ศูนย์ข่าวภูเก็ต-คณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบกรณีทุจริต วุฒิสภา ลงพื้นที่พังงาและภูเก็ต ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านร้องเรียน การประกาศเกาะระเป็นอุทยานแห่งชาติและทำสวนพฤกษศาสตร์ พบนายทุนออกเอกสารสิทธิแล้วกว่า 10 ราย ส่วนที่ภูเก็ตลงพื้นที่พรุจิกหลังชาวบ้านร้องเรียนถนนรอบพรุชำรุดเสียหาย พบอบต.ไม้ขาวปักเสาไฟฟ้าเอื้อประโยชน์โรงแรมอีกหลังตัดถนนไปให้แล้ว
วันนี้ (15 ม.ค.) พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการตรวจสอบกรณีทุจริต ในคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนที่เกาะระ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา และการตัดถนนเข้าไปยังพื้นที่พรุจิก ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
พล.ต.ต.เกริก กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดพังงาและภูเก็ตในวันนี้ เนื่องจากชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล กรณีที่จะประกาศเกาะระเป็นอุทยานแห่งชาติและดำเนินโครงการสวนพฤกษศาสตร์ ซึ่งชาวบ้านมองว่าการดำเนินการทั้งสองอย่างจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวประมงและชาวมอร์แกน หากมีการประกาศพื้นที่อุทยานทั้งบนเกาะและในทะเล เพราะชาวประมงไม่สามารถที่จะทำการประมงได้อีกต่อไป
ส่วนการจัดทำโครงการสวนพฤกษศาสตร์ จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมบนเกาะระ ที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีสัตว์หายากนานาชาติ เช่น กวางม้า นกตะกุมเทศ เป็นต้น เนื่องจากผลการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเสนอแนะให้มีการก่อสร้างรีสอร์ทและที่พักบนเกาะระด้วย ซึ่งชาวบ้านไม่เห็นด้วย และในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการฯก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการก่อสร้างที่พักบนเกาะระ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ได้
“ไม่เข้าใจเหมือนกันจะสร้างสวนพฤกษศาสตร์บนเกาะระไปทำไม และเมื่อสร้างแล้วจะให้ใครไม่ชม เพราะจากท่าเรือไปยังเกาะระ จะต้องใช้เวลาในการเดินทางด้วยเรือเร็วถึงครึ่งชั่วโมง หากเป็นเรือหางยาวทั่วๆไปจะต้องใช้เวลานานกว่านี้ และค่าเรือราคาก็สูงด้วย คนยากคนจนที่ไหนจะมีปัญหาเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งหากรัฐบาลจะเดินหน้าทำโครงการนี้จริงๆอย่าให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และอยากให้รัฐบาลเห็นแก่ประโยชน์ประชาชนส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ของนายทุน” พล.ต.ต.เกริก กล่าว
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ของคณะอนุกรรมาธิการฯ พบว่ามีการออกโฉนดที่ดินบนเกาะระไปแล้ว 12 แปลง เนื้อที่กว่า 100 ไร่ และมีอีกหลายแปลงที่กำลังจะขอออกโฉนดที่ดิน ซึ่งหลังจากที่ทางคณะอนุกรรมาธิการฯลงพื้นที่ในวันนี้แล้ว จะมีการรวบรวมข้อมุลทั้งหมดเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง หากรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการสวนพฤกษ์ศาสตร์จะต้องทำสัญญาประชาคมกับประชาชนไม่ทำลายธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชน
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ใช้งบประมาณ 28 ล้านบาท จากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ตัดถนนระยะทาง 1.5 กม.เข้าไปในพื้นที่พรุจิกเพื่อเอื้อประโยชน์กับโรงแรมแห่งหนึ่ง พล.ต.ต.เกริก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทางคณะอนุกรรมาธิการฯได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ และได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและจากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมีมูลว่า จะมีการทุจริตในโครงการดังกล่าว ทางคณะอนุกรรมาธิการฯได้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังปปช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และสตง. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และเมื่อเร็วๆนี้ ก็ได้รับการต้องเรียนจากประชาชนอีกว่าถนนดังกล่าวได้เกิดการชำรุด เสียหาย
นอกจากนี้ การลงพื้นที่พบว่าถนนชำรุดจริงทั้งที่สร้างเสร็จไม่นาน รวมทั้งอบต.ไม้ขาวได้ใช้งบประมาณ 1.9 ล้านบาทปักเสาไฟฟ้าแรงสูง 3 เฟสไปจ่ออยู่หน้าโรงแรม รวมทั้งบัว ต้นไม้ เริ่มตายและน้ำเริ่มเน่าเสียจากการที่ทางโรงแรมได้ปล่อยน้ำเสียที่เกิดจากการก่อสร้างลงในพรุจิก อยากจะฝากถึงผู้ว่าฯ นายอำเภอ หน่วยงานที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อม และอบต.ไม้ขาวช่วยกันดูแลพรุจิกด้วยก่อนที่จะเสียหายไปมากกว่านี้