xs
xsm
sm
md
lg

จำคุก 8 ปี! ไอ้หื่นชกเบ้าตา-ข่วนหน้าเหยื่อข่มขืนในลิฟต์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพประกอบข่าว
ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 8 ปี ไอ้หื่นกามตบหน้า-ชกเบ้าตา-ข่วนใบหน้า แล้วพยายามข่มขืนหญิงสาวในลิฟต์แมนชั่นย่านลาดพร้าว โชคดีมีพลเมืองดีได้ยินเสียงเหยื่อร้องให้ช่วยเหลือ จึงงัดประตูลิฟต์ช่วยไว้ได้ทัน

วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศิวะพัฒน์ หมวกแรต อายุ 26 ปี ชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา อนาจาร ความผิดต่อเสรีภาพและร่างกาย

โดยคดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2553 เวลากลางวัน ขณะที่ น.ส.ละออ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี กำลังกลับเข้าห้องพักที่ทรัพย์ทวีแมนชั่น ภายในซอยลาดพร้าว 122 ถ.ลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จำเลยซึ่งอาศัยอยู่ที่แมนชั่นเดียวกันได้ใช้อุบายลวงผู้เสียหายว่าลืมคีย์การ์ดทำให้ผ่านเข้าประตูแมนชั่นไม่ได้ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงเปิดประตูให้ผ่านมาด้วยกัน แต่ในขณะขึ้นลิฟต์มาด้วยกันนั้น จำเลยกลับกดปุ่มล็อกทำให้ลิฟต์ค้าง ก่อนใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายด้วยการตบหน้า ชกเบ้าตา ข่วนใบหน้า แล้วยังข่มขู่ให้ผู้เสียหายยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วยไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ผู้เสียหายหวาดกลัวพยายามขัดขืนและร้องตะโกนให้คนช่วยจนพลเมืองดีได้ยิน ใช้ชะแลงเหล็กงัดประตูลิฟต์เข้ามาช่วยผู้เสียหายเอาไว้ได้ และควบคุมตัวจำเลยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนดำเนินคดี จำเลยให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้ข่มขืนผู้เสียหาย เพียงแต่วิ่งตามผู้เสียหายเข้าลิฟต์แล้วเกิดเซไปกระแทกไหล่ของผู้เสียหายเท่านั้น ส่วนร่องรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายเกิดจากการทำร้ายตัวเอง

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่า โจทก์เบิกความได้สอดคล้องต้องกันเป็นลำดับขั้นตอน ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุจำเลยได้พยายามข่มขืนผู้เสียหายโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งตรงกับคำให้การที่ให้ไว้ในชั้นพนักงานสอบสวน ประกอบผลการตรวจชันสูตรบาดแผลตามร่างกายของผู้เสียหาย เห็นว่าหากผู้เสียหายไม่ถูกทำร้ายตามที่พยานโจทก์เบิกความย่อมไม่ได้รับบาดแผลดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีพยานแวดล้อมเบิกสนับสนุนว่าได้ยินผู้เสียหายร้องตะโกนให้ช่วยขณะติดอยู่ในลิฟต์ แม้ถูกช่วยออกมาแล้วก็ยังมีอาการหวาดผวา ร้องไห้เสียขวัญอยู่โดยตลอด เชื่อว่าพยานเบิกความไปตามจริง ที่จำเลยอ้างว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้องนั้นเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ไม่สมเหตุสมผล หรือหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริงตามฟ้อง จึงพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ตาม ป.อาญามาตรา 90 ให้ลงโทษบทที่หนักที่สุด ตาม ป.อาญามาตรา 276 วรรคหนึ่งประกอบวรรคสอง ฐานข่มขืนกระทำชำเราฯ ให้จำคุก 8 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น