นครแหลมฉบังเร่งแก้ปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินสาธารณประโยชน์ หลังได้รับการร้องเรียนมีการบุกรุกลำรางสาธารณะ

วันนี้ (11 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 เทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีเทศบาลนครแหลมฉบัง เป็นประธานในการประชุมพิจารณาการแก้ไขปัญหาร้องเรียน กรณีประชาชน หมู่ที่ 6 บ้านนา และหมู่ 8 บ้านทุ่งกราด ตำบลบางละมุง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี

โดยได้ร้องเรียนกับผู้ตรวจการแผ่นดิน หลัง บริษัท สหพนาสรรค์ จำกัด ได้เข้าไปถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนบริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประชาชนไม่สามารถใช้สัญจรผ่านไปมาได้

ปัญหาที่เกิดขึ้น จึงมีหน่วยงาน ประกอบด้วย เทศบาลนครแหลมฉบัง ,บริษัทสหพนาสรรค์ จำกัด ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน, เจ้าหน้าที่ที่ดินอำเภอบางละมุง และ พันโท เทพจิต วีณะคุปห์ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ สำนักงานตรวจการแผ่นดิน เพื่อร่วมกันพิจารณาตรวจสอบในที่ดินแปลงดังกล่าว ว่ามีการดำเนินการโดยถูกต้องหรือชอบธรรมหรือไม่

ด้าน นายบุญเรือน มุ่งหามณี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 กล่าวว่า เดินที่ดินบริเวณดังกล่าว มีลำรางสาธารณะและทางเกวียน ที่ประชาชนใช้สัญจรผ่านไปมา แต่ต่อมามีการซื้อขายที่ดินบริเวณดังกล่าวให้กับ บริษัท สหพนาสรรค์ จำกัด และได้ถมที่ดินปิดลำรางสาธารณะและทางเกวียน ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านได้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือ

ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางบริษัทควรเปิดเส้นทางหรือ ทำทางให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวได้ใช้ประโยชน์บ้าง เนื่องจากทางบริษัทได้ถมที่ดิน และปิดกั้นเส้นทางทำให้ประชาชนเดือดร้อน ดังนั้นควรจะต้องเปิดเส้นทางดังกล่าวให้ ทั้งๆ ยังไม่ทราบว่าที่ดินนั้นอยู่ในเอกสารสิทธิ์ของบริษัทอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร แต่ประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวมานานแล้ว

ด้าน นายเจริญ ฝอยทอง นายช่างรางวัดสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง กล่าวว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าว มีเอกสารสิทธิโฉนดในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการไหลของน้ำ หรือทางสาธารณะนั้น ตนไม่ทราบ แต่หากจะทราบใช้ชัดเจนจะต้องมีการรังวัด ตรวจสอบที่ดินในแปลงดังกล่าวกันใหม่ ถึงจะทราบอย่างชัดเจน แต่ในเบื้องต้นมีชาวบ้านอ้างว่าเคยใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรผ่านไปมา ดังนั้น ควรจะต้องมีการตรวจสอบกันต่อไป

ด้าน พันโท เทพจิต กล่าวว่า จากการสอบถามคนเก่าแก่บริเวณดังกล่าว ทราบว่า มีลำรางสาธารณประโยชน์และทางเกวียน ที่ประชาชนใช้สัญจรผ่านไปมา แต่ระยะหลังการออกโฉนดที่ดินไม่ทราบมีการสอบถามรายละเอียดอย่างไรหรือไม่ จึงมีการรังวัดออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวค่อมทางสาธารณะไปด้วย ดังนั้นหากจะทราบความชัดเจนก็ต้องมีการตรวจสอบกันไม่

ขณะนี้ทางตัวแทนบริษัทไม่สามารถ ชี้แจงหรือตอบข้อซักถามจากหน่วยงานต่างๆได้ ดังนั้นจะมีการพูดคุยกันใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 1-2 มีนาคม นี้ โดยเน้นเพียง 1.ให้บริษัทดำเนินการตามที่ประชาชนเรียกร้องคือให้เปิดพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้กับประชาชน 2.ให้ทางบริษัทยินยอมมอบพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้กับประชาชน แต่ยังมีสิทธิ์ในการดูแลที่ดินบริเวณดังกล่าว เพราะหากไม่ดำเนินการเช่นนี้ อาจจะมีการฟ้องร้องบังคับกันต่อไป ซึ่งเป็นเช่นนั้นจะเสียเวลา และเกิดปัญหาระหว่างบริษัทฯกับชุมชนอย่างแน่นอน ดังนั้น ทางบริษัทควรเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม เพื่อสามารถอยู่ร่วมกันได้ต่อไป