สตูล - เครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล นำชาวบ้านเข้าพบผู้ว่าฯ พร้อมยื่นหนังสือส่งถึงนายกรัฐมนตรี หลังต้องการคำชี้แจงโปรเจกต์ 5 ใหญ่ พลิกเมืองสตูลสู่อุตสาหกรรม หวั่นกระทบวิถีชีวิตประชาชน แนะต้องชี้แจงเพื่อให้ชาวสตูลตัดสินใจเอง
วันนี้ (31 มี.ค.) นายสมบูรณ์ คำแหง คณะประสานงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล นำตัวแทนชาวบ้านทั้ง 7 อำเภอ จำนวน 50 คน เข้าพบนายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการ จ.สตูล เพื่อนำหนังสือยื่นผ่านจังหวัดถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรื่องให้ตรวจสอบการดำเนินงานโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา และโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พร้อมขอคำชี้แจงจากทางจังหวัดเกี่ยวกับโปรเจกต์ใหญ่ 5 โครงการที่นำมาพัฒนา จ.สตูล เช่น โครงการท่าเทียบเรือน้ำลึก, โครงการสร้างทางรถไฟรางคู่ในระบบขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน, โครงการนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ พร้อมอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และโครงการเจาะอุโมงค์ข้ามชายแดน จ.สตูล-มาเลเซีย
นายสุเมธ ได้เรียกหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้รับผิดชอบในโครงการ ทั้ง 5 โครงการออกมาอธิบายชี้แจงต่อ คณะประสานงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล พร้อมประชาชนในห้องประชุมใหญ่ โต๊ะพญาวัง ศาลากลาง จ.สตูล ซึ่งการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยเฉพาะโครงการขุดเจาะอุโมงค์ระหว่าง จ.สตูล กับรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย นั้นเป็นโปรเจกต์ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลผลักดันให้เกิดขึ้นเอง ขณะโครงการที่เหลือเป็นโครงการที่มีมานานแล้ว แต่เพิ่งมีความคืบหน้า
นายสมบูรณ์ คำแหง คณะประสานงานเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนา จ.สตูล กล่าวว่า สาเหตุการมาในครั้งนี้เพราะต้องการทราบข้อเท็จจริงของโครงการทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร และถ้าโครงการเหล่านี้เกิดขึ้นวิถีชีวิตของคนชาวสตูลต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
ดังนั้น จึงไม่อยากให้โครงการนี้เกิดขึ้น แต่ต้องการรับทราบว่างานทั้งหมดทำไปถึงไหนแล้ว โดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมีข้อมูลใดบ้าง ก็ให้ชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ และให้ประชาชนเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินว่าคนสตูลเอาหรือไม่เอาเพื่อสิทธิของชาวสตูล
โดยเนื้อหาในหนังสือที่ยื่นผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดถึงนายกรัฐมนตรีนั้น ใจความสำคัญระบุให้คณะรัฐมนตรีออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับรู้ เพื่อให้สามารถติดตามตรวจสอบโครงการเหล่านี้ว่าถูกต้องตามกระบวนการกฎหมาย และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะโครงการเหล่านี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาล
นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการ จ.สตูล กล่าวว่า ในเรื่องนี้ตนสามารถทำได้แต่เพียงชี้แจงและรับฟังเท่านั้น เพราะข้อมูลจริงๆ ทางจังหวัดไม่มี เพราะส่วนใหญ่โครงการทั้ง 4 โครงการนั้น ทางตนจะเป็นตัวแทนขึ้นไปชี้แจงต่อนายกรัฐมนตรี และนำข้อเท็จจริงกับมาตอบโจทก์กับชาวบ้าน เพราะขณะนี้องค์กรเอกชนมองว่าโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึก เป็นโครงการที่เข้ามาทำลายทรัพยากรของ จ.สตูล
อีกทั้งส่วนราชการเองไม่ประชาสัมพันธ์การข่าวให้ประชาชนรับรู้ ว่า จะมีการเวนคืนที่ดิน 150,000 ไร่ และจะมีการทำอุตสาหกรรมรมเขตของอำเภอละงู และอำเภอมะนัง มีการทำรถไฟผ่านเข้าไปในหมู่บ้าน ผ่านไปทางกุโบร์บ้าง ผ่านทางวัดบ้าง ซึ่งจะเกิดผลกระทบทางเสียง มีการวางท่อน้ำมันจากซีกตะวันตกไปทางตะวันออก จากสตูลไปสงขลา บริเวณท่าเทียบเรือจะต้องไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่กว่า 5,000 ไร่