นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยถึงกรณีป้ายทะเบียนรถใหม่ขาดและป้ายทะเบียนหมวดฎก-ฎว เกิดปัญหาแตกลายงาว่า ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งแก้ไขแล้ว โดยยืนยันว่าภายในเดือนเม.ย.นี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติทั้งหมด ซึ่งเบื้องต้นเกิดจากการประมูลแข่งขันจัดหาป้ายที่มีการตัดราคากันมากเกินไป ทำให้คุณภาพของป้ายที่ผลิตในล็อตดังกล่าวต่ำมีปัญหาแตกลายงา และอายุการใช้งานน้อยลง ซึ่งขบ.จะต้องจัดทำทีโออาร์การประมูลใหม่โดยนำปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาปรับปรุง เช่น ขยายเวลารับประกันอายุการใช้งานแผ่นป้ายทะเบียนจากปัจจุบัน 1 ปีเป็น 5 ปี โดยหากมีการชำรุดก่อนกำหนดจะต้องถูกปรับ เป็นต้น
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า หมวด ฎก-ฎว มีทั้งหมดประมาณ 1.5 ล้านป้าย โดยออกมาตั้งแต่ปี 2552 แต่ไม่ได้มีปัญหาทั้งหมด โดยป้ายที่มีปัญหาอยู่ในล็อตที่มีการประมูลตัดราคากันมากกว่าปกติโดยตัดราคาต้นทุนเหลือเพียง 28 บาทต่อป้ายเท่านั้น จากปกติที่แผ่นป้ายทะเบียนจะมีต้นทุนประมาณ 50-70 กว่าบาทต่อป้ายขึ้นกับการแข่งขันในแต่ละล๊อต โดยขณะนี้มีเจ้าของรถที่ป้ายทะเบียนมีปัญหาแตกลายงา มาแจ้งกรมขนส่งฯ เพื่อขอเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ประมาณ 12,000-13,000 ราย
“ทีโออาร์ประมูลจัดหาแผ่นป้ายทะเบียนนั้นไม่ได้ปรับปรุงมา 20 ปีแล้ว ส่วนล็อตที่มีปัญหาแตกลายงาการประมูลมีการตัดราคากันมาก ซึ่งทีโออาร์ใหม่จะมีบทปรับ บทลงโทษเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก และจะขยายเวลารับประกันจาก 1 ปีซึ่งเปลี่ยนป้ายเป็น 5 ปี ซึ่งขณะนี้รับประกัน 1 ปี หากพ้นกำหนดแล้วเกิดชำรุดจะมีค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนป้ายใหม่ 100 บาท”
ส่วนกรณีรถป้ายแดงขอเปลี่ยนเป็นป้ายขาวยังไม่ได้ในขณะนี้เนื่องจากผลิตไม่ทันนั้น ขณะนี้มียอดขอเปลี่ยนป้ายแดงเป็นป้ายขาวแต่ยังไม่ได้รับป้ายประมาณ 50,000 คัน ซึ่งกรมฯได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอผ่อนผันกรณีใช้รถป้ายแดงในเวลากลางคืน โดยประชาชนที่ขับขี่รถป้ายแดงนั้น ที่ทำการขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อย จะต้องโชว์ใบเสร็จที่ออกจากกรมเพื่อแสดงเป็นหลักฐานให้กับเจ้าหน้าตำรวจรับทราบด้วย