ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จี้รัฐตรวจสอบ “ปุ๋ยคอมปาวด์” ของ สกย.30,000 ตัน มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ เรื่องคุณภาพ และจัดซื้อจัดจ้าง
วันนี้ (24 ก.พ.) นายเพิก เลิศวางพงศ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึง นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่ากรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เพื่อทำการตรวจสอบปุ๋ยคอมปาวด์ ของสำนักงานกองสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ที่บริษัท แกรนด์รูล่า จำกัด ประมูลได้ ประมาณ 30,000 ตัน มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นล็อตแรก เพื่อให้ สกย.มอบให้กับเกตรกรชาวสวนยางในปี 2554 นี้ ซึ่งโดยในแต่ละปี ชาวสวนยางพารา จะต้องใช้ปุ๋ยประมาณ 60,000-70,000 ตัน
“สาเหตุสำคัญที่จะต้องตรวจสอบ คือ คุณภาพปุ๋ยคอมปาวด์ ว่าถึง 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ เพราะรูปแบบเมล็ดปุ๋ยเป็นที่น่าสงสัย และการตรวจสอบปุ๋ยก็เช่นกัน สารวัตรปุ๋ย กรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงการตรวจสอบปุ๋ย ไม่ได้เข้าตรวจสอบ แต่ทาง สกย. เป็นผู้เข้าตรวจสอบเอง พร้อมกับผู้แทนบริษัท และผู้แทนเกษตรกร และประเด็นของการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะราคาต่างกัน ของเกษตรกรที่ดำเนินการเอง ราคาปุ๋ย 16.40 บาท/กก.แต่ปุ๋ยคอมปาวด์ ราคา 19 บาท/กก.”
นายเพิก กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ปุ๋ยคอมปาวด์ กำลังเร่งทยอยจ่ายให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อนำไปใส่สวนยางพารา หากมีการเร่งใส่ปุ๋ยลงสู่สวนยาง ปุ๋ยก็จะลงดินจะต้องถูกกลบเกลื่อน ซึ่งส่วนตรงนี้สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องคุณภาพของปุ๋ยไปได้ ขณะนี้ได้สร้างความอึดอัดใจให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของ สกย.เป็นอย่างมาก
“ชสยท.ติดใจเรื่องคุณภาพปุ๋ยมาก ต้องมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะใส่ปุ๋ยลงสู่สวนยางพารา จะทำให้เกิดความเสียหายมาก และถ้ารัฐยังมีการเพิกเฉย ชสยท. ทั่วประเทศ ก็จะหามาตรการเพื่อลุกฮือขึ้นมา ตอนนี้ยังให้เกียรติ สกย.เป็นอย่างมาก เพราะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน แต่ขณะนี้กลับได้มีบุคคลบางคน กำลังกระทำการให้ สกย.เสียเกียรติภูมิที่สร้างสมมานาน ลูกหม้อของ สกย.ทราบดีกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนได้ท้วงติงไปแล้ว แต่ไม่มีใครฟังกัน”
วันนี้ (24 ก.พ.) นายเพิก เลิศวางพงศ์ ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย จำกัด (ชสยท.) เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึง นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีช่วยว่ากรกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ตรวจการแผ่นดินรัฐสภา เพื่อทำการตรวจสอบปุ๋ยคอมปาวด์ ของสำนักงานกองสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ที่บริษัท แกรนด์รูล่า จำกัด ประมูลได้ ประมาณ 30,000 ตัน มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นล็อตแรก เพื่อให้ สกย.มอบให้กับเกตรกรชาวสวนยางในปี 2554 นี้ ซึ่งโดยในแต่ละปี ชาวสวนยางพารา จะต้องใช้ปุ๋ยประมาณ 60,000-70,000 ตัน
“สาเหตุสำคัญที่จะต้องตรวจสอบ คือ คุณภาพปุ๋ยคอมปาวด์ ว่าถึง 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ เพราะรูปแบบเมล็ดปุ๋ยเป็นที่น่าสงสัย และการตรวจสอบปุ๋ยก็เช่นกัน สารวัตรปุ๋ย กรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรงการตรวจสอบปุ๋ย ไม่ได้เข้าตรวจสอบ แต่ทาง สกย. เป็นผู้เข้าตรวจสอบเอง พร้อมกับผู้แทนบริษัท และผู้แทนเกษตรกร และประเด็นของการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะราคาต่างกัน ของเกษตรกรที่ดำเนินการเอง ราคาปุ๋ย 16.40 บาท/กก.แต่ปุ๋ยคอมปาวด์ ราคา 19 บาท/กก.”
นายเพิก กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ปุ๋ยคอมปาวด์ กำลังเร่งทยอยจ่ายให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อนำไปใส่สวนยางพารา หากมีการเร่งใส่ปุ๋ยลงสู่สวนยาง ปุ๋ยก็จะลงดินจะต้องถูกกลบเกลื่อน ซึ่งส่วนตรงนี้สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องคุณภาพของปุ๋ยไปได้ ขณะนี้ได้สร้างความอึดอัดใจให้เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของ สกย.เป็นอย่างมาก
“ชสยท.ติดใจเรื่องคุณภาพปุ๋ยมาก ต้องมาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะใส่ปุ๋ยลงสู่สวนยางพารา จะทำให้เกิดความเสียหายมาก และถ้ารัฐยังมีการเพิกเฉย ชสยท. ทั่วประเทศ ก็จะหามาตรการเพื่อลุกฮือขึ้นมา ตอนนี้ยังให้เกียรติ สกย.เป็นอย่างมาก เพราะเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกันมายาวนาน แต่ขณะนี้กลับได้มีบุคคลบางคน กำลังกระทำการให้ สกย.เสียเกียรติภูมิที่สร้างสมมานาน ลูกหม้อของ สกย.ทราบดีกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลายคนได้ท้วงติงไปแล้ว แต่ไม่มีใครฟังกัน”
