พัทลุง - ตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงหลังน้ำท่วม ส่งกลิ่นเหม็น สกปรก กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หนูกว่า 1,000 ตัว ผู้บริโภคเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ล่าสุด พบแม่ค้าป่วยเป็นโรคฉี่หนู 1 ราย ตายแล้ว 2 ราย ในขณะที่รองอธิบดีกรมอนามัยลงพื้นที่ตรวจสอบ หากแม่ค้าไม่ยอมให้รื้อแผง สั่งบังคับใช้กฎหมาย
วันนี้ (13 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดโครงการตลาดสดน่าซื้อ เพื่อสร้างสุขลักษณะที่ดีแก่ผู้บริโภคนั้น ตามเกณฑ์มาตรฐานตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงยังไม่ผ่านเกณฑ์ หลังน้ำท่วมกลับส่งกลิ่นเหม็น และสกปรก กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์หนูนับ 1,000 ตัว
ล่าสุด พบแม่ค้าป่วยเป็นโรคฉี่หนู 3 ราย ซึ่ง 2 ใน 3 รายเสียชีวิตแล้ว สำหรับตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงก่อสร้างเมื่อปี 2502 มีพื้นที่เพียง 1 ไร่ 67 ตารางวาเท่านั้น แต่ที่ดูกว้างใหญ่เป็นเพราะบรรดาเหล่าแม่ค้าต่างขยับขยายพื้นที่โดยการนำของมาวางจำหน่ายบนพื้นข้างถนน ส่วนร้านขายเนื้อสัตว์ ข้าวแกง และเสื้อผ้าไม่ได้แบ่งโซนให้จัดเจน จนมีหนูมาวิ่งเล่นบนข้าวของที่วางจำหน่ายแก่ลูกค้า
นายแพทย์ สุวัช เซียศิริวัฒนา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวหลังลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงเป็นตลาดเก่าแก่อายุกว่า 50 ปี ซึ่งเป็นแหล่งสร้างรายได้แก่พ่อค้าแม่ค้า ตรงนี้ตนเข้าใจดี แต่บรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็ต้องเข้าใจด้วยว่า ความปลอดภัยของผู้บริโภคต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน
ดังนั้น ตาม พ.ร.บ.ของกระทรวงได้กำหนดให้มีการแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 17 มีนาคม 2554 นี้ และหากมีตลาดสดใดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขก็จะบังคับใช้กฎหมายทันที ทั้งนี้ ในส่วนของตลาดสดเทศบาลเมืองพัทลุงหากพ่อค้าแม่ค้าไม่ยอมให้รื้อสร้างใหม่ ก็ให้มีการปรับปรุง โดยแบ่งออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรกรื้อบริเวณโดยรอบพร้อมยกหลังคาให้สูง เพื่อสร้างความโปร่ง บริเวณหน้าห้องน้ำที่มีการขายเนื้อสัตว์ให้แบ่งโซนให้ชัดเจน และทำการรื้อปรับปรุงทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ร้านค้าบางร้านภายในตลาดสดได้ถูกดัดแปลงเป็นที่เก็บของ แทนการขายสินค้าเนื่องจากเป็นของนายทุน ส่วนของที่จะขายก็ไปนั่งขายข้างถนน โดยอ้างว่าผู้บริโภคไม่เดินเข้าไปข้างในจนขายไม่ได้ในที่สุด
