ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
ถึงวันนี้คำว่า“รถติด”อาจจะยังน้อยไป เมื่อเทียบกับสถานการณ์จริงที่ถนนทุกสายดูจะแออัดยัดแน่น เต็มทุกช่วงเวลายิ่งวันไหนโดนฝนเทถล่มลงมาจมถนน เมืองกรุงก็หนีไม่พ้นมหาวินาศ
จากโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ส่งผลโดยตรงกับประชากรรถใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือถ้าดูจากสถิติของกรมการขนส่งทางบกที่ระบุว่า ทุกวันนี้มีรถยนต์ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครมากกว่า 2,000 คันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
….เรียกว่าขายรถกันจนผลิตแผ่นป้ายทะเบียนไม่ทัน ทั้งป้ายขาว,ป้ายแดง ขาดตลาด!!!
สำหรับประเด็นป้ายทะเบียนไม่พอกับปริมาณรถใหม่นั้นมีปัญหามาสักระยะแล้ว แต่ล่าสุดเห็นว่ากรมการขนส่งทางบกแก้ปัญหาได้เรียบร้อย ที่สำคัญตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไปป้ายทะเบียนเวอร์ชันเดิม ที่ใช้อักษรนำหน้าตัวเลขจะหมดลงที่โหมด “ฆฮ” (กรุงเทพมหานคร)
ดังนั้นใครกำลังถอยรถออกจากโชว์รูมช่วงนี้ คงได้ป้ายเวอร์ชันใหม่ที่จะเริ่มด้วยตัวเลข ตามด้วยตัวอักษรสองตัว และปิดท้ายด้วยตัวเลข กล่าวคือจะเริ่มจาก 1 กก 1 เรียงตามลำดับจนถึง 1 กก 9999 และเริ่ม 1 กข 1 ถึง 1 กข 9999 เรื่อยไปจนถึง 1 กฮ 9999 จากนั้นเมื่อหมดชุดนี้จะขึ้นเป็นเลข 2 ถึง 9 นําหน้าหมวดตัวอักษรไปเรื่อยๆ
สำหรับแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะ และรูปแบบของแผ่นป้ายทะเบียนรถจากรูปแบบเดิมเล็กน้อย แต่จะมีขนาดของแผ่นป้ายเท่าเดิม คือ กว้าง 15 ซ.ม. ยาว 34 ซ.ม. และ มีตัวอักษร ขส อยู่ภายในวงกลมมุมล่างขวา โดยแบ่งเป็นสองบรรทัด สำหรับตัวเลขและตัวอักษรจะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม และมีคุณลักษณะเฉพาะลายเส้นคู่เป็นรูปคลื่นภาพ 3 มิติ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน พร้อมเป็นการป้องกันการปลอมแปลงไปในตัว
โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบก “สมชัย ศิริวัฒนโชค” ออกตัวว่า ป้ายทะเบียนรูปแบบนี้จะรองรับปริมาณรถใหม่ได้ถึง 56 ล้านคัน หรือนานกว่า 157 ปีเลยทีเดียว
...นี่ก็ถือเป็นเรื่องวุ่นของคนกรุงเทพมหานครที่ออกรถยนต์กันจนล้นเมือง และจำต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นแบบใหม่ เพราะจะว่าไปจังหวัดอื่นๆโหมดอักษรยังวิ่งไปไม่ถึงไหนเลย
เอาเป็นว่าเปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนให้เหมือนกันหมดทั้งประเทศ ซึ่งป้ายทะเบียนรูปแบบใหม่ที่มีตัวเลขนำหน้าตัวอักษรเพิ่มมาอีกหนึ่งตัว ราคาก็ไม่ได้ปรับขึ้นตาม (ไม่รู้จะดีใจดีไหมเนี้ย) แต่ประเด็นสำคัญกว่าคือเรื่องคุณภาพของป้าย ที่หลังๆหลายล็อตหลายโหมดแตกลายงากันเยอะเหลือเกิน
กรมการขนส่งทางบกมีแผนงานดีๆเยอะ สร้างประโยชน์ให้ประชาชนก็มาก อย่าให้เรื่องเล็กๆน้อยมาทำให้ชาวบ้านเขาด่าได้เลย!
