ตรัง - ชาวเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรัฐบาล รีบกวาดล้างผู้ที่ลักลอบเข้ามาทำประมงแบบผิดกฎหมาย ก่อนที่พะยูนจะสูญพันธุ์ไปจากท้องทะเล
วันนี้ (28 ก.พ.) นายฮัจยีห์โชติ อับดุลกะเดช อดีตโต๊ะอิหม่ามมัสยิดเกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้นำศาสนา ร่วมกับผู้นำชุมชน ชาวบ้าน คณะครู และนักเรียน บนเกาะลิบง ได้รวมตัวกันเคลื่อนไหวขับไล่แก๊งล่าพะยูน ตลอดจนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และรัฐบาล รีบสั่งการให้จังหวัดตรังดำเนินการตามกฎหมายกวาดล้าง แก่ผู้ที่ลักลอบเข้ามาทำประมงแบบผิดกฎหมายอย่างจริงจังและโดยด่วน
เนื่องจากในขณะนี้ทรัพยากรสัตว์น้ำทุกชนิด ทั้งพะยูน เต่าทะเล รวมทั้งปลาเล็กปลาน้อย ในบริเวณหินกอง ซึ่งเป็นแหล่งปะการังเทียม กำลังถูกคนต่างถิ่นลักลอบเข้ามาใช้อวนปิดล้อม และฉีดแก๊สจนตายเป็นเบือ รวมทั้งยังทำให้เครื่องมือทำประมงพื้นบ้านได้รับความเสียหายไปด้วย จนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างใหญ่หลวง หลายคนต้องเป็นหนี้เป็นสิน เพื่อหาทุนไปซื้อเครื่องมือหากินใหม่
พร้อมกันนี้ยังมีการออกแถลงการณ์เรียกร้องทั้งหมด 7 ข้อ โดยภาพรวมเป็นการเรียกร้องให้จังหวัดตรัง และรัฐบาล เร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นการด่วน และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยไม่เลือกปฏิบัติ เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหา แต่ได้รับการปล่อยตัวในชั้นอัยการ ดังนั้น ทางรัฐจะต้องสนับสนุนชุมชนในการฟื้นฟูทรัพยากร หรือการวางปะการังเทียมเขตหญ้าทะเลแนวปะการังอย่างจริงจัง และให้เห็นผลในทางปฏิบัติ
พร้อมขอให้ประกาศให้เครื่องมือประมงทำลายพะยูน เช่น อวนปลากระเบน อวนทับตะลิ่ง ไม้กระทุ้งน้ำ เบ็ดราวไว เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะปัญหาเรื่องนี้เคยสะท้อนให้ทางจังหวัดทราบแล้วหลายครั้ง แต่ไม่มีการดำเนินการกวาดล้างใดๆ ยังปล่อยให้พะยูน เต่าทะเล และสัตว์ทะเลตัวเล็กๆ ตายได้ทุกวัน จึงขอถามว่าทางจังหวัด และรัฐบาล อยากจะให้ชาวบ้านจับปืนขึ้นมา แล้วออกมาไล่ล่ากลุ่มคนที่สร้างปัญหาให้ด้วยตนเองหรือไม่
นางวิไลพร พริ้มทอง และนายเบบ หมาดหลี 2 ตัวแทนชาวบ้านตำบลเกาะลิบง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากถูกอวนลากจากต่างถิ่นเข้าลักลอบจับปลา และยังได้ทำลายเครื่องมือประมงพื้นบ้านของครอบครัวไปด้วย กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พวกตนต้องสูญเสียเครื่องมือประกอบอาชีพไป และต้องกู้หนี้ยืมสินมาซื้อเครื่องมือใหม่ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่เคยสนใจกวาดล้างจับกุม ปล่อยให้เครื่องมือประมงขนาดใหญ่เข้ามาทำร้ายชาวบ้านถึงถิ่น ทางจังหวัดก็ทราบดี แต่ไม่เคยแก้ปัญหา เพราะเอาแต่เกี่ยงกัน
นายสมพร บุญนวน ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจเฝ้าระวังรักษาทะเล (ฉก.) บ้านน้ำราบ อำเภอกันตัง กล่าวว่า บางครั้งชุด ฉก.ที่รวมตัวโดยชาวบ้าน ได้ไปจับกุมผู้เข้ามาลักลอบใช้เครื่องมือทำประมงขนาดใหญ่ พร้อมกับของกลาง คือ เต่าทะเล ซึ่งคนกระทำผิดก็เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า ที่คนไทยว่าจ้างมาอีกทอดหนึ่ง แต่ปรากฎว่า ทางพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการให้รัดกุม สุดท้ายอัยการก็สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ทั้งๆ ที่กระทำความผิดอย่างโทนโท่ แล้วอย่างนี้ใครจะไปเกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง พร้อมทั้งยังสงสัยในพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า กำลังช่วยเหลือใครอยู่
