ยะลา - ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชี้ กรณี 4 ศพที่ อ.หนองจิก ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่หาข้อสรุป ส่วนคาร์บอมบ์ปัตตานี เร่งให้มีการตรวจกลุ่มผู้ก่อเหตุด่วน
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.45 น.ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 1, 2 ตัว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมรับฟังสรุปข้อมูลภาพรวมของสถานการณ์และเหตุการณ์ที่สำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะรับฟังความคืบหน้าเหตุชาวบ้าน 4 ศพ ที่บ้านกาหยี ต.ปุโล๊ะปูโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และเหตุการณ์คาร์บอมบ์ หน้าสำนักงานสาธารณะสุขปัตตานี และยังได้กำชับการปฏิบัติงานแก่หน่วยกำลังทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน รองผู้บัญชาการ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รอง.ผบ.ศชต.) นายประมุข ละมุล รองเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รองเลขา ศอ.บต.) ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ สงขลา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจหมายเลข 1 และ 2 ตัว เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ ข้าราชการฝ่ายพลเรือน ร่วมให้การต้อนรับ และเข้าร่วมในการประชุม
ก่อนเข้าประชุม นางคอลีเยาะ หะหลี อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนภาคใต้ ได้นำตัวแทนชาวบ้านจากหมู่ที่ 7 ต.กำปงลูวา และ หมู่ที่ 5 ต.วังกว้าง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการทหารบก ระงับการโยกย้ายกำลังพลของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ไม่ให้ออกนอกพื้นที่ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กล่าวว่า ตอนนี้คดีความยังอยู่ในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ในการมาพุดคุยหารือในหลายๆ เรื่อง ในทุกๆ เหตุการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาในภาพรวม ว่า ทางเราจะต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา เพราะฝ่ายตรงข้ามต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่มีความรุนแรงขึ้นทุกวัน จะเห็นได้ว่า เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.ปัตตานี ตนเองก็จะต้องสอบถามถึงรายละเอียดความชัดเจนว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร
ส่วนมารตรการที่มีการใช้อยู่นั้นมีความเพียงพอแล้วหรือยัง ซึ่งจากการตรวจสอบแล้ว ตนเองก็พยายามทำทุกอย่าง แต่ฝ่ายตรงข้ามก็ยังหลุดรอดออกไปก่อเหตุได้ จึงต้องมีการร่วมประชุมหารือวิธีการใหม่ๆ ที่จะสามารถสร้างความปลอดภัยให้มากขึ้น สำหรับในพื้นที่ช่วงนี้เหตุการณ์ต่างๆ ลดลง แต่จะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น ฝ่ายตรงข้ามต้องการสร้างผลกระทบให้ไปสู่สังคมโดยรวมมากยิ่งขึ้น และฝ่ายเจ้าหน้าที่เองก็ถูกลอบทำร้ายมากขึ้น เพราะฉะนั้นจะต้องหาวิธีการว่าทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกหัด และการบังคับบัญชา
ส่วนในเรื่องเหตุการณ์ชาวบ้านที่ถูกยิงเสียชีวิต 4 ศพ ที่บ้านกาหยี ต.ปุโล๊ะปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตอนนี้อยู่ในระหว่างการสืบสวนว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร ถ้าเกิดเหตุการณ์จากความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ หรือจากการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ ก็ต้องมีการเยียวยา ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ที่เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ในส่วนทางกฎหมายก็ว่ากันไปตามระบบกฎหมาย ซึ่งตนเองก็ได้ให้ความร่วมมือทุกประการ ทั้งนี้ ในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนนั้น คงจะต้องใช้ระยะเวลา 1 เดือน ในเวลานี้ควรให้เป็นการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
ส่วนเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ปัตตานี เป็นกระบวนการผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งเป็นคนที่ขับเคลื่อนทุกอย่างในทุกพื้นที่ จะด้วยผลประโยชน์ใดๆ ก็แล้วแต่ มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเถื่อน การกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะการก่อเหตุรุนแรงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลา จึงทำให้การกระทำความผิด การหลีกเลี่ยงภาษีต่างๆ ทำได้สะดวกขึ้น หรือการค้ายาเสพติดที่เอื้อประโยชน์ต่อกันทำได้ง่ายขึ้น ขณะนี้เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน โดยใช้คนของผู้ก่อเหตุรุนแรงในการสร้างสถานการณ์ที่เกิดขึ้น