รวบแก๊งปล้นเจ้าของเต็นท์รถมือสอง ที่แท้ลูกน้องเก่าลาออกไปแล้ววางแผนพาพวก ใช้มีดและค้อน ปล้นได้เงิน 2.3 แสน แถมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ สารภาพเป็นคนมาดูลาดเลาเอง อ้างเดือดร้อนเรื่องเงินเลยก่อเหตุ เจอประวัติคดีติดตัวเพียบ แถมอยู่ใน “แก๊งปล้นเหนือเมฆ” ภาคอีสานด้วย ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งตามจับอีก 1 ที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน (ผบก.สส.) พ.ต.อ.พันธุ์เทพ ธรรมจารี ผกก.สส.1 บก.สส.แถลงการจับกุมแก๊งปล้นทรัพย์ชื่อ “แก๊งปล้นเหนือเมฆ” ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย หรือ หนุ่ย มังคะลา อายุ 22 ปี ได้ที่บ้านหมู่ 1 ต.หนองแวง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายพิทักษ์ หรือ เสือ พาลาสิทธิ์ อายุ 31 ปี และ นายปิยะพงษ์ หรือแม็ก พิลากลาง อายุ 27 ปี ได้ที่ อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลาง เช่น เช็คขีดคร่อมธนาคารกรุงเทพ สมุดเงินฝาก นามบัตร โทรศัพท์มือถือ ใบนำฝากเงิน และอื่นๆ รวม 23 รายการ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.30 น.มีคนร้ายปล้นทรัพย์ เต็นท์รถมือสอง บจก.วี.เอส.มอเตอร์ ถนนกาญจนาภิเษก กทม.พร้อมทำร้ายร่างกาย นายไชยภพ ชัยพรพิศุทธิ์ หรือ “เฮียฮีม” อายุ 54 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสอง โดยคนร้ายใช้ค้อนทุบตู้เก็บทรัพย์สิน ได้เงินสด 230,000 บาท และของมีค่าอื่นๆ ในท้องที่ สน.บางขุนเทียน ต่อมา บก.สส.สืบทราบว่า นายเฉลิมชัย ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างที่ถูกออกจากงานเมื่อเดือนเมษายน 2553 ร่วมกับพวกรวม 4 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ โดยนายเฉลิมชัย เป็นผู้วางแผน พาดูลาดเลา และจัดหารถจักรยานยนต์พร้อมด้วยผู้ขับขี่
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า นายพิทักษ์ และ นายปิยะพงษ์ ร่วมกันใช้มีดและค้อนปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย โดยมี นายแจ็ค ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง (อยู่ระหว่างหลบหนี) เป็นผู้พาหลบหนี โดยมี นายเฉลิมชัย เป็นผู้ดูลาดเลา ก่อนแยกย้ายหลบหนี ซึ่งนายเฉลิมชัย ได้ส่วนแบ่ง 50,000 บาท นายพิทักษ์ ได้ 100,000 บาท นายปิยะพงษ์ ได้ 70,000 บาท และนายแจ็ค ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ 15,000 บาท ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายทั่วไป เนื่องจากตนเดือดร้อนเรื่องเงินจึงก่อเหตุ
จากการตรวจสอบประวัติแก๊งปล้นทรัพย์ พบเป็นคนพื้นเพภาคอีสานและอยู่ในแก๊งปล้นทรัพย์ชื่อ “แก๊งปล้นเหนือเมฆ” ซึ่งหนีรอดการจับกุมจาก บก.สส.บช.ภ.4 เมื่อปี 2550 โดยพบประวัติกระทำผิด คือ นายพิทักษ์ มีคดีครอบครองยาบ้า 23 เม็ด สน.ทองหล่อ พ.ย.2554 ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน (รอลงอาญา), คดีเสพยาบ้า สภ.จักราช จ.นครราชสีมา ส.ค.2547 ส่งบำบัด 4 เดือน ที่กองบิน จ.นครราชสีมา, คดีลักทรัพย์ สน.วัดพระยาไกร มี.ค. 2549 จำคุก 6 เดือน, คดีเสพยาบ้า สน.บางโพงพาง พ.ย.2553 ประกันตัวและหลบหนี และคดีครอบครองยาบ้า 1 เม็ด สภ.เมืองสมุทรสาคร ธ.ค.2553 หนีประกัน
ด้าน นายปิยะพงษ์ มีคดีเสพยาบ้า สน.บางขุนเทียน ปี 2545 ศาลจำคุก 2 เดือน (รอลงอาญา), คดีลักทรัพย์ สน.วังทองหลาง ม.ค.2550 ศาลจำคุก 2 ปี 3 เดือน, คดีรับของโจร สน.ท่าข้าม ม.ค. 2550 ศาลจำคุก 2 ปี และคดีพยายามลักทรัพย์ สน.ตลิ่งชัน ปี 2552 ศาลจำคุก 1 ปี 6 เดือน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
