บอร์ด สปส.ไฟเขียว เพิ่มสิทธิประโยชน์ 6 กรณี คาดมีผลบังคับใช้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ส่วนเรื่องปลูกไตของผู้ป่วยก่อนเข้าเป็นผู้ประกันตนนั้น ส่งเรื่องให้ คกก.การแพทย์ปรับปรุงเงื่อนไข
วันนี้ (21 มิ.ย.) นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.) กล่าวหลังการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) ว่า ได้เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณในการเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตน ใน 6 กรณี ได้แก่ 1.เพิ่มสิทธิการรักษาพยาบาลโรคเรื้อรังจากเดิม ปีละไม่เกิน 180 วัน เพิ่มเป็นไม่จำกัดวัน 2.เพิ่มสิทธิการรักษาพยาบาลในกรณีฉุกเฉิน ต่างโรงพยาบาล จากเดิมเบิกจ่ายได้ 2 ครั้งต่อปี เพิ่มเป็นไม่จำกัดจำนวนครั้ง 3.เพิ่มสิทธิทันตกรรมสามารถทำฟันปลอมได้ทั้งปาก ในวงเงิน 4,400 บาท และผ่าตัดฟันคุด 4.เพิ่มสิทธิการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ โดยหากตรวจค่าเม็ดเลือดขาว ซีดีโฟร์ เกินกว่า 250 แต่ไม่เกิน 350 ให้รับยาต้านไวรัสทันที 5.ในกรณีมีการวินิจฉัยโรคแล้วมีข้อบ่งชี้ว่าได้ยา ก็จะยาตามบัญชีหลักแห่งชาติ จ.2 เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ และ 6.เพิ่มสิทธิให้กับผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังหลังจากสมัครเป็นผู้ประกันตนแล้ว ให้มีสิทธิผ่าตัดเปลี่ยนไตได้ทันที พร้อมให้ยากระตุ้นเม็ดเลือด หากไม่เปลี่ยนเลือด โดยขยายค่ายาจาก 750 บาท ต่อ สัปดาห์ เป็น 1,125 บาทต่อสัปดาห์ ส่วนเรื่องของความร่วมมือกับสปสช.ในการเพิ่มสิทธิประโยชน์ใน 9 ประเด็น ยังไม่ได้มีการหารือกัน โดยจะมีการประชุมร่วมกับทางสปสช.อีกครั้งในวันที่ 13 ก.ค.54
นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล ผอ.สำนักจัดระบบบริการทางการแพทย์ สปส.กล่าวว่า กรณีการปลูกถ่ายไตของผู้ป่วยก่อนเข้าเป็นผู้ประกันตนนั้น ทางกรรมการไม่ขัดข้องในเรื่องหลักการ แต่จะส่งเรื่องให้ทางคณะกรรมการการแพทย์พิจารณาเพิ่มเงื่อนไข เพราะผู้ป่วยบางรายตรวจเลือดแล้วค่าที่ออกมาแสดงว่ายังไม่เป็นอะไร แต่ในความเป็นจริงผู้ป่วยมีอาการหนักแล้ว ในส่วนนี้จึงต้องนำเรื่องกลับไปปรับปรุงในเงื่อนไขให้เหมาะสมก่อน ส่วนเรื่องยารักษาโรคมะเร็งยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม
ทั้งนี้ จะนำประกาศให้กับทางนิติกรช่วยดูถ้อยคำให้ถูกต้องและส่งต่อให้ประธานคณะกรรมการพิจารณา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ไม่เกิน 2 สัปดาห์