ชุมพร - ตำรวจท่าแซะ เมืองชุมพรรวบ 3 โจ๋ก่อคดีปล้น-ข่มขืน-ฆ่าโหดแรงงานพม่า
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (1 มี.ค.) ที่สภ.ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์บูรพา ผกก.สภ.ท่าแซะ พ.ต.ท.ปัญญา ท้วมศรี รอง ผกก.สส.สภ.ท่าแซะ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีและใช้อาวุธปืนจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ข่มขืนกระทำชำเราและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พ.ต.อ.วิมลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 มีคนร้าย 4 คน บุกเข้าไปที่บ้านไม่มีเลขที่ในสวนยางพารา หมู่ 6 ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเอ๊า และนางวินวิน สองสามีภรรยาสัญชาติพม่า อาชีพลูกจ้างทำสวนยางพาราของ น.ส.อุไรวรรณ อินนิมิตร แล้วร่วมกันปล้นทรัพย์ ข่มขืนและฆ่านางวินวินจนถึงแก่ความตาย ส่วนนายเอ๊าผู้เป็นสามีได้แกล้งทำเป็นเสียชีวิตจึงรอดตายหวุดหวิด หลังก่อเหตุคนร้ายทั้ง 4 คนได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งพฤติการณ์ของคนร้ายถือเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมทารุณ สะเทือนขวัญ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม ผบก.ภ.จว.ชุมพร มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ รองผบก.ภ.จว.ชุมพร และ พ.ต.อ.วิมล พิทักษ์ บูรพา ผกก.สภ.ท่าแซะ เร่งสืบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว จากนั้นในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าแซะ ได้นำกำลังเข้าจับกุม นายพรศักดิ์ หรือแอ๊ด ศรีชาติ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 998 หมู่ 5 ต.หินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้ที่บ้านพักดังกล่าว
และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 12.30 น. จับกุมตัว นายแม็ก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อจีเน็ท หมายเลขโทรศัพท์ 08-3647-5159 จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นของผู้เสียหาย อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ใช้กระทำความผิด 1 กระบอก รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 ทะเบียน กยจ-57 ชุมพร 1 คัน และล่าสุดสามารถจับกุมนายศักดิ์ชัย โพธิ์น้อย อายุ 19 ปี ผู้ต้องหารายที่ 3 ได้เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 1 มีนาคม 2554
พ.ต.อ.วิมลเปิดเผยรายละเอียดของคดีว่า วันเกิดเหตุขณะที่นายเอ๊าและภรรยา คือนางวินวิน อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ มีคนร้าย 4 คนเข้าไปเรียกนายเอ๊าให้เปิดประตูโดยบอกว่าทั้งหมดมาดักยิงไก่ป่าและขอกาแฟดื่ม เมื่อนายเอ๊ากำลังเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนเพื่อต้มกาแฟในบ้าน คนร้าย 2 คนได้ใช้อาวุธปืนยาวทุบตีทำร้ายร่างกายนายเอ๊าและนางวินวิน ทั้งสองต่อสู้ขัดขืน คนร้ายอีก 2 คนพร้อมอาวุธมีดที่ซ่อนตัวอยู่ได้เข้ามารุมทำร้ายใช้ผ้ามัดมือและปิดตาทั้งสองเอาไว้ แล้วรื้อค้นทรัพย์สินในบ้านได้เงินสดประมาณ 14,000 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
หลังจากนั้นได้ลากตัวทั้งสองคนเข้าไปในสวนยางพาราใกล้กับบ่อน้ำข้างบ้าน แล้วคนร้ายทั้ง 4 คนได้ร่วมกันข่มขืนนางวินวินก่อนใช้อาวุธปืนจ่อศีรษะนางวินวิน แม้นางวินวินจะคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิต แต่คนร้ายก็ไม่สนใจ ได้ยิงนางวินวินจนถึงแก่ความตายแล้วนำศพไปโยนลงในบ่อน้ำ ก่อนจะใช้อาวุธปืนยิงนายเอ๊าได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นายเอ๊าแกล้งทำเป็นตาย คนร้ายจึงคิดว่าเสียชีวิตแล้วจึงพากันหลบหนีไป
“ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพ และมีผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังหลบหนี คือ นายปิยะพงศ์ ศรีชาติ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติออกหมายจับแล้ว และขอยืนยันว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานชัดเจน สามารถมีความเห็นสั่งฟ้องลงโทษผู้ต้องหาให้รับโทษตามกฎหมายได้” พ.ต.อ.วิมลกล่าว