รายงาน...ศูนย์ข่าวภูเก็ต
ภายหลังที่ทีมตะกร้อเด็กนักเรียนรุ่นอายุ 12 ปี โรงเรียนคลองท่อมมิตรภาพ จ.กระบี่ สามารถคว้ารางวัลที่ 2 จากการแข่งขัน “กีฬาสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับประเทศ” รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ซึ่งจัดการแข่งขันไประหว่างวันที่ 6-11 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้ถือโอกาสนี้เที่ยวเพื่อพักผ่อนที่เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา ซึ่งทีมข่าว “ศูนย์ข่าว ASTVผู้จัดการภูเก็ต” มีโอกาสได้สัมภาษณ์ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
จ.ส.ต.ปรีชา รอดกูล เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองท่อม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ โค้ชนักกีฬา เปิดเผยว่า นักกีฬาของโรงเรียนคลองท่อมมิตรเป็นนักกีฬาที่มีอายุตั้งแต่ 9-12 ปี โดยเยาวชนเหล่านี้เป็นกลุ่มนักเรียนที่มีความมุ่งมุ่นและตั้งใจที่จะเป็นนักกีฬา ตนจึงได้ใช้เวลาว่างในการจัดตั้งทีมตะกร้อขึ้นมาโดยทำมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ภายใต้การสนับสนุนของโรงเรียน และผู้ปกครอง ซึ่งกว่านักกีฬาจะคว้ารางวัลมาได้ก็ต้องมีการฝึกซ้อมอย่างหนัก นักกีฬาจะมาพักและกินอยู่ที่บ้านพักของตนภายในสถานีตำรวจคลองท่อม และใช้เวลาในการฝึกซ้อมอย่างหนักวันละหลายชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม จากการทำทีมตะกร้อมา 5 ปีพบว่าประสบความสำเร็จโดยในช่วง 2 ปี แรกทีมตะกร้อของโรงเรียนคลองท่อมมิตรภาพไม่ได้รับการคัดเลือก แต่เมื่อเข้าสู่ปีที่ 3 ก็สามารถเอาชนะและได้เป็นตัวแทนของภาคใต้ไปแข่งในระดับประเทศ ซึ่งผลการแข่งขันในครั้งนั้น สามารถคว้ารางวัลที่ 2 มาครองได้ ส่วนปีต่อมาก็สามารถคว้ารางวัลที่ 3 ระดับประเทศมาครองได้เช่นกัน สำหรับปีนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จสามารถคว้ารางวัลที่ 2 มาครองได้สำเร็จ
จ.ส.ต.ปรีชากล่าวต่อไปว่า สำหรับผลงานที่ประสบความสำเร็จนั้นเกิดจากความตั้งใจอย่างเต็มที่ของนักกีฬา โรงเรียน และผู้ปกครองที่ช่วยกันส่งเสริมและผลักดัน และตั้งใจว่าจะทำทีมต่อไปเพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนหันมาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และเชื่อว่าหลังจากเด็กคนอื่นๆ เห็นผลงานที่ทำไว้ก็จะหันมาสนใจเล่นกีฬามากขึ้น
สำหรับเด็กที่จบการศึกษาตอนนี้ก็มีหลายคนที่ได้รับคัดเลือกให้ไปเรียนโรงเรียนกีฬา ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมและพัฒนาเด็กกระบี่ให้ไปได้จนถึงการเป็นนักกีฬาทีมชาติ
ขณะที่ ด.ช.อัษฎาวุธ พิรุณกาญจน์ อายุ 12 ปี นักกีฬาตะกร้อทีมโรงเรียนคลองท่อมมิตรภาพ ซึ่งเล่นในตำแหน่งตัวเสิร์ฟ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีโอกาสในการสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด ตนนั้นฝันอยากเป็นตำรวจ และอยากเล่นกีฬาจนเป็นนักกีฬาทีมชาติ หลังจากนี้ตนก็ต้องไปเรียนที่อื่นซึ่งอยากที่จะเข้าโรงเรียนกีฬาเพื่อที่จะได้พัฒนาความสามารถต่อไปจนได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ
เช่นเดียวกับ ด.ช.ชินกร ทองรักษ์ อายุ 9 ขวบ ตัวสำรองของทีม กล่าวว่า ชอบกีฬาตะกร้อ และเพิ่งเล่นเป็นปีแรก โดยเล่นในตำแหน่งตัวชง ตัวเองนั้นฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติเช่นเดียวกับรุ่นพี่
ขณะที่ ด.ช.จักรกฤษ สุขทวีไพบูลย์ อายุ 12 ปี กล่าวว่า เล่นมาเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยเล่นเป็นตัวชง และฝันอยากติดทีมชาติ ซึ่งตนจะตั้งใจฝึกซ้อมให้มากเพื่อที่จะได้เข้าโรงเรียนกีฬาให้ได้
ด้าน ด.ช.ขวัญชัย พิรุณกาญจน์ อายุ 9 ปี กล่าวว่า แม้เพิ่งเล่นเป็นปีแรกหลังจากที่เห็นพี่ชายมาเล่นก่อนหน้านี้ แต่ก็พยายาม ประกอบกับได้รับการดูแลและฝึกฝนเป็นอย่างดี จนกระทั่งตอนนี้ได้เลื่อนขั้นเป็นตัวสำรองแล้ว ซึ่งตนก็ฝันเช่นเดียวกันกับพี่ว่าอยากจะติดหนึ่งในทีมชาติ
ส่วน ด.ช.ธนวัตร ขุนนิคม อายุ 11 ปี กล่าวว่า การเล่นกีฬาเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งตนก็ฝันอยากเล่นตะกร้อทีมชาติเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เพื่อที่จะเป็นตัวแทนของจังหวัดและของประเทศไทย
และสุดท้าย ด.ช.อดิศร หาญกล้า อายุ 10 ปี เล่นในตำแหน่งตัวตบเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ตนอยากเล่นกีฬาตะกร้อต่อไปจนได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ฝันอยากเป็นนักกีฬาทีมชาติเช่นเดียวกัน
จะเห็นได้ว่า กว่าที่น้องๆ เยาวชนเหล่านี้กว่าจะประสบความสำเร็จนั้น ล้วนแสวงหาโอกาสและเพาะบ่มประสบการณ์ หมั่นฝึกฝนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นเวลาร่วมปี และจึงจะเดินทางไปถึงเส้นชัยที่หวังไว้ และที่สำคัญคือการรักษาคุณภาพ มีวินัยในการซ้อม เพื่อพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ
