นครศรีธรรมราช - กฟผ.รุกสร้างโรงไฟฟ้าในหัวไทรนครศรีฯ ตั้งทีมสร้างมวลชนหนุนซ้อนทีมก่อสร้างพาชาวบ้านทัวร์เที่ยวลาวกล่อมหนุนสร้าง รวบรวมพื้นที่แล้วรอขั้นตอนซื้อขายเท่านั้นฝ่ายต้านเตรียมขยับเคลื่อนอีกครั้งยันค้านเต็มกำลัง อุบไต๋เตรียมทำบางสิ่งบางอย่าง
ความเคลื่อนไหวในการเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนโดยใช้เพลิงเป็นถ่านหิน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในพื้นที่นครศรีธรรมราช 2 อำเภอ คือ อ.หัวไทร และ อ.ท่าศาลา โดยหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีปฏิกิริยาจาก กฟผ.เน้นหนักในการเตรียมการก่อสร้างโรงแรกให้ได้ก่อนในพื้นที่แถบชายทะเลช่วง ต.หน้าสตน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีการเคลื่อนไหวทั้งในทางเปิดและทางปิดอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าล่าสุด นายรอง แก้วสกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ทาง กฟผ.ได้พาชาวบ้านไปทัวร์ท่องเที่ยวและบอกว่าเป็นการดูงานในประเทศลาว เพื่อให้กลับมาสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ และได้มีการทำหนังสือถึงผู้นำท้องที่ว่าเตรียมที่จะเปิดเวทีทำ EIA หรือรายงานผลวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความชัดเจนอย่างเป็นทางการ โดยมีเหตุผลอ้างว่ากลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ไม่มีแล้ว ซึ่งเครือข่ายเห็นว่าจะให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเท่ากับว่าเรากำลังไปใช้เวทีของ กฟผ.แทนที่ กฟผ.จะต้องเข้ามาใช้เวทีของชาวบ้านเขามาหาชาวบ้าน
“เรากำลังเตรียมการทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อแสดงถึงการต่อต้านอย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ กฟผ.รู้ว่าโดยเนื้อแท้ของชาวบ้านโดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพอยู่กับท้องทะเล และชาวบ้านที่รู้เท่าทันกับภัยที่จะเกิดขึ้นนั้นมันไม่สามารถควบคุมได้” นายรองกล่าว
ขณะที่แหล่งข่าวภายใน กฟผ.ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ใหญ่ กฟผ.ได้แต่งตั้งชุดเจ้าหน้าที่ลงไปปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยเฉพาะจังหวัดชายฝั่งทะเล นอกจากนครศรีธรรมราชแล้วจะประกอบด้วย ตรัง กระบี่ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่จะต้องสร้างโรงไฟฟ้าให้ได้ก่อน โดยได้รุกหนักในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งมีงานรายงานเข้ามาให้ผู้ใหญ่ทราบเป็นระยะอยู่แล้ว
“ส่วนที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นั้น กฟผ.มั่นใจแล้วว่าจะสามารถสร้างได้อย่างแน่นอน ซึ่งสังเกตได้จากที่ผู้ใหญ่ได้แต่งตั้งทีมชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ซ้อนการทำงานกับทีมก่อสร้างพลังงานความร้อน โดยทีมชุมชนสัมพันธ์นั้นมีหน้าที่ในการสร้างเครือข่ายมวลชนในการสนับสนุนสร้างโรงไฟฟ้า สาเหตุที่มีการตั้งทีมงานซ้อนเข้ามาในพื้นที่นั้น ผู้ใหญ่เห็นว่า 2 ปีที่มีการทำงานในพื้นที่นครศรีธรรมราช ความคืบหน้าอย่างเป็นทางการไม่มีเลย โดยที่ทีมเดิมนั้นถึงเจอหน้ากันกลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการตั้งไปอีกทีมในพื้นที่เดียวกัน” แหล่งข่าวรายนี้กล่าว
