ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมาคมอสังหาริมทรัพย์สงขลา ร้องรัฐ “วิกฤตแรงงานขาดแคลน” หนักข้อขึ้นทุกวัน ต้องพึ่งแต่แรงงานต่างด้าวโดยเฉพาะพม่า รัฐต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก่อนวิกฤตจะลุกลามบานปลายก่อความเสียหายแก่ภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคอุตสาหกรรม
นายสมพงศ์ ศิริคติธรรม ที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดสงขลาโดยเฉพาะเรื่องของแรงงานมีปัญหามาก เนื่องจากภาพรวมขณะนี้ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ภายหลังจากแรงงานจากภาคอีสานและภาคเหนือซึ่งก่อนนี้เข้ามาทำงานในพื้นที่จำนวนมากถึง 70% แต่ในขณะนี้แรงงานเหล่านี้ได้กลับคืนภูมิลำเนาหมดแล้ว และบางส่วนได้เข้าสู่แรงงานภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะสวนยางพาราและโรงงานอุตสาหกรรม ที่กำลังขยายตัวเติบโตในภาคอีสานและภาคเหนือ
“แรงงานทางภาคใต้ขาดแคลนหนัก โดยเฉพาะทางด้านอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องพึ่งพาแรงงานจากประเทศพม่าเป็นหลัก หากไม่มีแรงงานจากประเทศพม่าแล้วจะเกิดภาวะวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างขนานใหญ่ และตลอดไปถึงโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำในจังหวัดภาคใต้ด้วย แล้วจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม เพราะจะต้องชะลอกิจการ หรือลดระดับกิจการลง” ที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา กล่าว
นายสมพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ขอเรียนถามไปยังรัฐบาลและกรมแรงงาน ว่าจะช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร และประการสำคัญควรทำให้แรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ให้ถูกต้องตามกฎหมายให้หมด ซึ่งขณะนี้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่มีประมาณ 30% ที่รอเวลาการจดทะเบียนและรอต่อใบอนุญาต ที่จะต้องเสียภาษีนอกระบบอยู่
“ตรงนี้รัฐบาลก็เปิดโอกาสให้ทำได้ทันที หากไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ก็ควรอนุโลมให้ อย่าให้มีการจับกุม เพราะปัจจุบันแรงงานต่างด้าวมีมากทางภาคใต้ เฉพาะภูเก็ตประมาณ 500,000 คน สงขลา ประมาณ 250,000 คน” นายสมพงศ์ กล่าวก่อนจะเสริมอีกว่า
“ต้องให้โอกาสนักลงทุน เพราะเขามาลงทุนสร้างความเจริญให้กับบ้านเมือง แรงงานต่างด้าวเวลาถูกจับกุมเพราะเหตุผลว่าอนุญาตหมดอายุ และนักลงทุนเองก็กำลังดำเนินการต่ออายุ และอีกส่วนรอจดทะเบียนใหม่ เมื่อถูกจับกิจการที่กำลังดำเนินการอยู่ก็ต้องหยุดชะงัก อย่างต่ำเวลา 1 เดือน จะต้องมีผลกระทบและความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก ตรงนี้จึงอยากให้รัฐบาลทำการแก้ไข ซึ่งเรื่องนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสมาคมอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินการต่อไป” นายสมพงศ์ กล่าว
ด้าน นายทวีศักดิ์ แสงป้อม นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์แรงงานระดับปฏิบัติการระดับล่างยังคงขาดแคลนจำนวนมากเหมือนกับปีก่อน และยังคงต้องอาศัยพึ่งพาแรงงานต่างด้าวอยู่เช่นเดิม โดยภาพรวมในภาคใต้ยังขาดแคลนอยู่ประมาณ 30,000 คน และยังขาดแคลนเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากชาวพม่าได้เดินทางกลับประเทศเพราะเกิดปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา
“แรงงานที่ขาดแคลนหนักอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวเติบโตมากในจังหวัดสงขลาและใกล้เคียง แรงงานจะต้องทำงานถึง 2 รอบ ทั้งรอบกลางวัน และกลางคืน เพราะจะต้องส่งมอบโครงการบ้านให้ทันตามสัญญา”
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า แนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันขาดแคลนแรงงาน ภาคเอกชนจะต้องมีการขับเคลื่อนโดยให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ ภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนได้อย่างมีศักยภาพมีหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ โดยเสนอให้รัฐบาลทำเอ็มโอยู (MOU) กับประเทศพม่า เพื่อนำแรงงานเข้ามา โดยตั้งจำนวนตัวเลขแรงงานให้สูงกว่าความต้องการเอาไว้ก่อน
