ลูกทรพีเมายาบ้าโมโหทุบตีทำร้ายแม่

ตรัง - ลูกทรพีคลั่งยาอาละวาดทุบตีแม่เพื่อนบ้านสุดทนโทร.แจ้งตำรวจลากคอเข้าคุก เจ้าตัวปากแข็งไม่ได้ทำร้ายแค่ผลัก ผู้เป็นแม่เผยต้องทนทุกข์ทรมานพฤติกรรมลูกคนนี้มาหลายปีแล้ว หวังเพียงวันหนึ่งลูกจะกลับตัวได้

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสื่อสาร 191 สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเหตุลูกเมายาบ้าคลั่งทำร้ายร่างกายแม่บังเกิดเกล้า ที่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองตรัง เข้าตรวจสอบเหตุ

เมื่อไปถึงพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้นมีรั้วรอบบริเวณ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้าน พบหญิงชราในสภาพร่างกายผอมบาง ถูกทำร้ายร่างกายกำลังนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนโซฟา โดยที่พื้นมีมุ้งครอบเด็กทารกวัย 11 เดือน และยังพบชายวัยรุ่นอยู่ในบ้าน จึงได้ควบคุมตัวไว้มาสงบสติอารมณ์ ทราบชื่อคือ นายพรเทพ หนูเนียม อายุ 29 ปี

สอบถามนางวรรณ หนูเนียม อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านผู้เป็นแม่ เล่าว่า ผู้ที่ทำร้ายตนคือ นายพรเทพ ลูกชายคนที่ 2 โดยก่อนเกิดเหตุสามีได้ออกจากบ้านไปขายของที่ตลาดบ้านไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง เหลือแต่ตนกับลูกชาย และหลานชายวัย 11 เดือน อยู่ที่บ้าน ระหว่างนั้นนายพรเทพซึ่งเพิ่งตื่นนอนจากชั้นบนได้เดินลงบันไดมาเข้าห้องน้ำข้างล่าง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับลูกชายนายพรเทพซึ่งอยู่ในวัยซุกซน เมื่อเห็นพ่อของตัวเองด้วยความดีใจจึงรีบเดินเข้าไปหาอย่างรีบร้อน และเกิดหกล้มหน้าผากไปคะมำกับพื้นจนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเสียงดังลั่น ทำให้นายพรเทพโกรธและไม่พอใจที่ตนปล่อยให้หลานชายหกล้ม จึงเดินปรี่เข้ามาผลักอกตนจนล้มหน้าผากไปกระแทกกับฝาผนังจนบวมปูด และก่อนที่นายพรเทพจะทำร้ายตนซ้ำอีกครั้งโชคดีที่เพื่อนบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุไว้ได้ทันก่อน

นางวรรณยังเล่าต่อพร้อมทั้งน้ำตาว่า ที่ผ่านมาตนต้องทนทุกข์ทรมานกับพฤติกรรมของลูกชายคนนี้มานานหลายปีแล้ว โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่หวังว่าเมื่อลูกชายได้ลูกชายแล้วจะกลับตัวกลับใจ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด กลับหนักขึ้นกว่าเก่า ซึ่งบางครั้งเวลาโมโหร้ายก็ขู่จะฆ่าตน หรือทุบตีตนจนฟันปลอมหัก ขนาดเพื่อนบ้านที่จะเข้ามาช่วยเหลือตนก็ยังไม่กล้า เพราะกลัวนายพรเทพจะไล่ฟันทำร้าย

สำหรับนายพรเทพ หลังจากจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้วก็ได้อยู่กินกับภรรยาชาว จ.อุดรธานี โดยที่ไม่ได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันและระหว่างอยู่กินด้วยกันก็มีบุตรชาย 1 คน แต่ด้วยความที่นายพรเทพเป็นคนที่มีนิสัยก้าวร้าวและโมโหร้าย เมื่อไม่พอใจหรือไม่ได้ดั่งใจก็จะทำลายข้าวของและทุบตีทำร้ายภรรยาตัวเองอยู่เสมอ จนกระทั่งภรรยาทนอยู่ไม่ไหวต้องหอบเสื้อผ้าหนีไปทำงานที่ กทม.และพยายามเอาลูกไปด้วย แต่นายพรเทพไม่ยอม ซึ่งหลังจากที่ภรรยาหนีไปแล้ว ด้วยความโมโหนายพรเทพก็ได้ลาออกจากพนักงานต้อนรับที่โรงแรมเรือรัษฎา จ.ตรัง เพื่อมาอยู่ที่บ้านเฉยๆ โดยไม่ได้ทำงานอะไร รวมทั้งยังทิ้งลูกชายวัย 11 เดือนให้ตนรับผิดชอบเลี้ยงดูตามลำพังคนเดียวอีกด้วย

ขณะที่เพื่อนบ้านรายหนึ่งเล่าว่า นายพรเทพมักจะเมายาบ้าและชอบทำร้ายร่างกายแม่จนได้รับบาดเจ็บอยู่ประจำ และเมื่อเพื่อนบ้านจะเข้าไปห้ามปรามและช่วยเหลือ นางวรรณ ก็จะถูกขู่ฆ่าและทำร้ายร่างกาย จึงไม่มีใครอยากจะเข้าไปยุ่ง จนกระทั่งเมื่อทนไม่ไหวจึงต้องช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุแทน

ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายพรเทพไปสอบสวนที่ สภ.เมืองตรัง โดยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เสพยาเสพติดแม้ผลตรวจปัสสาวะจะพบว่าเป็นสีม่วง โดยเบื้องต้นจึงถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าเสพยาเสพติดโดยผิดกฎหมาย และทำร้ายร่างกายบุพการี ขณะเดียวกัน เตรียมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปดูแลสภาพจิตใจนางวรรณ และหลานชายอย่างเร่งด่วนแล้ว