ตร.เก็บลายนิ้วมือแฝงหาเบาะแสจับโจรจี้ชิงทรัพย์เต็นท์รถมือสอง
2 โจรบุกชิงทรัพย์เสี่ยเต็นท์รถ ฉก 3 แสน
วันนี้ (19 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน (ผบก.สส.) พ.ต.อ.พันธุ์เทพ ธรรมจารี ผกก.สส.1 บก.สส.แถลงการจับกุมแก๊งปล้นทรัพย์ชื่อ “แก๊งปล้นเหนือเมฆ” ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย หรือ หนุ่ย มังคะลา อายุ 22 ปี ได้ที่บ้านหมู่ 1 ต.หนองแวง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ นายพิทักษ์ หรือ เสือ พาลาสิทธิ์ อายุ 31 ปี และ นายปิยะพงษ์ หรือแม็ก พิลากลาง อายุ 27 ปี ได้ที่ อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลาง เช่น เช็คขีดคร่อมธนาคารกรุงเทพ สมุดเงินฝาก นามบัตร โทรศัพท์มือถือ ใบนำฝากเงิน และอื่นๆ รวม 23 รายการ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.30 น.มีคนร้ายปล้นทรัพย์ เต็นท์รถมือสอง บจก.วี.เอส.มอเตอร์ ถนนกาญจนาภิเษก กทม.พร้อมทำร้ายร่างกาย นายไชยภพ ชัยพรพิศุทธิ์ หรือ “เฮียฮีม” อายุ 54 ปี เจ้าของเต็นท์รถมือสอง โดยคนร้ายใช้ค้อนทุบตู้เก็บทรัพย์สิน ได้เงินสด 230,000 บาท และของมีค่าอื่นๆ ในท้องที่ สน.บางขุนเทียน ต่อมา บก.สส.สืบทราบว่า นายเฉลิมชัย ซึ่งเป็นอดีตลูกจ้างที่ถูกออกจากงานเมื่อเดือนเมษายน 2553 ร่วมกับพวกรวม 4 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ โดยนายเฉลิมชัย เป็นผู้วางแผน พาดูลาดเลา และจัดหารถจักรยานยนต์พร้อมด้วยผู้ขับขี่
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า นายพิทักษ์ และ นายปิยะพงษ์ ร่วมกันใช้มีดและค้อนปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย โดยมี นายแจ็ค ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง (อยู่ระหว่างหลบหนี) เป็นผู้พาหลบหนี โดยมี นายเฉลิมชัย เป็นผู้ดูลาดเลา ก่อนแยกย้ายหลบหนี ซึ่งนายเฉลิมชัย ได้ส่วนแบ่ง 50,000 บาท นายพิทักษ์ ได้ 100,000 บาท นายปิยะพงษ์ ได้ 70,000 บาท และนายแจ็ค ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ 15,000 บาท ส่วนเงินที่ได้ก็นำไปใช้จ่ายทั่วไป เนื่องจากตนเดือดร้อนเรื่องเงินจึงก่อเหตุ
จากการตรวจสอบประวัติแก๊งปล้นทรัพย์ พบเป็นคนพื้นเพภาคอีสานและอยู่ในแก๊งปล้นทรัพย์ชื่อ “แก๊งปล้นเหนือเมฆ” ซึ่งหนีรอดการจับกุมจาก บก.สส.บช.ภ.4 เมื่อปี 2550 โดยพบประวัติกระทำผิด คือ นายพิทักษ์ มีคดีครอบครองยาบ้า 23 เม็ด สน.ทองหล่อ พ.ย.2554 ศาลพิพากษาจำคุก 1 ปี 6 เดือน (รอลงอาญา), คดีเสพยาบ้า สภ.จักราช จ.นครราชสีมา ส.ค.2547 ส่งบำบัด 4 เดือน ที่กองบิน จ.นครราชสีมา, คดีลักทรัพย์ สน.วัดพระยาไกร มี.ค. 2549 จำคุก 6 เดือน, คดีเสพยาบ้า สน.บางโพงพาง พ.ย.2553 ประกันตัวและหลบหนี และคดีครอบครองยาบ้า 1 เม็ด สภ.เมืองสมุทรสาคร ธ.ค.2553 หนีประกัน
ด้าน นายปิยะพงษ์ มีคดีเสพยาบ้า สน.บางขุนเทียน ปี 2545 ศาลจำคุก 2 เดือน (รอลงอาญา), คดีลักทรัพย์ สน.วังทองหลาง ม.ค.2550 ศาลจำคุก 2 ปี 3 เดือน, คดีรับของโจร สน.ท่าข้าม ม.ค. 2550 ศาลจำคุก 2 ปี และคดีพยายามลักทรัพย์ สน.ตลิ่งชัน ปี 2552 ศาลจำคุก 1 ปี 6 เดือน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ
ตร.เก็บลายนิ้วมือแฝงหาเบาะแสจับโจรจี้ชิงทรัพย์เต็นท์รถมือสอง
2 โจรบุกชิงทรัพย์เสี่ยเต็นท์รถ ฉก 3 แสน