“ปัจจุบันแรงงานในประเทศพม่ามีจำนวนมากมาย เพราะมีประชากรมากแต่มีงานทำน้อย จึงไม่มีปัญญาหาตรงนี้ เมื่อนำเข้ามาโดยถูกต้องก็ง่ายต่อการดูแลและควบคุม ปัจจุบันแรงงานพม่ามีมากที่สุด คือ ภูเก็ต สงขลา และระนอง” นายทวีศักดิ์ กล่าว
นายสมพงศ์ ศิริคติธรรม ที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดสงขลาโดยเฉพาะเรื่องของแรงงานมีปัญหามาก เนื่องจากภาพรวมขณะนี้ขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก ภายหลังจากแรงงานจากภาคอีสานและภาคเหนือซึ่งก่อนนี้เข้ามาทำงานในพื้นที่จำนวนมากถึง 70% แต่ในขณะนี้แรงงานเหล่านี้ได้กลับคืนภูมิลำเนาหมดแล้ว และบางส่วนได้เข้าสู่แรงงานภาคเกษตรกรรม โดยเฉพาะสวนยางพาราและโรงงานอุตสาหกรรม ที่กำลังขยายตัวเติบโตในภาคอีสานและภาคเหนือ
“แรงงานทางภาคใต้ขาดแคลนหนัก โดยเฉพาะทางด้านอสังหาริมทรัพย์ จึงต้องพึ่งพาแรงงานจากประเทศพม่าเป็นหลัก หากไม่มีแรงงานจากประเทศพม่าแล้วจะเกิดภาวะวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างขนานใหญ่ และตลอดไปถึงโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำในจังหวัดภาคใต้ด้วย แล้วจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม เพราะจะต้องชะลอกิจการ หรือลดระดับกิจการลง” ที่ปรึกษาสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา กล่าว
นายสมพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ขอเรียนถามไปยังรัฐบาลและกรมแรงงาน ว่าจะช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร และประการสำคัญควรทำให้แรงงานต่างด้าวที่มีอยู่ให้ถูกต้องตามกฎหมายให้หมด ซึ่งขณะนี้แรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่มีประมาณ 30% ที่รอเวลาการจดทะเบียนและรอต่อใบอนุญาต ที่จะต้องเสียภาษีนอกระบบอยู่
“ตรงนี้รัฐบาลก็เปิดโอกาสให้ทำได้ทันที หากไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ก็ควรอนุโลมให้ อย่าให้มีการจับกุม เพราะปัจจุบันแรงงานต่างด้าวมีมากทางภาคใต้ เฉพาะภูเก็ตประมาณ 500,000 คน สงขลา ประมาณ 250,000 คน” นายสมพงศ์ กล่าวก่อนจะเสริมอีกว่า
“ต้องให้โอกาสนักลงทุน เพราะเขามาลงทุนสร้างความเจริญให้กับบ้านเมือง แรงงานต่างด้าวเวลาถูกจับกุมเพราะเหตุผลว่าอนุญาตหมดอายุ และนักลงทุนเองก็กำลังดำเนินการต่ออายุ และอีกส่วนรอจดทะเบียนใหม่ เมื่อถูกจับกิจการที่กำลังดำเนินการอยู่ก็ต้องหยุดชะงัก อย่างต่ำเวลา 1 เดือน จะต้องมีผลกระทบและความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก ตรงนี้จึงอยากให้รัฐบาลทำการแก้ไข ซึ่งเรื่องนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมสมาคมอสังหาริมทรัพย์เพื่อดำเนินการต่อไป” นายสมพงศ์ กล่าว
ด้าน นายทวีศักดิ์ แสงป้อม นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า สถานการณ์แรงงานระดับปฏิบัติการระดับล่างยังคงขาดแคลนจำนวนมากเหมือนกับปีก่อน และยังคงต้องอาศัยพึ่งพาแรงงานต่างด้าวอยู่เช่นเดิม โดยภาพรวมในภาคใต้ยังขาดแคลนอยู่ประมาณ 30,000 คน และยังขาดแคลนเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากชาวพม่าได้เดินทางกลับประเทศเพราะเกิดปัญหาอุทกภัยที่ผ่านมา
“แรงงานที่ขาดแคลนหนักอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวเติบโตมากในจังหวัดสงขลาและใกล้เคียง แรงงานจะต้องทำงานถึง 2 รอบ ทั้งรอบกลางวัน และกลางคืน เพราะจะต้องส่งมอบโครงการบ้านให้ทันตามสัญญา”
นายทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า แนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันขาดแคลนแรงงาน ภาคเอกชนจะต้องมีการขับเคลื่อนโดยให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ ภาคเอกชนที่ขับเคลื่อนได้อย่างมีศักยภาพมีหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ โดยเสนอให้รัฐบาลทำเอ็มโอยู (MOU) กับประเทศพม่า เพื่อนำแรงงานเข้ามา โดยตั้งจำนวนตัวเลขแรงงานให้สูงกว่าความต้องการเอาไว้ก่อน
“ปัจจุบันแรงงานในประเทศพม่ามีจำนวนมากมาย เพราะมีประชากรมากแต่มีงานทำน้อย จึงไม่มีปัญญาหาตรงนี้ เมื่อนำเข้ามาโดยถูกต้องก็ง่ายต่อการดูแลและควบคุม ปัจจุบันแรงงานพม่ามีมากที่สุด คือ ภูเก็ต สงขลา และระนอง” นายทวีศักดิ์ กล่าว