xs
xsm
sm
md
lg

ชาวประมงพื้นบ้านบุโบยปิ๊งไอเดีย ใช้เรือใบแทนเชื้อเพลิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สตูล - ชาวประมงบ้านบุโบย อ.ละงู จ.สตูล ไอเดียกระฉูด นำเรือประมงคู่ชีพดัดแปลงเป็นเรือใบ ออกทำการประมง และบริการนักท่องเที่ยว หารายได้เสริม ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น

วันนี้ (22 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านบุโบย หมู่ 3 ต.แหลมสน อ.ละงู จ.สตูล เป็นหมู่บ้านเล็กๆตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลมีประชากรเพียง 1,137 คน จากทั้งหมด 254 ครัวเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการประมงพื้นบ้าน โดยใช้เรือประมงเล็กหรือเรือหางยาวเป็นพาหนะออกสู่ท้องทะเล

จากความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งดูทีท่าจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาที่ทำให้ชาวประมงที่นี่ไม่อยากนิ่งเฉย หรือหาปลาในรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป เพราะนั่นหมายถึงการยอมรับใน ชะตากรรมหรือความพ่ายแพ้ เพราะการออกทะเลแต่ละครั้งย่อมมีต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง

สภาพพื้นที่ของจังหวัดสตูลซึ่งอยู่ชายฝั่งทะเล ความคิดที่จะนำพลังงานธรรมชาติโดยเฉพาะพลังงานลมมาใช้ให้เกิดประโยชน์จึงเกิดขึ้น ซึ่งต่อมาทางจังหวัดจึงได้จัดทำโครงการส่งเสริมการใช้งานเรือใบเพื่อการประมงขึ้นเพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากองค์การสะพานปลา สำนักงานประมงจังหวัดสตูล ศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสถานีประมงทะเลจังหวัดสตูล หลังชาวประมงบ้านบุโบยทราบข่าวก็ตัดใจเข้าร่วมโครงการทันที 30 ราย

การทำเรือใบของชาวประมงบ้านบุโบย ใช้อุปกรณ์ซึ่งหาซื้อได้ง่ายในท้องถิ่นมีต้นทุนประมาณ 1,000 ถึง 1,500 บาทต่อลำ การติดตั้งก็ไม่ซับซ้อนอะไรมากนัก ส่วนสำคัญคือเสากระโดงเรือ ซึ่งนำไม้ไผ่ยาวประมาณ 5 เมตร มาติดตั้งบริเวณส่วนหน้าของเรือ เพื่อเป็นเสาหลักสำหรับยึดใบเรือ ส่วนการทำใบเรือนั้นจะใช้ผ้าใบมาตัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู จากนั้นจะนำเชือก 2 เส้นมาผูกที่บริเวณส่วนปลายของเพลาทั้งสอง เพื่อควบคุมใบเรือให้กางออกหรือหุบเข้า สำหรับเพิ่มหรือลดกำลังเรือขณะแล่น

นายสนาน สันนก หรือบังสนาน ชาวประมงบ้านบุโบย วัย 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 หมู่ 3 ตำบลแหลมสน ปัจจุบันเป็นโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านบุโบย เล่าให้ฟังว่า หลังจากผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยผู้เชี่ยวชาญในการใช้เรือใบของกรมประมง และพยายามหมั่นฝึกฝนการควบคุมเรือใบเพียง 2 วัน ก็เริ่มคุ้นเคยและสามารถบังคับเรือใบได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันจะใช้เรือใบควบคู่ไปกับเครื่องยนต์เล็ก นำไปใช้ออกหาปลาได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากเดิมวันละประมาณ 150 บาท เหลือวันละ 70 บาท อย่างไรก็ตาม การควบคุมเรือใบให้แล่นไปตามลมและทวนลม เพื่อไปยังทิศทางที่ต้องการในระยะแรกนั้นจะยากพอสมควร เพราะหากลมทะเลพัดแรงและผู้ใช้ไม่ชำนาญหรือรู้เทคนิคก็จะทำให้เรือพลิกคว่ำได้

นายเจ๊ะยาหยา สาเบส ผู้ใหญ่บ้านบ้านบุโบย เล่าว่า ตั้งแต่ต้นปีมานี้หลังจากที่ชาวประมงบ้านบุโบยหลายสิบรายหันมาติดตั้งเรือใบ เพื่อออกไปหาปลา ก็เริ่มได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวและนักตกปลามาขอเช่าเรือใบกันมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวอยากจะทดลองบังคับเรือใบที่ได้ทั้งความสนุกตื่นเต้นและท้าทายไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งบ้านบุโบยอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอละงูประมาณ 25 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้โดยรถยนต์ใช้เวลาเดินทางจากตัวจังหวัดประมาณ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

ด้าน นายเจิดแสง บุญแท้ ประมงจังหวัดสตูล กล่าวว่า สำนักงานประมงจังหวัดสตูลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สนับสนุนให้ชาวประมงบ้านบุโบยใช้เรือใบเพื่อทำการประมงเมื่อปี 2552 ระยะแรก จำนวน 40 ราย ซึ่งหลังจากได้รับการตอบรับที่ดีของชาวประมงบ้านบุโบยแล้ว กรมประมง มีนโยบายที่จะสนับสนุนให้มีการใช้เรือใบในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 2,000 ลำ ภายใน 5 ปีซึ่งคาดว่าจะทำให้ช่วยประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึงปีละ 6 ล้านบาท หรือ 30 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปี

นายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า ทางจังหวัดมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เพื่อช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้านให้มีรายได้ โดยขณะนี้ได้เชิญชวนให้นักลงทุนมาสร้างโรงแรมระดับห้าดาว หรือรีสอร์ทให้มีมาตรฐาน บริเวณบ้านปากบารา อำเภอละงู เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวตามหมู่เกาะต่างๆ และป้องกันการบุกรุกที่ดินของนายทุนในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาบนเกาะหลีเป๊ะด้วย

ทั้งนี้ หากนักท่องเที่ยวชอบตกปลา เราก็จะแนะนำให้ใช้บริการของเรือประมงพื้นบ้าน เพื่อให้ชาวประมงได้มีรายได้เสริม ดีกว่าการจับปลาเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ที่ภูเก็ตนิยมทำกันมาก ค่าบริการอยู่ที่ลำละ 8,000 บาทต่อวัน ก็คงต้องทำความเข้าใจกับชาวประมงพื้นบ้านกับนโยบายดังกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น