ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หลังจากเขียงหมูในตลาดหาดใหญ่หยุดจำหน่ายเนื้อหมูครั้งใหญ่ 5 วัน พบผลกระทบตกอยู่ในผู้บริโภครายย่อยมากกว่า หวั่นเป็นเพียงแค่กดดันขอขึ้นราคาขายปลีกกับผู้บริโภคในภายหลัง เนื่องจากมีการส่งสัญญาณให้ร้านอาหารขนาดใหญ่เก็บสต๊อกล่วงหน้า และเจ้าของเขียงยังแช่แข็งส่งลูกค้าประจำทุกวัน ด้านกรมการค้าภายในจังหวัดสงขลา เตรียมเปิดหมูธงฟ้าบรรเทาความเดือดร้อนเป็นเวลา 3-4 วัน และจำหน่ายในราคาถูกกว่าตลาดสดอีกด้วย
ภายหลังจากที่ผู้ประกอบการขายหมูหน้าเขียงในตลาดหาดใหญ่ราว 200 เขียง ประกาศหยุดจำหน่ายเนื้อหมูเป็นเวลา 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-7 สิงหาคมนี้ เนื่องจากราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นเรื่อยๆ แต่การจำหน่ายเนื้อหมูราคาปลีกไม่สามารถปรับตามได้แล้วหลังจากราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 160 บาท
วันนี้ (4 ส.ค.) บรรยากาศของร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่ ที่ใช้หมูเป็นวัตถุดิบหลัก เช่น ร้านข้าวหมูแดง ส่วนใหญ่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่มีบางร้านที่หยุดจำหน่ายในห้วงเวลาเดียวกับที่มีการปิดเขียงหมู เช่น ร้านข้าวหมูแดงอภิชาต ที่มีทั้งลูกค้าชาวไทยและมาเลเซียเข้ามาใช้บริการ และจะหยุดเฉพาะวันพระเท่านั้น แต่วันนี้ได้ปิดป้ายเปิดร้านอีกครั้งวันที่ 8 สิงหาคม
อย่างไรก็ตาม ร้านข้าวหมูแดงขึ้นชื่ออื่นๆ ในเมืองหาดใหญ่ที่ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ โดยมีการแช่แข็งเนื้อหมูล่วงหน้า เช่นเดียวกับที่เจ้าของเขียงหมูได้จำหน่ายให้กับลูกค้าประจำดังเช่นเวลาปกติ
นางพิศมร สุปิยชัย เจ้าของร้านแสงศรี ตี๋ ซึ่งจำหน่ายข้าวหมู หมูกรอบ ขาหมู หน้าเป็ด และหน้าไก่ ขนาดตึกแถว 2 คูหา กล่าวว่า ก่อนที่เขียงหมูจะหยุดจำหน่ายนั้นได้มีการแจ้งลูกค้าล่วงหน้า และได้แช่แข็งเนื้อหมูเพื่อส่งให้กับทางร้านปกติ ประกอบการทางร้านได้มีสต๊อกเนื้อหมูอยู่แล้วเช่นกัน จึงสามารถเปิดร้านได้ตามปกติจนถึงวันจันทร์หน้า ดังนั้น แม้ว่าแต่ละวันจะต้องใช้หมูเป็นวัตถุดิบเกือบ 100 กิโลกรัม ก็ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว
ทั้งนี้ แม้ว่าราคาเนื้อหมูจะมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ ทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น แต่ทางร้านได้ปรับราคาอาหารในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเพียง 5 บาท จากราคาเริ่มต้นจานละ 35 เป็น 40 บาท ส่วนราคาจำหน่ายหมูแดง หมูกรอบกิโลกรัมละ 430 บาท
ในขณะที่ร้านอาหารรายย่อย และผู้บริโภคในครัวเรือนที่ไม่ทราบว่าจะมีการหยุดประท้วง กลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อการปิดเขียงหมูเป็นเวลา 5 วัน จำเป็นต้องซื้อเนื้อหมูในห้างสรรพสินค้าที่มาจากฟาร์มของบริษัทขนาดใหญ่แทน แม้ว่าจะมีการจำกัดโควตาลดลงเหลือคนละ 2 กิโลกรัมก็ตาม และตั้งข้อสังเกตว่า การประท้วงครั้งนี้น่าจะทำขึ้นเพื่อต่อรองผู้บริโภคขอปรับขึ้นราคามากกว่า ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ก็มิใช่ครั้งแรกที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในหาดใหญ่
ด้านนายชัยพร หนูฤกษ์ การค้าภายในจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ได้มีการตรวจสอบปัญหาดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการค้าเนื้อหมูเขียงแจ้งว่า จะมีการหยุดจำหน่ายเพื่อปรับตัว และไม่ให้ฟาร์มปรับราคาเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ เนื่องจากราคาหมูหน้าฟาร์มปรับขึ้นบ่อยจนกลายเป็นภาระที่ผู้ขายรายย่อยปรับราคาหน้าเขียงได้ยากขึ้น แต่ราคาขายกิโลกรัมละ 160 บาท ก็ยังไม่เกินราคาที่หน่วยงานรัฐแนะนำ
ทั้งนี้ ปัญหาการปิดเขียงหมูในหาดใหญ่ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อผู้จำหน่ายนำไปต่อรองทั้งการไม่ให้ฟาร์มปรับราคาขึ้น และเพื่อให้ผู้บริโภคยอมรับกับราคาใหม่หากต้นทางการจำหน่ายหมูยังสูง
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในจังหวัดสงขลา มิได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าว เพราะผู้บริโภครายย่อยซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากได้รับผลกระทบโดยตรง จึงได้เตรียมการจัดโครงการหมูธงฟ้าขึ้นหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสันหาดใหญ่ เป็นระยะเวลา 3-4 วันนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาซื้อสุกรเป็นจากฟาร์มใน จ.สงขลา เนื่องจากการสั่งซื้อใน จ.พัทลุง นั้นไม่สามารถจัดหาได้ทัน ด้วยมีปัญหาขาดแคลนเช่นเดียวกัน แต่หากสามารถหาสุกรเป็นได้เร็วก็จะเปิดจำหน่ายในวันพรุ่งนี้ โดยราคากิโลกรัมละประมาณ 140-145 บาท นอกจากนี้จะมีการเปิดโครงการธงฟ้าอีกเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนสินค้าอุปโภค-บริโภคมีราคาแพงอีกด้วย