สตูล - จังหวัดสตูลเดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก จัดการขยายคูคลอง และฝายชลประทานนำสิ่งอุดตัน เศษไม้ ขยะออก เพื่อทำที่ผันน้ำลงทะเลได้สะดวก
วันนี้(18 ต.ค.) ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากที่มีมานานนับสิบปี ในพื้นที่จังหวัดสตูล ยังคงเป็นปัญหาที่ยืดยาว และเป็นเรื่องวิตกกังวลทั้งภาครัฐ ที่ดูแลบรรเทาทุกข์ชาวบ้าน และภาคประชาชนที่กังวลว่าระดับปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นทุกปี ด้านนายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล (รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล) พร้อมนายอำเภอในพื้นที่ซึ่งดูแล 3 ลุ่มน้ำในจังหวัดสตูลสายสำคัญอย่าง 1.อำเภอเมือง อำเภอควนโดน ที่รองรับน้ำจากชลประทานฝ่ายคลองชลประทานดุสน และ 2.อำเภอละงู ที่ดูแลลุ่มน้ำสายอำเภอละงู 3.อำเภอท่าแพ ที่ดูแลลุ่มน้ำท่าแพ ร่วมกันออกตรวจและเตรียมทำการขยายคูคลอง ฝายทดแทนที่รับน้ำมาจากลุ่มน้ำที่สำคัญทั้ง 3 สาย
โดยเรียกเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องอย่างชลประทานจังหวัดสตูล หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ปลัดอำเภอผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชาวบ้าน เข้ามาชี้แจง ทำความเข้าใจกระบวนการขยายคูคลอง เพื่อเตรียมปริมาณน้ำฝน ที่ตกลงมาสะสมใน 3 ลุ่มน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดน้ำท่วมซ้ำซากได้ และกลายเป็นมวลน้ำที่สะสมไหลเข้าท่วมพื้นที่ชาวบ้านได้ ในช่วงฝนตกหนักลงมาในพื้นที่จังหวัดสตูล ซึ่งเสี่ยงกับภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดสตูล ที่เรียกว่าน้ำหลากได้ทันท่วงที
ล่าสุดภายหลังรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ตรวจปริมาณน้ำในคลองชลประทานดุสน พบว่า ปริมาณน้ำล่าสุดอยู่ 2,000 มิลลิเมตร ซึ่งฝายดุสนกักเก็บได้เพียง 2,500 มิลลิเมตร คงเหลือเพียง 500 มิลลิเมตร ซึ่งระดับที่วัดน้ำขึ้นเต็มที่ถึงจุดเตือนภัยอยู่ที่ 70 เมตร ตอนนี้เหลือเพียง 25 เมตร หากระดับน้ำถึงจุดที่เตือนภัยของชลประทานดุสนก็ถือว่าเสี่ยงภัยน้ำท่วม และถ้าหากฝนยังไม่ตกลงมาก็ถือว่าเป็นโชคดีของชาวพื้นที่อำเภอควนโดน อำเภอเมือง โดยทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เร่งลงพื้นที่ จัดการวางพื้นที่ขยายลำคลอง และฝายทดแทนน้ำให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ถึง 2 เท่าตัว เพื่อจัดระบบผันน้ำลงสู่ทะเลได้คล่องตัว ซึ่งปัจจุบันนี้สภาพอากาศแปรปรวนหากมีพายุเข้า ฝนตกหนัก ทางจังหวัดจึงจะช่วยเป็นการบรรเทาภัยน้ำท่วมได้ระยะหนึ่ง และสำหรับ 2 ลุ่มน้ำคือลุ่มน้ำอำเภอละงู ลุ่มน้ำอำเภอท่าแพ จะทำการลงสำรวจในวันถัดไป
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการเชิงรุก จัดการกับน้ำ และจัดการพื้นที่ ทั้ง 2 อำเภอ ในพื้นที่บริเวณตำบลย่านซื่อ อ.ควนโดน ได้ขุดเจาะท่อน้ำที่อุดตันให้กว้างขึ้น และอำเภอเมือง บริเวณเทศบาลตำบคลองขุด ขยายพื้นที่ลำธารที่ติดต่อจากชลประทานดุสนถึงพื้นที่เทศบาลคลองขุด ในพื้นที่ประมาณ 880 เซนติเมตร รื้อเอาดินโคลน เศษไม้ เศษขยะออกที่ขวางทางน้ำ
นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า วันนี้ลงสำรวจและใช้รถแบ็คโคคอยาวขุดออกขยายพื้นที่ เพื่อทำการจัดการระบบทางเดินน้ำให้ไหลลงทะเลได้สะดวก โดยทำการลอกคูคลอง และทำการชี้จุด รื้อพื้นที่ช่องทางน้ำคับแคบให้กว้างขึ้น โดยเป็นการรับมือปัญหาน้ำท่วมก่อน โดยอีก 2 พื้นที่ลุ่มน้ำละงู และท่าแพ ก็จะทำแบบนี้เช่นกันโดยจะเลือกพื้นที่ซึ่งโดนผลกระทบน้ำท่วมก่อน โดยเรื่องแก้ปัญหาน้ำท่วมนี้เป็นการทำงานตามนโยบายของจังหวัดอย่างเร่งด่วน หากไม่ทำหรือปล่อยทิ้งไว้ ชาวบ้านเองที่จะเดือดร้อนที่สุด รัฐเองก็จะถูกตีหน้าว่าไม่ช่วยเหลือชาวบ้าน และสิ่งที่สำคัญอีกคือจะดูพื้นที่ทำสัญญาณการเตือนภัยปัญหาน้ำท่วมแก่ชาวบ้านในทุกพื้นที่เสี่ยงที่เห็นได้ชัด คือสัญลักษณ์ธงสี
นายสมชาย มากมณี ผู้ใหญ่บ้านม. 2 เทศบาลคลองขุด อ.เมือง จ.สตูล บอกว่าพื้นที่ที่ลูกบ้านอาศัยอยู่นั้น อยู่ติดกับทางฝายน้ำชลประทานน้ำดุสนที่ไหลมา หากฝนตกหนัก และที่ผ่านมานั้น น้ำท่วมรวดเร็วชาวบ้าน เกษตรกรไม่มีสัญลักษณ์ดูว่ามีการเตือนภัยน้ำเป็นเพียงการโทรบอกของเทศบาล ให้แจ้งชาวบ้านอพยพขนของหนี หากบ้านไหนไม่มีใครอยู่ก็จม เสียหาย สิ่งที่จังหวัดทำนั้น ถือว่าดี ช่วยได้แค่นี้ก็ถือว่าได้ช่วยเพราะว่าทางน้ำไหลผ่านนั้นบางที่อุดตัน มีท่อเล็กบ้าง ดินชาวบ้านเข้าไปอุดตันบ้าง การสร้างบ้านจัดสรรทับเส้นทางน้ำ แต่จังหวัดโดยรองผู้ว่าฯเข้ามาแก้ปัญหาทางน้ำ ถือว่าดี ชาวบ้านพร้อมที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วม