ตรัง - "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" ระบุแก้รัฐธรรมนูญเป็นระเบิดเวลารัฐบาล และการก่อเหตุรุนแรง จนไม่สามารถปรองดองได้
วันนี้ (3 มี.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ให้สัมภาษณ์ที่บ้านพักนายชวน หลีกภัยประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. โดยมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ต้องกำหนดประเด็นให้ชัดเจน เพราะถ้าไม่ชัดเจน อาจนำไปสู่ชนวนเหตุความขัดแย้งในสังคมที่รุนแรงได้
และยิ่งแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) และกลุ่มคนเสื้อแดง มีความพยายามแทรกแซงที่จะยุบองค์กรอิสระ และกระบวนการยุติธรรมต่างๆ เพื่อต้องการแก้แค้นที่เคยลงโทษบุคคลของพรรคก่อนหน้านี้ รวมถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.112 หมวดพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหมวดใหญ่สุด เป็นเรื่องที่น่าห่วงว่า อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งได้ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะออกมายืนยันแล้วว่า จะไม่แตะต้องหมวดดังกล่าว แต่ก็เป็นหลักประกันไม่ได้ เพราะขณะนี้ตัวนายกเองก็ยังคุมคนในพรรคไม่ได้เลย แล้วจะเอาหลักประกันจากไหนมายืนยันว่าจะไม่ทำเช่นนั้นจริง ที่สุดก็จะกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ของสังคมไทยที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง
ส่วนกรณีของนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ ที่ถูกทำร้ายร่างกายก็เช่นเดียวกัน เป็นเรื่องที่น่าห่วง ซึ่งพรรค ปชป.ก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น การเคลื่อนไหวในลักษณะนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก
ส่วนการที่พรรค พท. และกลุ่มคนเสื้อแดง ระบุว่า รธน.ปี 50 มาจากการปฏิวัติรัฐประหารนั้น นายสาทิตย์ตอกกลับว่า ถ้าจะพูดถึงที่มาของ รธน.ที่เป็นรัฐประหาร ในอดีตก็มีที่มาจากการปฏิวัติหลายฉบับที่มีการบังคับใช้กันอยู่ทั่วไป ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฉบับปี 40 หรือ 50 ประเด็นสำคัญอยู่ที่เนื้อหาที่มาบังคับใช้มากกว่า แต่ก็ใช่ว่า รธน.ปี 50 จะดีที่สุดไม่มีจุดอ่อนเลย ซึ่งการจะยกเลิกทั้งฉบับ โดยอ้างว่ามาจากการปฏิวัติ และไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่า ต้องการแก้เพื่อสาเหตุใด หรือต้องการเพื่อให้บุคคลสำคัญคนหนึ่งกลับเข้าประเทศได้โดยปกติสุขอย่างไม่มีความผิด ก็จะทำให้เกิดการระแวงแคลงใจนำไปสู่ความขัดแย้งในที่สุด
ถามว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นไม่สามารถปรองดองได้หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า การปรองดองไม่ขึ้นอยู่กับ กมธ.ปรองดอง แต่อยู่ที่พฤติกรรมและการกระทำ ที่สำคัญรัฐบาลต้องเลิกสร้างเงื่อนไขของความขัดแย้ง โดยเฉพาะการแก้ไข รธน.ก็เป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่อยู่แล้ว
ยิ่ง นายเฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ยังออกมาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เรื่องนี้ก็เป็นระเบิดเวลาอีกลูกหนึ่งของสังคมไทย ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมด ณ เวลานี้ยังมองไม่เห็นว่า จะสร้างความปรองดองได้อย่างไร หรือจะเกิดการเผชิญหน้ามากน้อยแค่ไหน