้วย แต่เนื่องจากว่าเงินที่มอบให้มีจำนวนมากกว่าที่ทางศาสนาอิสลามได้กำหนด จึงจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต ในการที่จะนำเงินดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจากการสอบถามกับญาติผู้เสียชีวิตต่างก็รู้สึกดีใจที่ทางภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และจะเอาเงินส่วนนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลานให้ได้จบการศึกษาระดับสูงขึ้นด้วย
วันนี้ (6 ก.พ.) นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า กรณีการเยียวยาให้แก่ญาติผู้เสียชีวิต 7.5 ล้านบาท ให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตกรณีทหารยิงชาวบ้าน 4 ศพ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น การเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบต้องมองในหลายมิติ อันดับแรกที่สำคัญ คือ การเยียวยาในด้านจิตใจ โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามจะไม่คำนึงทรัพย์สินเป็นอันดับแรก แต่คำนึงถึงในด้านจิตใจมากกว่า
โดยในวันนี้ทางตนได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้น จำนวน 20 คน จังหวัดละ 5 คน ตามคำสั่งของเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้คณะกรรมการอิสลามทั้ง 4 จังหวัด คือ ปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสงขลา มาตรวจสอบและหาข้อมูลในด้านต่างๆ เพื่อพิจารณาให้เข้าหลักเกณฑ์ตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องของการเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นกรณีมัสยิดกรือเซะ ซึ่งผ่านมา 8 ปีแล้วก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา หรืออีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ตาม จึงต้องให้คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้น ไปตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง
ส่วนการมอบเงินเยียวยานั้น ตนมีความเห็นด้วย แต่เนื่องจากว่าเงินที่มอบให้มีจำนวนมากกว่าที่ทางศาสนาอิสลามได้กำหนด จึงจำเป็นจะต้องทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิต ในการที่จะนำเงินดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจากการสอบถามกับญาติผู้เสียชีวิตต่างก็รู้สึกดีใจที่ทางภาครัฐได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และจะเอาเงินส่วนนี้มาเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลานให้ได้จบการศึกษาระดับสูงขึ้นด้วย
