“จักรทิพย์” มั่นใจจับมือยิงกัปตันบินไทยได้แน่-เตือนชุดสืบระวังตัว

“จักรทิพย์” ส่งชุดสืบลงพื้นที่ล่าตัว “มือยิงกัปตันบินไทย” อย่างใกล้ชิด หลังพบเบาะแสหนีไปกบดานใน จ.ระยอง คาดน่าได้ตัวในเร็ววันนี้ พร้อมกำชับชุดติดตามระมัดระวังตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีประวัติชอบใช้อาวุธปืนและมีหมายจับคดียาเสพติดติดตัว ขณะที่ “นครบาล” แถลงผลปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแหล่งแพร่ยาเสพติดใน 165 ชุมชน จับผู้ต้องหาได้ 816 ราย ยึดยาบ้า 5,065 เม็ด ยาไอซ์ และอาวุธปืน

วันนี้ (18 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าในการติดตามตัว นายณัฐพงศ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ไล่ยิง เรืออากาศโท พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันสายการบินไทย ที่ยังไม่เข้ามอบตัวตามหมายจับว่า ได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวนของ บช.น.ลงพื้นที่ติดตามตัวอย่างใกล้ชิด ซึ่งได้เบาะแสคนร้ายแล้วคาดว่าจะสามารถเข้าจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วนี้ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ชุดติดตามระวัดระวังในการติดตามจับกุมตัวเนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับคดียาเสพติดอยู่ 4-5 ใบ

พบประวัติมือยิงชื่นชอบอาวุธปืนเหมือน “จิ๊บ-โจ๊ก ไผ่เขียว”

ผู้สื่อข่าวถามว่า เครือข่ายค้ายาเสพติดของนายณัฐพงศ์นั้นมีอิทธิพลเท่ากับกลุ่มของ “จิ๊บ-โจ๊ก ไผ่เขียว” หรือไม่ พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายณัฐพงศ์ มีอิทธิพลน้อยกว่ากลุ่มของจิ๊บ-โจ๊ก ไผ่เขียว โดยกลุ่มของนายณัฐพงศ์ส่วนใหญ่จะเป็นค้ายารายย่อย แต่พบประวัติชอบใช้อาวุธปืน และก่อเหตุรุนแรงมาหลายครั้ง ทั้งนี้ จากการสอบปากคำภรรยานายณัฐพงศ์ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัวมาดำเนินคดี โดยพบว่าล่าสุดหนีไปกบดานในพื้นที่ จ.ระยอง

ปิดล้อม 165 ชุมชนรวบ 816 รายคดียาเสพติด

ต่อมา พล.ต.ท.จักรทิพย์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ พล.ต.ต.เอื้อพงศ์ โกมารกุล ณ นคร พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. ร่วมแถลงผลการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาล “ปฏิบัติการเข้มแข็งชนะยาเสพติด ยั่งยืน ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะที่ 3” และโครงการ “ปราบปรามยาเสพติด และลดความเดือดร้อนของประชาชน”

พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า หลังมอบนโยบายให้ บก.น.1-9 ปิดล้อมตรวจค้นชุมชนที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดยาเสพติดทั่งกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 17-18 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 165 ชุมชน โดยผลการปิดล้อมได้ผู้ต้องหาคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งหมดจำนวน 816 ราย แบ่งเป็นผู้จำหน่ายจำนวน 64 ราย คดีครอบครองยาเสพติด 122 ราย คดีผู้เสพจำนวน 630 รายได้ของกลางยาบ้า 5,065 เม็ด ยาไอซ์ 165 กรัม กัญชา 19 ห่อ พืชกระท่อม 38 กก. เป็นผู้ค้ารายใหญ่จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ 8 ราย และข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุน 3 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืน 3 กระบอก เครื่องกระสุน 43 นัด และคดีพยายามฆ่าอีก 1 ราย

“นครบาล” เจรจาม็อบขอเปิดเส้นทางจราจร

พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวถึงการเจรจากับ “กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ” ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาลว่า ได้มีการเจรจากับแกนนำว่าจะชุมนุมโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนที่ต้องใช้รถใช้ถนนบริเวณดังกล่าว โดยในวันพรุ่งนี้หลังจากยื่นถวายฎีกาก็จะมีการเปิดช่องทางการจราจรให้ 1 ช่องทางเพื่อให้สามารถใช้ถนนในการสัญจรได้

พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หลังจากที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ที่เข้าเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมได้รายงานว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะเปิดถนนพิษณุโลก ในเวลา 06.00-10.00 น. และ 15.00-18.00 น. เนื่องจากเป็นเวลาเร่งด่วนที่มีประชาชนใช้รถใช้ถนนจำนวนมากเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ใช้เส้นทาง และนักเรียนนักศึกษาที่เข้ามาเรียนในบริเวณดังกล่าว