เลื่อนอ่านอุทธรณ์คดีอุ้มทนายสมชาย โดยศาลให้ออกหมายจับ “พ.ต.ต.เงิน ทองสุก” หนีฟังคำพิพากษา พร้อมสั่งปรับนายประกัน 1.5 ล้านบาท นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้ง 11 มี.ค.นี้ ด้าน “อังคณา” เมียทนายสมชาย เชื่อ “พ.ต.ต.เงิน” ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้สูญหาย แต่จงใจหลบเลี่ยงหนีความผิด
วันนี้ (7 ก.พ.) เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 913 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และบุตรของนายสมชาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก อดีต สว.กอ.รมน.ช่วยราชการกองปราบปราม, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ อายุ 42 ปี อดีตพนักงานสอบสวน กก.4 ป., จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง อายุ 40 ปี อดีต ผบ.หมู่งานสืบสวน แผนก 4 กก.2 บก.ทท., ส.ต.อ.รันดร สิทธิเขต อายุ 38 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการ กก.4 ป. และ พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน อายุ 45 ปี อดีตรอง ผกก.3 ป. เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากกรณีการหายตัวไปของนายสมชาย เมื่อปี 2546
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก พ.ต.ต.เงิน ทองสุก เป็นเวลา 3 ปี ฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และให้ยกฟ้องจำเลยคนอื่น
ทั้งนี้ ในวันนี้จำเลยที่ 2-5 มาศาล ส่วน พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 ทราบนัดแล้วแต่ไม่มาศาล ซึ่งเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ส่วนที่ทนายจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังคำพิพากษา โดยอ้างว่าจะต้องรอฟังคำสั่งศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ร้องขอให้ พ.ต.ต.เงินเป็นบุคคลสาบสูญจากกรณีหายตัวไปในเหตุการณ์คันกั้นน้ำถล่มที่เขื่อนแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก โดยศาลเห็นว่าศาลจังหวัดปทุมธานียังไม่มีคำสั่งในคดีดังกล่าว นายประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลเพื่อฟังคำพิพากษาตามนัด ถือว่าผิดสัญญาประกัน จึงให้ปรับนายประกันเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้ง ในวันที่ 11 มี.ค. นี้ เวลา 09.00น.
ด้าน นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชายกล่าวว่า หากในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง โดยจำเลยเดินทางมาศาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวจำเลยตามหมายจับได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า พ.ต.ต.เงินเป็นบุคคลสาบสูญตามที่ญาติของจำเลยกล่าวอ้าง เนื่องจากการหลบหนีหมายจับเป็นได้ในหลายกรณี ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า พ.ต.ต.เงินยังมีชีวิตอยู่ และจงใจหลบเลี่ยงไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะเชื่อว่าจะถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำความผิด
วันนี้ (7 ก.พ.) เวลา 09.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 913 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และบุตรของนายสมชาย ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ต.เงิน ทองสุก อดีต สว.กอ.รมน.ช่วยราชการกองปราบปราม, พ.ต.ท.สินชัย นิ่มปุญญกำพงษ์ อายุ 42 ปี อดีตพนักงานสอบสวน กก.4 ป., จ.ส.ต.ชัยเวง พาด้วง อายุ 40 ปี อดีต ผบ.หมู่งานสืบสวน แผนก 4 กก.2 บก.ทท., ส.ต.อ.รันดร สิทธิเขต อายุ 38 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ธุรการ กก.4 ป. และ พ.ต.ท.ชัดชัย เลี่ยมสงวน อายุ 45 ปี อดีตรอง ผกก.3 ป. เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำผิด และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย จากกรณีการหายตัวไปของนายสมชาย เมื่อปี 2546
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก พ.ต.ต.เงิน ทองสุก เป็นเวลา 3 ปี ฐานร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย และให้ยกฟ้องจำเลยคนอื่น
ทั้งนี้ ในวันนี้จำเลยที่ 2-5 มาศาล ส่วน พ.ต.ต.เงิน จำเลยที่ 1 ทราบนัดแล้วแต่ไม่มาศาล ซึ่งเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับ ส่วนที่ทนายจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังคำพิพากษา โดยอ้างว่าจะต้องรอฟังคำสั่งศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ร้องขอให้ พ.ต.ต.เงินเป็นบุคคลสาบสูญจากกรณีหายตัวไปในเหตุการณ์คันกั้นน้ำถล่มที่เขื่อนแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก โดยศาลเห็นว่าศาลจังหวัดปทุมธานียังไม่มีคำสั่งในคดีดังกล่าว นายประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลเพื่อฟังคำพิพากษาตามนัด ถือว่าผิดสัญญาประกัน จึงให้ปรับนายประกันเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท และนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อีกครั้ง ในวันที่ 11 มี.ค. นี้ เวลา 09.00น.
ด้าน นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาทนายสมชายกล่าวว่า หากในวันที่ 11 มี.ค.นี้ ที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาอีกครั้ง โดยจำเลยเดินทางมาศาลหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมตัวจำเลยตามหมายจับได้ ก็ไม่ได้หมายความว่า พ.ต.ต.เงินเป็นบุคคลสาบสูญตามที่ญาติของจำเลยกล่าวอ้าง เนื่องจากการหลบหนีหมายจับเป็นได้ในหลายกรณี ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า พ.ต.ต.เงินยังมีชีวิตอยู่ และจงใจหลบเลี่ยงไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะเชื่อว่าจะถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้กระทำความผิด