พี่น้องพันธมิตรฯ รวมตัวชุมนุมต่อวันที่ 2 จากแยกมัฆวานฯ ถึงแยกสวนมิสกวัน บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของตำรวจ ยันรัฐบาลต้องทำตาม 3 เงื่อนไข พร้อมจ่อฟ้อง “มาร์ค-เทือก” ต่อศาลฎีกา ข้อหาทำไทยเสียดินแดน
วันนี้ (26 ม.ค.) การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ในวันที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเช้า บรรยากาศยังคงเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ มีแนวร่วมพันธมิตรฯ นำข่าวสารมาแจ้งต่อผู้ชุมนุม พร้อมกล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีว่าขาดความกล้าหาญในการปกป้องอธิปไตยของชาติ เพราะเป็นห่วงเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศกัมพูชา และย้ำเงื่อนไข 3 ข้อ คือ ให้รัฐบาลยกเลิกบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU 2543 ถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก และผลักดันทหารกัมพูชาและชุมชนกัมพูชาออกจากพื้นที่พิพาท
สำหรับพื้นที่การชุมนุมของพันธมิตรฯ ยังปิดถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงแยกสวนมิสกวัน เชื่อมต่อกับพื้นที่ชุมนุมของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติที่สะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งการจราจรยังไม่ติดขัดนัก เพราะผู้ใช้เส้นทางเลี่ยงที่จะเข้าไปในชุมนุม
ส่วนการดูแลความปลอดภัย พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังดูแลความสงบ โดยเน้นการรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานที่สำคัญ การป้องกันการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งภาพรวมการชุมนุมที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ส่วนกรณีที่จับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธที่เตรียมก่อเหตุกับผู้ชุมนุม อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เกิดเหตุความรุนแรงในการชุมนุมนั้น ขณะนี้ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ติดตามด้านการข่าว เพื่อเฝ้าระวังกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มงวดตรวจตราอาวุธเป็นหลัก
สำหรับการเตรียมพร้อมหากการชุมนุมมีความยืดเยื้อนั้น โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสำรองไว้พร้อมแล้ว ขณะเดียวกันยังได้ประสานงานกับทหาร เพื่อขอกำลังสนับสนุนหากเกิดกรณีฉุกเฉิน สำหรับการจราจรนั้นจะมีการปิดเส้นทางในบางเส้นที่มีการชุมนุม ซึ่งจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง และประชาชนสามารถสอบถามมายังสายด่วน 1197 ตลอด 24 ชั่วโมง
ด้าน นายประพันธ์ คูณมี หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ และในฐานะโฆษกการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน แถลงข่าวการเพิ่มมาตรการกดดันรัฐบาล ด้วยการยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล ในข้อกล่าวหาทำให้ราชอาณาจักรไทยเสียดินแดน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างคำฟ้องของทนายความพันธมิตรฯ เพื่อยื่นต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อดำเนินการไต่สวน และถอดถอนออกจากตำแหน่งตามกฎหมาย นอกจากนี้ พันธมิตรฯ จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการปราศรัยเป็นการเปิดโปงการทุจริตในรัฐบาล เช่น การประมูลข้าว และการลักลอบนำน้ำมันปาล์มเข้าประเทศ
