ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านในภูเก็ต รวมตัวร้องบ่อกุ้งปล่อยน้ำเสียลงคลองบางกา ในพื้นที่ตำบลป่าคลอก ส่งผลสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแก้ปัญหาชัดเจนระบุที่ผ่านมาขาดการเหลียวแลจากภาครัฐ
วันนี้ (24 มี.ค.) ชาวประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 8 บ้านบางลา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วยนายอธิพงษ์ คงนาม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลป่าคลอก อ.ถลาง เข้าตรวจพื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือคลองบางกา ต.ป่าคลอก ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ว่า มีสัตว์ทะเลในคลองดังกล่าวตายเป็นจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นช่วงที่น้ำทะเลกำลังลง และภายในคลองน้ำมีสีดำ รวมทั้งมีกลิ่นเห็น บริเวณริมคลองทั้ง 2 ด้านระยะทางหลายกิโลเมตรมีสัตว์ทะเลประเภทต่างๆ เช่น ลูกกุ้งทะเลชนิดต่างๆ ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ ลูกปลากระบอก ลูกปลาบู่ ปลาดุกทะเล ลูกหอยจุบแจงตายเป็นจำนวนมาก
นายอธิพงษ์ กล่าวภายหลังตรวจสอบ ว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำทะเลในคลองบางกาเน่าเสียน่าจะเกิดจากการลักลอบปล่อยน้ำเสียของนากุ้งในพื้นที่ใกล้เคียง ส่งผลให้สัตว์ทะเลที่อาศัยอยู่ในคลองบางกา ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อนตายเป็นจำนวนมาก
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ปัญหานี้ได้เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว และที่ผ่านมาได้มีการหารือและขอความร่วมมือไม่ให้มีการปล่อยน้ำจากบ่อเลี้ยงกุ้งลงในคลองดังกล่าวมาแล้ว เพราะน้ำในคลองจะไหลลงสู่ทะเล และที่สำคัญน้ำที่ปล่อยลงมาส่งผลให้ปลาที่อาศัยอยู่ตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้คงจะต้องไปแจ้งความไว้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้สอบสวนหาผู้กระทำความผิดต่อไป
ขณะที่ นายสัง ปอดมี ประธานชมรมชาวประมงพื้นบ้านหมู่ที่ 8 บ้านบางลา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงคลองบางกานั้นเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ปีละ 2 ครั้ง และที่ผ่านมาชาวบ้านได้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานเพื่อให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางทะเลอย่างร้ายแรง จะเห็นว่าการปล่อยน้ำเสียลงมาในแต่ละครั้งมีสัตว์น้ำวัยอ่อนตายเป็นจำนวนมาก
จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็น 10 ปี แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลหรือแก้ปัญหาจากหน่วยงานภาครัฐเลย ซึ่งในส่วนของชาวบ้านเห็นด้วย ที่จะมีการทำนากุ้ง แต่อยากให้หาทางป้องกันและจะต้องไม่ปล่อยน้ำเสียลงคลอง
นายสัง กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านประมงพื้นบ้านประมาณ 30 รายที่ประกอบอาชีพทำการประมงชายฟั่ง และเลี้ยงปลาในกระชังบริเวณปากคลองบางกา แต่ปัจจุบันนี้ไม่สามารถที่จะเลี้ยงปลาได้แล้วเนื่องจากทุก 6 เดือน จะมีการปล่อยน้ำเสียลงมา รวมทั้งการจับปลาก็ต้องนำเรือออกไปจับปลาไกลขึ้น
