กมธ.วิฯ แก้รัฐธรรมนูญ จวกฝั่งเพื่อไทยรวบรัดปิดประตูตีแมว เชื่อต่อย “วรเจตน์” สัญญาณลัทธิเลียนแบบความรุนแรง ห่วงพวกป่วนสยามสามัคคีชุมนุมเย็นนี้ จี้รัฐเลิกพล่ามปมขัดแย้ง หนุนศาลตัดสินคดีเลือกตั้ง
วันนี้ (2 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรมนูญมาตรา 291 กล่าวถึงกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า กรรมาธิการจากพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ได้รับใบสั่งรวบรัดปิดประตูตีแมวให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว มีบางคนเสนอรวบรัดพิจารณารายมาตราตั้งแต่วันแรก หากที่ประชุมเห็นด้วยจะทำให้แก้ไขเสร็จไม่เกิน 15 วัน ทั้งที่สภาให้กรอบเวลาแปรญัตติ 30 วัน จึงเป็นการรวบรัดแบบผิดสังเกต เตือนว่าหากรวบรัดเช่นนี้จะทำให้เกิดการต่อต้านจากนอกสภาได้
นายเทพไทกล่าวว่า ทั้งนี้ยังเห็นว่าการทำร้ายร่างกายนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดลัทธิเลียนแบบก่อความรุนแรง ในการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ และแสดงความเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มสยามสามัคคีที่ต่อต้านการล้มรัฐธรรมนูญว่า อาจมีคนบางกลุ่มสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้น รัฐบาลควรมีท่าทีที่ชัดเจนไม่ควรพูดกลับไปกลับมา และหยุดแสดงความเห็นในประเด็นที่จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เช่น การยุบศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครอง เพื่อดับชนวนความรุนแรง โดยรัฐบาลควรรับฟังจุดยืนของทุกฝ่าย
ส่วนข้อเสนอของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เสนอให้ยุบ กกต.และให้มีศาลเลือกตั้งมาตัดสินคดีทุจริตเลือกตั้งนั้น นายเทพไทกล่าวว่า อาจสวนทางกับแนวความคิดของพรรคเพื่อไทยที่ต้องการให้มีศาลเดียว แต่โดยส่วนตัวเห็นด้วยที่จะให้คดีเลือกตั้งมาจบที่ศาล เพราะที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของ กกต.ก็ถูกตั้งคำถามมากว่าเหตุใดจึงไม่มีการแจกใบแดง ทั้งที่มีข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งคนทำหน้าที่ กกต.ต้องไม่หวั่นไหวต่อแรงกดดัน โดยเปรียบเทียบกับ กกต.ชุดแรกที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีได้รับการยอมรับจากสังคม ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่โครงสร้างแต่อยู่ที่ตัวบุคคลที่มาทำหน้าที่
