ศูนย์ข่าวภูเก็ต - จนท.กลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯภูเก็ต ขอความร่วมมือชาวประมงเลี่ยงวางเครื่องมือในพื้นหากินของพะยูน ขณะเดียวกันเร่งผ่าซากพะยูน หาสาเหตุการตายหลังพบพะยูนที่ตรังตาย 2 ตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน
นางสาวกาญจนา อดุลยานุโกศล หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กำลังช่วยกันผ่าซากพะยูนเพศเมีย ขนาดความยาว 2.77 เมตร น้ำหนัก 350 กิโลกรัม ซึ่งเป็นพะยูนที่เสียชีวิตเป็นตัวแรกของปี 53 ซึ่งเสียชีวิตที่จังหวัดเพื่อตรวจหาสาเหตุการตายและศึกษาวิจัย ส่วนพะยูนอีกตัวซึ่งพบเสียชีวิตในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน เป็นพะยูนเพศเมียเช่นเดียวกัน คาดว่าจะมีน้ำหนังประมาณ 120 กิโลกรัม คาดว่าจะผ่าในวันถัดไป
สำหรับปี 2553 พบว่าในพื้นที่ฝั่งอันดามันมีพะยูนเสียชีวิตไปแล้ว 2 ตัว และทั้ง 2 ตัวที่เครือข่ายไปพบนั้นมีการผูกหางไว้ในลักษณะเตรียมที่จะกลับมาเก็บในภายหลังซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นในลักษณะของการเตรียมนำไปขายให้กับผู้บริโภคเนื้อพะยูนเพราะถ้าเป็นพะยูนที่โดนเครื่องมือการทำประมงส่วนใหญ่ก็จะลอยอยู่กลางทะเล หรือลอยเข้ามาเกยชายหาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับขบวนการลักลอบจับพะยูนเพื่อนำไปขายให้กับผู้บริโภคนั้นเกิดขึ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบฆ่าพะยูนจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปขายให้กับผู้บริโภคเนื้อพะยูน ซึ่งที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความรู้กับเครื่องข่ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและมีการสร้างเครือข่ายขึ้นมาซึ่งก็ไดรับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีพะยูนที่เสียชีวิตจากเครื่องมือการทำประมงอยู่ซึ่งบางครั้งผู้ที่พบเห็นก็ไม่ได้นำมาส่ง เพราะฉะนั้นยังอยากขอความร่วมมือในส่วนของผู้ที่ทำประมงในพื้นที่ที่พะยูนอาหาร หรือพื้นที่ที่พะยูนใช้สำหรับการเดินทางในการวงอวนลอย อวนปลากระเบน
รวมทั้งการวางเบ็ดและวางโป๊ะต่างๆ ไม่ควรที่จะวางเครื่องมือการทำประมงเหล่านี้ในเส้นทางที่ที่พะยูนใช้เดินทางหรืออาศัยเพราะอาจจะทำให้พะยูนเข้าไปติดอยู่ในเครื่องมือประมงเหล่านั้นได้ และเครื่องมือการทำประมงบางอย่างเช่น เบ็ดราไว และอวนกระเบนนอกจากจะติดพะยูนแล้วยังเป็นเครื่องมือการทำประมงที่สามารถติดเต่าทะเลขึ้นมาได้ดวย
นางสาวกาญจนา อดุลยานุโกศล หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต กำลังช่วยกันผ่าซากพะยูนเพศเมีย ขนาดความยาว 2.77 เมตร น้ำหนัก 350 กิโลกรัม ซึ่งเป็นพะยูนที่เสียชีวิตเป็นตัวแรกของปี 53 ซึ่งเสียชีวิตที่จังหวัดเพื่อตรวจหาสาเหตุการตายและศึกษาวิจัย ส่วนพะยูนอีกตัวซึ่งพบเสียชีวิตในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน เป็นพะยูนเพศเมียเช่นเดียวกัน คาดว่าจะมีน้ำหนังประมาณ 120 กิโลกรัม คาดว่าจะผ่าในวันถัดไป
สำหรับปี 2553 พบว่าในพื้นที่ฝั่งอันดามันมีพะยูนเสียชีวิตไปแล้ว 2 ตัว และทั้ง 2 ตัวที่เครือข่ายไปพบนั้นมีการผูกหางไว้ในลักษณะเตรียมที่จะกลับมาเก็บในภายหลังซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นในลักษณะของการเตรียมนำไปขายให้กับผู้บริโภคเนื้อพะยูนเพราะถ้าเป็นพะยูนที่โดนเครื่องมือการทำประมงส่วนใหญ่ก็จะลอยอยู่กลางทะเล หรือลอยเข้ามาเกยชายหาด
อย่างไรก็ตาม สำหรับขบวนการลักลอบจับพะยูนเพื่อนำไปขายให้กับผู้บริโภคนั้นเกิดขึ้นมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีการลักลอบฆ่าพะยูนจำนวนหนึ่งเพื่อนำไปขายให้กับผู้บริโภคเนื้อพะยูน ซึ่งที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ความรู้กับเครื่องข่ายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและมีการสร้างเครือข่ายขึ้นมาซึ่งก็ไดรับความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีพะยูนที่เสียชีวิตจากเครื่องมือการทำประมงอยู่ซึ่งบางครั้งผู้ที่พบเห็นก็ไม่ได้นำมาส่ง เพราะฉะนั้นยังอยากขอความร่วมมือในส่วนของผู้ที่ทำประมงในพื้นที่ที่พะยูนอาหาร หรือพื้นที่ที่พะยูนใช้สำหรับการเดินทางในการวงอวนลอย อวนปลากระเบน
รวมทั้งการวางเบ็ดและวางโป๊ะต่างๆ ไม่ควรที่จะวางเครื่องมือการทำประมงเหล่านี้ในเส้นทางที่ที่พะยูนใช้เดินทางหรืออาศัยเพราะอาจจะทำให้พะยูนเข้าไปติดอยู่ในเครื่องมือประมงเหล่านั้นได้ และเครื่องมือการทำประมงบางอย่างเช่น เบ็ดราไว และอวนกระเบนนอกจากจะติดพะยูนแล้วยังเป็นเครื่องมือการทำประมงที่สามารถติดเต่าทะเลขึ้นมาได้ดวย