แหล่งข่าวรายเดิมยังกล่าวต่อว่า สิ่งที่ กฟผ.ค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารรถสร้างโรงไฟฟ้าโรงแรกได้ที่ อ.หัวไทร คือ เรื่องของพื้นที่ก่อสร้าง โดยในทางปิดนั้นมีการรวบรวมพื้นที่เป้าหมายในการก่อสร้างไว้ได้แล้ว รอเพียงแค่ขั้นตอนอย่างเป็นทางการเพื่อนำไปสู่การทำธุรกรรมจัดซื้อที่ดินเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวในการเตรียมการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนโดยใช้เพลิงเป็นถ่านหิน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในพื้นที่นครศรีธรรมราช 2 อำเภอ คือ อ.หัวไทร และ อ.ท่าศาลา โดยหลายเดือนที่ผ่านมาได้มีปฏิกิริยาจาก กฟผ.เน้นหนักในการเตรียมการก่อสร้างโรงแรกให้ได้ก่อนในพื้นที่แถบชายทะเลช่วง ต.หน้าสตน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีการเคลื่อนไหวทั้งในทางเปิดและทางปิดอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าล่าสุด นายรอง แก้วสกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ทาง กฟผ.ได้พาชาวบ้านไปทัวร์ท่องเที่ยวและบอกว่าเป็นการดูงานในประเทศลาว เพื่อให้กลับมาสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ และได้มีการทำหนังสือถึงผู้นำท้องที่ว่าเตรียมที่จะเปิดเวทีทำ EIA หรือรายงานผลวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความชัดเจนอย่างเป็นทางการ โดยมีเหตุผลอ้างว่ากลุ่มต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ไม่มีแล้ว ซึ่งเครือข่ายเห็นว่าจะให้เรื่องนี้เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาดเพราะเท่ากับว่าเรากำลังไปใช้เวทีของ กฟผ.แทนที่ กฟผ.จะต้องเข้ามาใช้เวทีของชาวบ้านเขามาหาชาวบ้าน
“เรากำลังเตรียมการทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อแสดงถึงการต่อต้านอย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ กฟผ.รู้ว่าโดยเนื้อแท้ของชาวบ้านโดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพอยู่กับท้องทะเล และชาวบ้านที่รู้เท่าทันกับภัยที่จะเกิดขึ้นนั้นมันไม่สามารถควบคุมได้” นายรองกล่าว
ขณะที่แหล่งข่าวภายใน กฟผ.ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้ใหญ่ กฟผ.ได้แต่งตั้งชุดเจ้าหน้าที่ลงไปปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยเฉพาะจังหวัดชายฝั่งทะเล นอกจากนครศรีธรรมราชแล้วจะประกอบด้วย ตรัง กระบี่ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่จะต้องสร้างโรงไฟฟ้าให้ได้ก่อน โดยได้รุกหนักในพื้นที่ จ.ตรัง ซึ่งมีงานรายงานเข้ามาให้ผู้ใหญ่ทราบเป็นระยะอยู่แล้ว
“ส่วนที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช นั้น กฟผ.มั่นใจแล้วว่าจะสามารถสร้างได้อย่างแน่นอน ซึ่งสังเกตได้จากที่ผู้ใหญ่ได้แต่งตั้งทีมชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่ซ้อนการทำงานกับทีมก่อสร้างพลังงานความร้อน โดยทีมชุมชนสัมพันธ์นั้นมีหน้าที่ในการสร้างเครือข่ายมวลชนในการสนับสนุนสร้างโรงไฟฟ้า สาเหตุที่มีการตั้งทีมงานซ้อนเข้ามาในพื้นที่นั้น ผู้ใหญ่เห็นว่า 2 ปีที่มีการทำงานในพื้นที่นครศรีธรรมราช ความคืบหน้าอย่างเป็นทางการไม่มีเลย โดยที่ทีมเดิมนั้นถึงเจอหน้ากันกลับไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการตั้งไปอีกทีมในพื้นที่เดียวกัน” แหล่งข่าวรายนี้กล่าว
แหล่งข่าวรายเดิมยังกล่าวต่อว่า สิ่งที่ กฟผ.ค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารรถสร้างโรงไฟฟ้าโรงแรกได้ที่ อ.หัวไทร คือ เรื่องของพื้นที่ก่อสร้าง โดยในทางปิดนั้นมีการรวบรวมพื้นที่เป้าหมายในการก่อสร้างไว้ได้แล้ว รอเพียงแค่ขั้นตอนอย่างเป็นทางการเพื่อนำไปสู่การทำธุรกรรมจัดซื้อที่ดินเท่านั้น