ขนส่งงานหนักคนแห่ขึ้นทะเบียนรถใหม่ท่ามกลางภาวะราครายางแพง

ตรัง - เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดตรังเผย ต้องทำงานล่วงเวลาไปจนถึงกลางคืน เหตุเพราะมีผู้มายื่นจดทะเบียนรถใหม่เป็นจำนวนมาก หลังจากยางพารามีราคาพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง

วันนี้ (7 ก.พ.) นายภิญโญ อภิญญาลาวัลย์ ขนส่งจังหวัดตรัง กล่าวว่า นับตั้งแต่ยางพารามีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 150 บาท ในช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 มาถึงเดือนมกราคม 2554 มีประชาชนชาวตรังให้ความสนใจซื้อรถชนิดต่างๆ กันมาก โดยเฉพาะรถยนต์ ทั้งรถเก๋ง และรถกระบะ มียอดขายพุ่งสูงขึ้นประมาณ 20-30% ส่งผลมาถึงงานจดทะเบียนรถใหม่ ที่มีเพิ่มสูงขึ้นตามมา

โดยเฉพาะในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากประชาชนที่ซื้อรถในช่วงปลายปี 2553 บางคนได้ยืดระยะเวลาการจดทะเบียนรถใหม่มาเป็นในช่วงต้นปี เพื่อจะได้ประโยชน์ด้านปี พ.ศ. หรืออายุของรถ และบางคนก็ถือเอาเรื่องฤกษ์งามยามดี เพื่อจดทะเบียนรถใหม่ในช่วงต้นปีด้วย

ด้วยเหตุดังกล่าว จึงทำให้สำนักงานขนส่งจังหวัดตรัง ต้องขยายระยะเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ออกไป จากเดิมที่จะปิดให้บริการในเวลา 16.30 น. วันจันทร์-ศุกร์ ก็ได้ขยายระยะเวลาเพิ่มขึ้นออกไปจนถึง 18.00 น. หรือบางวันเจ้าหน้าที่ก็ต้องเข้ามาทำงานนอกเวลาเพิ่มเติมในช่วงกลางคืน เพื่อให้สามารถรองรับการบริการต่อประชาชน ที่ต้องการจดทะเบียนรถใหม่ ซึ่งปกติรถคันหนึ่งๆ จะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 1 วัน และบางวันเจ้าหน้าที่ต้องรับจดทะเบียนรถใหม่ถึง 100 คัน แต่ด้วยกำลังบุคคลากรที่มีความพร้อมและเพียงพอ จึงไม่ทำให้งานจดทะเบียนรถใหม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะค่อยๆ เบาบางลง หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ผ่านพ้นไปแล้ว

สำหรับประชาชนชาวตรังที่ซื้อรถใหม่ หรือขับขี่รถป้ายแดง แต่มีความต้องการที่จะได้ป้ายทะเบียนรถ หรือป้ายขาว ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็สามารถมายื่นเรื่องโดยตรงได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดตรัง หรืออาจจะให้บริษัทที่ขายรถเป็นผู้ดำเนินการให้ก็ได้ ซึ่งหลังจากตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ตามขั้นตอนแล้ว จะใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถออกป้ายทะเบียนรถ หรือป้ายขาว ให้เจ้าของรถได้

อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจจะทำให้การซื้อรถใหม่มีแนวโน้มลดลง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องจับตามองทิศทางของราคายางพาราด้วยว่าจะยังคงมีราคาสูงอย่างต่อเนื่องไปอีกนานแค่ไหนอย่างไร ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการซื้อขายรถในปี 2554 นี้