ซิวยกแก๊งโจรปล้นโรงงาน ฉกทรัพย์สินหอบวงจรปิดหนีไม่รอด!

สืบภาค 1 โชว์ผลงานตามรวบแก๊งลักทรัพย์ ตระเวนปล้นทรัพย์ตามโรงงานในพื้นที่ จ.นนทบุรี นครปฐม และปทุมธานี พฤติกรรมสุดแสบขับรถตะเวนเลือกโรงงานที่มี รปภ.อยู่คนเดียว แล้วใช้ปืนขู่จับมัด ก่อนเข้าไปฉกทรัพย์สิน-เช็คเงินสด พร้อมถอดกล้องวงจรปิดแล้วหลบหนี สารภาพก่อเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง เงินที่ได้มาแบ่งใช้กินเที่ยว ขณะที่ ตร.แกะรอยจากเช็คที่คนร้ายนำไปขึ้น ก่อนตามรวบได้ยกแก๊ง

วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บก.สส.บช.ภ.1) พล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบก.สส.บช.ภ.1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.สส.1 บก.สส.บช.ภ.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.ภ.1 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายวินัย หรืออาร์ท วัชวรวงศ์ อายุ 26 ปี นายอรรถพร หรือท๊อป วัชวรวงศ์ อายุ 20 ปี ทั้งสองอยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ที่ 9 ต.นิลเพชร อ.บางเลน จ.นครปฐม และนายกฤษฎา หรือโต้ง ศรีทองเอี่ยม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 หมู่ที่ 11 ต.บางภาศรี อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมของกลางรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน วก-6598 กทม. อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก ปืนยาวบีบีกัน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 2 อัน ปืนสั้นบีบีกัน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีน 1 อัน หมวกคลุมหน้าสีดำ 2 ใบ อุปกรณ์การงัดแงะ เช่น ชะแลง คีมตัดเหล็ก ไขควง และทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ เช่น โทรทัศน์จอแอลซีดี คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์กล้องวงจรปิด รวมจำนวน 47 รายการ

พล.ต.ต.ทวิชชาติเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปปล้นทรัพย์สินตามโรงงานในพื้นที่ จ.นนทบุรี นครปฐม และปทุมธานี หลายครั้ง และพฤติกรรมคล้ายกันทั้งหมดคือ คนร้ายจำนวน 3 คนบุกเข้าไปใช้อาวธปืนขู่พร้อมทั้งจับ รปภ.ของโรงงานมัดไว้ จากนั้นก็จะเข้าไปกินอาหารในตู้เย็น ก่อนจะขนทรัพย์สินพร้อมทั้งถอดกล้องวงจรปิดกับฮาร์ดดิสก์บันทึกข้อมูลออกไปด้วย ทาง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) จึงสั่งการให้ บก.สส.บช.ภ.1 ทำการติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วน

พล.ต.ต.ทวิชชาติกล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ปีที่แล้ว ได้มีกลุ่มคนร้าย 3 คนตัดลวดหนามของโรงงานเฟอร์นิสอินดรัสทรีส์ ต.ขุนศรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ก่อนจะปีนเข้าทางหน้าของโรงงานเข้าไปขโมยทรัพย์สินประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และเช็กเงินสดของธนาคารยูโอบี อีก 60,000 บาทหลบหนีไป โดยหลังจากนั้นนายอรรถพร เป็นผู้นำเช็คใบดังกล่าวไปขอขึ้นเงินที่ธนาคาร จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.829/2553 ลงวันที่ 18 พ.ย.53 เอาไว้ ซึ่งพฤติกรรมของคนร้าย ในครั้งนั้นคล้ายกับเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งหลังมาก เจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงหลังน่าจะเป็นฝีมือของนายอรรถพร กับพรรคพวกแน่นอน

พล.ต.ต.ทวิชชาติกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันติดตามจับกุมผู้ต้องหาจนกระทั่งพบว่านายอรรถพรนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครธน แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เนื่องจากเจ้าตัวเล่นปืนกับนายวินัย ผู้เป็นพี่ชายแล้วปืนเกิดลั่นจนกระสุนไปโดนคางจนได้รับบาดเจ็บ จึงนำกำลังเข้าจับกุมตั้งทั้งคู่เอาไว้ได้เมื่อเวลา 13.00 น.วานนี้ (19 ก.พ.) ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ก่อนจะขยายผลตามจับกุมนายกฤษฎา เพื่อนร่วมแก๊งได้อีกคนที่บริเวณหน้าโรงงานวิลสัน ซอยวัดกำแพง ถนนพระรามที่ 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน และตามยึดทรัพย์สินที่ได้จากการปล้นเป็นจำนวนมาก ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมากสอบปากคำ

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามคนให้การรับสารภาพ โดยนายวินัยให้การว่า สาเหตุที่พวกตนเลือกลงมือปล้นตามโรงงานก็เพราะง่ายกว่าการปล้นบ้านคนทั่วไป เพราะเต็มที่ก็จะมีรปภ.ดูแลในช่วงกลางคืนเพียงลำพังคนเดียวเท่านั้น โดยพวกตนทั้งสามคนจะขับรถตระเวนไปตามโรงงานต่างๆ ในย่านปริมณฑล โดยไม่มีการมาดูลาดเลาก่อน หากพบโรงงานไหนมีรปภ.คนเดียว ก็จะลงมือเลย โดยสวมหมวกบุกเข้าไปใช้ปืนขู่ จากนั้นก็ช่วยกันจับ รปภ.มัดเอาไว้ แต่ไม่เคยทำร้ายร่างกาย ก่อนเข้าไปขนทรัพย์สินออกมา พร้อมทั้งถอดกล้องวงจรปิดออกในโรงงานออกมาด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหลักฐานให้ตำรวจตามตัวได้

นายวินัยให้การต่อว่า หลังจากได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายเอาเงินมาแบ่งกันไปใช้กินเที่ยว ไม่ได้เอาไปซื้อยาเสพเพราะพวกตนไม่ติดยา แต่หากโรงงานไหนมีเช็คเงินสดอยู่ก็จะนำไปขึ้นเงินด้วยทั้งที่ อ.ไทรน้อย ที่ได้มา 60,000 บาท นอกจากนี้ยังมีที่บริษัท นิติสีลม ถนนกาญจนาภิเษก ย่านบางแค ที่ได้เช็คมา 400,000 บาท แต่นายอรรถพร น้องชายตนไปขึ้นเงินมาได้แค่ 300,000 บาท โดยที่ผ่านมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วจนถึงกลางเดือนนี้ พวกตนทั้งสามคนก่อเหตุมาแล้ว 9 ครั้ง ทั้งใน กทม. จ.นนทบุรี จ.นครปฐม และจ.ปทุมธานี จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้เมื่อวานนี้

พล.ต.ต.ทวิชชาติกล่าวด้วยว่า ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังโรงงานในย่านชานเมือง หรือปริมณฑล ที่เคยถูกคนร้ายบุกเข้าไปปล้นทรัพย์นั้น ก็ให้มาดูตัวคนร้ายและตรวจสอบของกลางได้ที่ บก.สส.บช.ภ.1 เพื่อจะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ต่อผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีต่อไป