ถึงวันนี้คำว่า“รถติด”อาจจะยังน้อยไป เมื่อเทียบกับสถานการณ์จริงที่ถนนทุกสายดูจะแออัดยัดแน่น เต็มทุกช่วงเวลายิ่งวันไหนโดนฝนเทถล่มลงมาจมถนน เมืองกรุงก็หนีไม่พ้นมหาวินาศ
จากโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก ส่งผลโดยตรงกับประชากรรถใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือถ้าดูจากสถิติของกรมการขนส่งทางบกที่ระบุว่า ทุกวันนี้มีรถยนต์ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานครมากกว่า 2,000 คันต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
….เรียกว่าขายรถกันจนผลิตแผ่นป้ายทะเบียนไม่ทัน ทั้งป้ายขาว,ป้ายแดง ขาดตลาด!!!
สำหรับประเด็นป้ายทะเบียนไม่พอกับปริมาณรถใหม่นั้นมีปัญหามาสักระยะแล้ว แต่ล่าสุดเห็นว่ากรมการขนส่งทางบกแก้ปัญหาได้เรียบร้อย ที่สำคัญตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไปป้ายทะเบียนเวอร์ชันเดิม ที่ใช้อักษรนำหน้าตัวเลขจะหมดลงที่โหมด “ฆฮ” (กรุงเทพมหานคร)
ดังนั้นใครกำลังถอยรถออกจากโชว์รูมช่วงนี้ คงได้ป้ายเวอร์ชันใหม่ที่จะเริ่มด้วยตัวเลข ตามด้วยตัวอักษรสองตัว และปิดท้ายด้วยตัวเลข กล่าวคือจะเริ่มจาก 1 กก 1 เรียงตามลำดับจนถึง 1 กก 9999 และเริ่ม 1 กข 1 ถึง 1 กข 9999 เรื่อยไปจนถึง 1 กฮ 9999 จากนั้นเมื่อหมดชุดนี้จะขึ้นเป็นเลข 2 ถึง 9 นําหน้าหมวดตัวอักษรไปเรื่อยๆ
สำหรับแผ่นป้ายทะเบียนรถรูปแบบใหม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะ และรูปแบบของแผ่นป้ายทะเบียนรถจากรูปแบบเดิมเล็กน้อย แต่จะมีขนาดของแผ่นป้ายเท่าเดิม คือ กว้าง 15 ซ.ม. ยาว 34 ซ.ม. และ มีตัวอักษร ขส อยู่ภายในวงกลมมุมล่างขวา โดยแบ่งเป็นสองบรรทัด สำหรับตัวเลขและตัวอักษรจะมีขนาดเล็กลงกว่าเดิม และมีคุณลักษณะเฉพาะลายเส้นคู่เป็นรูปคลื่นภาพ 3 มิติ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน พร้อมเป็นการป้องกันการปลอมแปลงไปในตัว
โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบก “สมชัย ศิริวัฒนโชค” ออกตัวว่า ป้ายทะเบียนรูปแบบนี้จะรองรับปริมาณรถใหม่ได้ถึง 56 ล้านคัน หรือนานกว่า 157 ปีเลยทีเดียว
...นี่ก็ถือเป็นเรื่องวุ่นของคนกรุงเทพมหานครที่ออกรถยนต์กันจนล้นเมือง และจำต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนเป็นแบบใหม่ เพราะจะว่าไปจังหวัดอื่นๆโหมดอักษรยังวิ่งไปไม่ถึงไหนเลย
เอาเป็นว่าเปลี่ยนแล้วก็เปลี่ยนให้เหมือนกันหมดทั้งประเทศ ซึ่งป้ายทะเบียนรูปแบบใหม่ที่มีตัวเลขนำหน้าตัวอักษรเพิ่มมาอีกหนึ่งตัว ราคาก็ไม่ได้ปรับขึ้นตาม (ไม่รู้จะดีใจดีไหมเนี้ย) แต่ประเด็นสำคัญกว่าคือเรื่องคุณภาพของป้าย ที่หลังๆหลายล็อตหลายโหมดแตกลายงากันเยอะเหลือเกิน
กรมการขนส่งทางบกมีแผนงานดีๆเยอะ สร้างประโยชน์ให้ประชาชนก็มาก อย่าให้เรื่องเล็กๆน้อยมาทำให้ชาวบ้านเขาด่าได้เลย!