ระนอง - คนไทยพลัดถิ่นกว่า 1.6 หมื่นคน มีความหวังได้สัญชาติไทยหลัง พ.ร.บ.สัญชาติฉบับที่ 5 ผ่านวุฒิสภา และรอเพียงนายกฯ กราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ก็สามารถบังคับใช้ตามกฎหมาย
วันนี้ (9 ก.พ.) นายสุพจน์ เลียดประถม ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้กฎหมายและแนวทางแก้ไขสถานะและสิทธิของบุคคลในประเทศ วุฒิสภาและคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะและรับทราบปัญหาสถานะของกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ที่บ้านหินช้าง หมู่ที่ 3 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง โดยมีกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นกว่า 100 คน ร่วมให้การต้อนรับ
นายสุพจน์กล่าวว่า ที่ประชุมวุฒิสภาได้ผ่านความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ... ฉบับที่ 5 เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรอเพียงนายกรัฐมนตรีนำขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย แล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษา และบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป
จากนั้นกระทรวงมหาดไทยต้องไปร่างกฎกระทรวง เพื่อกำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนวิธีการปฏิบัติในการให้คนไทยพลัดถิ่น และกลุ่มมอร์แกนได้ยื่นคำร้องขอสัญชาติไทยเพื่อให้คณะกรรมการรับรองความเป็นคนไทยพลัดถิ่นพิจารณาต่อไป ส่วนจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการร่างกฎกระทรวงของกระทรวงมหาดไทย
หากพระราชบัญญัติสัญชาติฉบับนี้มีผลบังคับประกาศใช้แล้วจะทำให้กลุ่มคนไทยพลัดถิ่นทั่วประเทศที่สำรวจไว้แล้วประมาณ 16,000 คน และกลุ่มมอแกนประมาณ 500 คน รวมทั้งผู้ที่ตกหล่นอีกหลายหมื่นคนจะได้รับผลประโยชน์ด้วย ซึ่งที่จังหวัดระนองมีหลายพันคน
นายเซ้ ภักดี อายุ 71 ปี คนไทยพลัดถิ่นบ้านหินช้าง กล่าวว่า บ้านหินช้างมีคนไทยพลัดถิ่น จำนวน 258 คน เฉพาะในครอบครัวของตนมีลูก 8 คน และหลาน 13 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งและรับจ้าง มีบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตรหมายเลขศูนย์ (0) การเรียกร้องขอสัญชาติไทยตนหวังเพียงเพื่อให้ลูกหลานได้มีความมั่นคงในชีวิต ทั้งในด้านความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และสวัสดิการต่างๆ ตามกฎหมาย และสามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น ส่วนตัวเองไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะอยู่อีกไม่กี่ปีก็จะลาลับโลกนี้ไปแล้ว