ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักศึกษาราชภัฏและชาวบ้านผู้คัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน รวมพลังทวงถามจุดยืนมหาวิทยาลัยราชภัฏต่อกรณีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.หัวไทร ย้ำมหาวิทยาลัยท้องถิ่นควรหนุนเสริมประชาชน ด้านอธิการฯ ประกาศยกธงขาวถอยกลับที่ตั้ง
เมื่อวานนี้ (12 ม.ค.) เวลาประมาณ 12.00 น. กลุ่มสมาพันธ์นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รณรงค์กรณีการยื่นหนังสือถึงนายฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช กรณีที่มีนักวิชาการของสถาบันลงไปในพื้นที่ อ.หัวไทร เพื่อทำโครงการศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ภายใต้การสนับสนุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยนักศึกษาได้เดินรณรงค์ให้ข้อมูลแก่บุคลากร นักศึกษาทั่วไป และคณาจารย์ในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังได้เชิญชวนผู้ให้ความสนใจร่วมรับฟังคำตอบต่อการแสดงจุดยืนของมหาวิทยาลัยราชภัฏจากอธิการบดีอีกด้วย
น.ส.ศิริสกุล คีรีรัตน์ แกนนำนักศึกษา กล่าวว่า การมารวมตัวกันครั้งนี้เพื่อทวงถามคำตอบจากอธิการบดี และขอร้องให้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏยุติสัญญาที่ทำร่วมกับ กฟผ.กรณีที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ อ.หัวไทร เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องการโครงการดังกล่าวซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก และในส่วนของนักศึกษาเองก็ไม่เห็นด้วยเลยต่อบทบาทและการกระทำของมหาวิทยาลัยในกรณีนี้เพราะก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงได้เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยยุติโครงการเหล่านี้ทันที
น.ส.ศิริสกุลกล่าวต่อว่า เราอยู่ที่นี่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ อาจารย์บอกพวกเราว่าไม่ต้องไปยุ่งไม่ควรไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่นอกจากเราจะเป็นนักศึกษาของสถาบันนี้แล้ว พวกเราก็คือลูกหลานของพี่น้องประชาชนด้วย เมื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนของเราเดือดร้อน พวกเราซึ่งได้รับการส่งเสียจากพ่อแม่พี่น้องของเราให้มาเรียนที่นี่ พวกเราก็ต้องออกมาทักท้วงเพราะพวกเราเองก็อยู่ในพื้นที่และจะได้รับผลกระทบไม่ต่างจากพ่อแม่ของพวกเรา และวันนี้ไม่ได้มีแต่พวกเราที่มาทวงถามคำตอบจากอธิการบดี แต่พ่อแม่พี่น้องของพวกเราก็ได้เดินทางมาจาก อ.หัวไทร เพื่อร่วมฟังคำตอบจากอธิการบดีร่วมกับพวกเราด้วย ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่สถาบันของเราซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาของท้องถิ่นควรที่จะแสดงจุดยืนเคียงข้างพี่น้องที่จะได้รับผลกระทบกรณีโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ด้าน นายฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากการรับจดหมายเปิดผนึกของเครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินว่า ได้ทำหนังสือขอยุติสัญญากับ กฟผ. โครงการศึกษาทัศนคติของประชาชนต่อโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่ในพื้นที่ อ.หัวไทรแล้ว เนื่องจากมหาวิทยาลัยไม่สนับสนุนส่งเสริมและรับทุนวิจัยที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน ซึ่งขัดต่อปรัชญาและปณิธานของมหาวิทยาลัย โดยโครงการดังกล่าวทางมหาวิทยาลัยได้รับเงินโครงการจำนวน 440,000 บาท ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 60 วันในการดำเนินการ
นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ได้ย้ำต่อ อ.ปัญญา เลิศไกร ซึ่งเป็นหัวหน้างานบัณฑิตศึกษา ของคณะครุศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้ทำโครงการนี้ตามที่ กฟผ.ได้อนุมัติจ้าง ว่าให้ยกเลิกโครงการนี้เพราะดูเหมือนว่าโครงการนี้จะสวนกระแสกับความต้องการของพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏจะไม่ทำโครงการนี้ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด และบทบาทของราชภัฏควรจะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน
ด้าน นายรอง แก้วสกุล ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.หัวไทร กล่าวว่า การมาของพี่น้องกลุ่มคัดค้านในวันนี้เนื่องจากประเด็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน ได้รับการต่อต้านจากผู้คนมาแล้วทั่วโลก ซึ่งก็รวมถึงพี่น้องในลุ่มน้ำปากพนังแห่งนี้อีกด้วย แต่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช และนักวิชาการคนที่ดำเนินโครงการนี้กลับไม่ได้ให้ความสำคัญและแสดงตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับชาวบ้านเสียเอง ซึ่งนำมาสู่ความเสื่อมเสียเกียรติภูมิของสถาบันและนำความเสียหายมาสู่ท้องถิ่น พวกเราจึงจำเป็นต้องทวงถามถึงจุดยืนของสถาบันการศึกษาในกรณีนี้ให้ชัดเจนก่อนที่สถาบันการศึกษาจะหลงผิดและตกเป็นเครื่องมือของ กฟผ.ไปมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเคลื่อนไหวในวันนี้เริ่มคึกคักและเป็นที่สนใจต่อคณาจารย์ นักศึกษาและคนทั่วไปที่อยู่ใกล้เคียงกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นอย่างมาก โดยมีผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏตั้งขบวนเดินทางมารับเครือข่ายผู้คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ.หัวไทร ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏ ต่อมาเมื่อเครือข่ายกลุ่มผู้คัดค้านเดินทางมาถึงหน้ามหาวิทยาลัยก็ได้มีการปรบมือต้อนรับ และร่วมขบวนเดินเข้าไปหน้าตึกศูนย์ศิลปวัฒนธรรมภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏพร้อมๆ กัน โดยขณะที่เคลื่อนขบวนมีการแห่ รำกลองยาวของเครือข่ายกลุ่มผู้คัดค้านสลับกับการปราศรัยเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมฟังคำตอบจากอธิการบดี พร้อมกันนี้ยังมีป้ายผ้าที่ระบุข้อความหลากหลาย เช่น สถาบันการศึกษาไม่ใช่มารับใช้ทุน, ครูอาจารย์ต้องทำงานรับใช้ชุมชน
นอกจากนี้ยังมีขบวนริ้วธงสีดำระบุข้อความ “หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน” แห่ไปในมหาวิทยาลัยราชภัฏพร้อมๆ กับการรำหน้าขบวนกลองยาวอีกด้วยโดยเมื่อได้ตั้งโต๊ะเจรจา ซึ่งมีตัวแทนจากอาจารย์มหาวิทยาลัย นักศึกษา ประชาชนกลุ่มผู้คัดค้านและสื่อมวลชน และได้ผลสรุปการเจรจาซึ่งได้รับคำยืนยันจากอธิการบดีว่า จะยุติโครงการทำวิจัยร่วมกับ กฟผ.แล้ว สร้างความพอใจให้แก่ นักศึกษาและกลุ่มผู้คัดค้าน โดยหลังจากนั้นจึงได้ยุติการเคลื่อนไหวในที่สุด ทั้งนี้ทางกลุ่มผู้คัดค้านได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวว่าก่อนเดินทางแยกย้ายกลับว่า หากสถาบันการศึกษาบิดพลิ้วต่อสัญญาที่ให้ไว้กับนักศึกษาและกลุ่มผู้คัดค้าน ทางเครือข่ายก็จะที่นี่อีกครั้ง เพื่อย้ำถึงคำสัญญาที่สถาบันการศึกษาได้รับปากกับประชาชนในท้องถิ่นไว้