ASTVผู้จัดการรายวัน - "พาณิชย์" ไล่บี้ผู้ค้าไก่ลดราคาลงอีกกิโลละ 10 บาท หลังต้นทุนไก่เป็นลดลง ส่วนเนื้อหมูแพง เตรียมเสนอ กกร. ออกประกาศคุมการขนย้ายหมูตามแนวชายแดน หวั่นลักลอบส่งออกเพื่อนบ้านทำให้ราคาในประเทศขยับสูงขึ้น พร้อมถกผู้ประกอบ-การคุมราคาอาหารตามสั่ง
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วม มือให้ผู้ค้าเนื้อไก่ปรับลดราคาขายปลีกลง อีก กก.ละ 5-10 บาท จากปัจจุบันที่ขาย กก.ละ 85-92 บาท เนื่องจากราคาไก่เป็น หน้าฟาร์มขณะนี้ปรับลดลงต่อเนื่อง จากราคาแนะนำ กก.ละ 55 บาท เหลือเพียง กก.ละ 44-45 บาท แต่ที่ผ่านมา ราคาขายปลีกเนื้อไก่กลับลดลงเพียง กก.ละ 2-5 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง
การแก้ปัญหาเนื้อหมูแพง ภายในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ กลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อพิจารณาออกมาตรการดูแล โดยจะกำหนดให้ผู้ที่ต้องการขนย้ายหมูเข้าจังหวัดตามแนวชายแดนจะต้องมีการขออนุญาตก่อนการขนย้าย พร้อมกับมีการกำหนดปริมาณที่จะต้องขออนุญาตขนย้ายด้วย
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ไม่ได้ออกควบคุมการขนย้ายหมูทั่วประเทศ แต่จะครอบคลุมเฉพาะจังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สระแก้ว จันทบุรี เป็นต้น เนื่องจากราคาหมูเป็นในประเทศเพื่อนบ้านบางแห่งยังสูงถึงกก.ละ 72-73 บาท สูงกว่าราคาแนะนำที่ 70 บาท ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงหมูอยู่ที่กิโลกรัมละ 58-59 บาท จึงถือว่าราคาแนะนำปัจจุบันเป็นราคาที่เหมาะสมแล้วแต่หากพบว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้ผล และราคาขายปลีกเนื้อหมูในประเทศยังไม่ปรับตัวลดลงก็จะออกมาตรการห้ามส่งออกหมูเพิ่มเติมอีก
ส่วนการแก้ปัญหาราคาอาหารสำเร็จรูปราคาแพง จะมีการเรียกผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ มาหารือในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อกำหนดมาตรการดูแล และสนับสนุนให้ร้านค้าสามารถขายอาหารได้ในราคาถูก เพื่อแบ่งการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน หลังจากที่ผ่านมา ได้รับร้องเรียนถึงปัญหาราคาอาหารแพงอย่างต่อเนื่อง
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะมีการออกมาตรการดูแลราคาเนื้อหมูอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการดูแลการขนย้ายตามจังหวัดที่ติดชายแดน และมีความเสี่ยงที่จะมีการลักลอบนำหมูไปจำหน่ายนอกประเทศ พร้อมกับกำหนดเลยว่ารถกระบะคันหนึ่งบรรทุกหมูได้กี่ตัว เพราะสาเหตุที่ทำให้เนื้อหมูราคาไม่ปรับลดลง มาจากมีการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นสูงเป็นวันละหลายพันตัว ซึ่งเชื่อว่าหากมีการควบคุมการลักลอบได้จะทำให้เนื้อหมูราคาลดลง
นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วม มือให้ผู้ค้าเนื้อไก่ปรับลดราคาขายปลีกลง อีก กก.ละ 5-10 บาท จากปัจจุบันที่ขาย กก.ละ 85-92 บาท เนื่องจากราคาไก่เป็น หน้าฟาร์มขณะนี้ปรับลดลงต่อเนื่อง จากราคาแนะนำ กก.ละ 55 บาท เหลือเพียง กก.ละ 44-45 บาท แต่ที่ผ่านมา ราคาขายปลีกเนื้อไก่กลับลดลงเพียง กก.ละ 2-5 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง
การแก้ปัญหาเนื้อหมูแพง ภายในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ กลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เพื่อพิจารณาออกมาตรการดูแล โดยจะกำหนดให้ผู้ที่ต้องการขนย้ายหมูเข้าจังหวัดตามแนวชายแดนจะต้องมีการขออนุญาตก่อนการขนย้าย พร้อมกับมีการกำหนดปริมาณที่จะต้องขออนุญาตขนย้ายด้วย
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้ไม่ได้ออกควบคุมการขนย้ายหมูทั่วประเทศ แต่จะครอบคลุมเฉพาะจังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สระแก้ว จันทบุรี เป็นต้น เนื่องจากราคาหมูเป็นในประเทศเพื่อนบ้านบางแห่งยังสูงถึงกก.ละ 72-73 บาท สูงกว่าราคาแนะนำที่ 70 บาท ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงหมูอยู่ที่กิโลกรัมละ 58-59 บาท จึงถือว่าราคาแนะนำปัจจุบันเป็นราคาที่เหมาะสมแล้วแต่หากพบว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้ผล และราคาขายปลีกเนื้อหมูในประเทศยังไม่ปรับตัวลดลงก็จะออกมาตรการห้ามส่งออกหมูเพิ่มเติมอีก
ส่วนการแก้ปัญหาราคาอาหารสำเร็จรูปราคาแพง จะมีการเรียกผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศ มาหารือในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อกำหนดมาตรการดูแล และสนับสนุนให้ร้านค้าสามารถขายอาหารได้ในราคาถูก เพื่อแบ่งการช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพแก่ประชาชน หลังจากที่ผ่านมา ได้รับร้องเรียนถึงปัญหาราคาอาหารแพงอย่างต่อเนื่อง
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้กระทรวงพาณิชย์จะมีการออกมาตรการดูแลราคาเนื้อหมูอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการดูแลการขนย้ายตามจังหวัดที่ติดชายแดน และมีความเสี่ยงที่จะมีการลักลอบนำหมูไปจำหน่ายนอกประเทศ พร้อมกับกำหนดเลยว่ารถกระบะคันหนึ่งบรรทุกหมูได้กี่ตัว เพราะสาเหตุที่ทำให้เนื้อหมูราคาไม่ปรับลดลง มาจากมีการลักลอบส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นสูงเป็นวันละหลายพันตัว ซึ่งเชื่อว่าหากมีการควบคุมการลักลอบได้จะทำให้เนื้อหมูราคาลดลง
