วันนี้ (27 ก.พ.) ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดและบรรยายพิเศษในเรื่องแนวทางการดำเนินนโยบายด้านแรงงานเพื่อการปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการสัมมนา เรื่องบทบาทบัณฑิตแรงงานกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้กับบัณฑิตแรงงานที่ทำงานในตำบลต่างๆ จำนวน 294 คน เพื่อให้บัณฑิตแรงงานมีความเข้าใจและเป็นสื่อกลาง (ตัวแทน) กระทรวงแรงงาน ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานในระดับพื้นที่และช่วยสร้างความเข้มแข็งให้อาสาสมัครแรงงานและขยายเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานให้ครอบคลุมพื้นที่ อันจะทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้าถึงบริการด้านแรงงานและได้รับการเยียวยาปัญหาด้านแรงงานได้อย่างทันสถานการณ์ เกิดประโยชน์สุขต่อประชาชน ชุมชนเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ โครงการจ้างบัณฑิตแรงงาน ได้กำหนดการบริหารจัดการโครงการตามกรอบยุทธศาสตร์กระทรวงแรงงานในเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับผลกระทบจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนต่อแรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความเหมาะสม ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ร่วมกับสำนักงานแรงงานจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 ก.พ.55 รวม 2 วัน
ในระหว่างการสัมมนา มีการบรรยายพิเศษจากผู้มีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการแรงงาน อาทิ ผศ.ณัชพงษ์ จันจุฬา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในเรื่อง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประตูสู่ประเทศไทยและจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้อำนวยการสำนักประสานความร่วมมือระหว่าง บรรยาย แนวทางดำเนินงานของกระทรวงแรงงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประสบการณ์กรณีประเทศมาเลเซีย และ นางสาวภัทรพร สมันตรัฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสำนักงานแรงงานในประเทศมาเลเซีย บรรยายในเรื่อง แนวโน้มสถานการณ์ด้านแรงงานต่างด้าวของประเทศมาเลเซีย เป็นต้น
ด้าน นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ ผช.รัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้สั่งการให้ ผู้เกี่ยวข้องในกระทรวงแรงงาน ทั้งกรมจัดหางานและกรมแรงงาน จัดทำโครงการเร่งด่วน นำช่างฝีมือในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านกระบวนการเรียนรู้อบรมเข้มวัฒนธรรม และภาษา ของประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น ไปทำงานในประเทศดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น และลดการว่างงานของเยาวชนอีกด้วย
ประการสำคัญ เป็นการไปนำเงินจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศเรา ซึ่งที่ผ่านมาเงินที่เข้ามาในประเทศจะไม่ถึงมือของคนในระดับรากหญ้า ดังนั้น ให้คนในระดับรากหญ้าไปนำเงินกลับเข้ามาด้วยตนเอง จะทำให้เม็ดเงินถึงมือกันจริงๆ ในเบื้องต้น ให้เป็นโครงการนำร่องจัดส่งไปรุ่นละไม่น้อย 40-50 คนก่อน