ตรัง - เต่าตนุในทะเลตรัง ถูกเครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายคร่าชีวิตอีก 2 ตัว ผู้นำชาวบ้านระบุปีนี้สถานการณ์ของสัตว์ทะเลน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีเครื่องมือประมงผิดกฎหมายเกลื่อน
วันนี้ (29 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเชลล์ ทะเลลึก อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/1 หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง ว่า มีชาวประมงพื้นบ้านซึ่งเป็นลูกบ้านของตนเอง พบเห็นเต่าทะเลตายลอยน้ำอยู่กลางทะเลตรัง พร้อมกันถึง 2 ตัว ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน จึงช่วยกันนำซากขึ้นเรือหางยาว แล้วนำมาขึ้นฝั่งที่บ้านมดตะนอย หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง
จากนั้นได้ช่วยกันนำซากของเต่าไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน กับพนักงานสอบสวน สภ.กันตัง เพื่อเป็นหลักฐานในการนำซากส่งไปตรวจพิสูจน์ ที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เป็นเต่าตนุ เพศเมีย จำนวน 2 ตัว มีลักษณะเหมือนกับเป็นแม่ลูกกัน โดยเต่าตัวใหญ่ มีน้ำหนัก 51 กิโลกรัม อายุประมาณ 25 ปี วัดรอบตัวไว้ 55 เซนติเมตร และยาว 75 เซนติเมตร คาดว่าตายมาแล้วนานหลายชั่วโมง เพราะตัวเริ่มแข็ง และเริ่มจะมีกลิ่น ส่วนบริเวณช่องปากพบบาดแผลลึก เนื่องจากถูกเบ็ดราไว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทำประมงแบบผิดกฎหมายชนิดหนึ่งที่เป็นอันตราย
จนที่ผ่านมาได้คร่าชีวิตพะยูน และเต่าในท้องทะเลตรัง ไปแล้วเป็นจำนวนมาก อีกทั้งขณะนี้ยังมีการลักลอบนำมาใช้กันเกลื่อน โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่เคยสนใจกวาดล้างจับกุมให้หมดไป ส่วนเต่าตัวเล็ก มีน้ำหนัก 9.5 กิโลกรัม อายุประมาณ 7-8 ปี โดยมีบาดแผลบริเวณซอกคอทั้ง 2 ข้าง คาดว่าถูกอวนปลาใบ
สำหรับเต่าทะเลตัวใหญ่นั้น พบตายลอยน้ำอยู่โดย นายอับดุลอาเด็น พระคง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83/2 หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้าน ขณะนำนักตกปลา จำนวน 4 คน ออกไปตกปลา บริเวณด้านทิศตะวันตกของเกาะลิบง หรือพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านหลังเขา จึงได้ร่วมกับนักตกปลาช่วยกันลากซากขึ้นเรือ แล้วนำกลับมาขึ้นฝั่งที่บ้านมดตะนอย
ส่วนเต่าทะเลตัวเล็ก พบตายลอยน้ำอยู่โดย นายฮับดุลการิบ ทะเลลึก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/8 หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง ขณะนำเรือออกไปวางไซหมึก ช่วงระหว่างเกาะมุกด์ กับเกาะแหวน พื้นที่บริเวณด้านนอกถ้ำมรกต แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดตรัง จึงนำซากมาขึ้นฝั่งที่บ้านมดตะนอย เช่นกัน
นายเชลล์ ทะเลลึก ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง กล่าวว่า ล่าสุด เมื่อเช้าวันที่ 29 มกราคม นายปรีชา ชายทุย อายุ 40 ปี ชาวหมู่ที่ 3 ตำบลเกาะลิบง ซึ่งเป็นชาวประมงพื้นบ้าน ก็พบเต่าตนุตายลอยน้ำอีก 1 ตัว ในพื้นที่ระหว่างเกาะมุกด์ กับเกาะแหวน มีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม และพบขณะออกไปวางไซหมึกเช่นกัน ซึ่งในเดือนมกราคม 2553 มีพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านที่ตนเองรู้จัก ได้พบเห็นซากเต่าทะเลตายลอยน้ำไปแล้วทั้งหมด 7 ตัว โดยเป็นซากที่ยังสมบูรณ์และสามารถนำกลับมาขึ้นฝั่งได้ แต่ที่ไปพบขณะที่ซากเน่าเหม็นและไม่สามารถนำกลับมาขึ้นฝั่งได้ก็มีอีกจำนวนมาก สาเหตุการตายทั้งหมดเกิดจากอุปกรณ์ทำประมงแบบผิดกฎหมาย
นายเชลล์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีการลักลอบจับสัตว์น้ำเกลื่อนทะเลตรัง โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่เคยสนใจดำเนินการจับกุม โดยอ้างว่าขาดคน ขาดงบประมาณ ซึ่งอุปกรณ์ทำประมงแบบผิดกฎหมายนี้ นอกจากเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำเล็กๆ แล้วบางชนิดยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสัตว์สงวนที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่างพะยูน และเต่าทะเล โดยปี 2552 ที่ผ่านมา มีเต่าทะเลตายเป็นเบือ
ขณะที่พะยูนก็ตายไปแล้วจำนวนมาก ทั้งจากการถูกล่า และไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งในปีนี้สถานการณ์ของเต่าทะเลก็น่าเป็นห่วงอย่างมากเช่นกัน หากเจ้าหน้าที่ไม่สนใจดำเนินการกวาดล้างการทำประมงแบบผิดกฎหมายอย่างจริงจัง เชื่อว่าวันหนึ่งเต่าในท้องทะเลตรังจะต้องสูญพันธุ์อย่างแน่นอน