สตูล - ชาวเลเกาะหลีเป๊ะกว่า 300 คน ควงมีด ไม้ ขัดขวาง ตร.และ จนท.ที่ดินไม่ให้ทำการรางวัดดินบรรพบุรุษ หลังเจ้าของที่ดินเข้าทวงสิทธิคืนอ้างมีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย
วันนี้ (13 พ.ย.) พ.ต.อ สมปอง ช่อคง รองผู้กำกับ สภ.เมืองสตูล นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 40 นายเข้าดูแลความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่รางวัดที่ดิน สนง.ที่ดินจังหวัดสตูล เข้าทำการวัดพื้นที่ดินให้กับ นายฉันทวัช นวกิจชัยกุล เจ้าของพื้นที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ที่อ้างว่ามีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ข. ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในพื้นที่ 18 ไร่ และเชื่อว่าถูกชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะได้บุกรุกเข้าสร้างบ้านเรือนอาศัย ซึ่งเป็นดินตนเองกว่า 10 ไร่
การเข้ารางวัดที่ดินต้องยุติลงทันที หลังชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะกว่า 300 คน รวมตัวกันเดินกรูส่งเสียงขับไล่ พร้อมถือมีดพร้า และท่อนไม้ ขับไล่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักข่าว อย่างชุลมุน ทำให้การเข้าวัดพื้นที่ดินต้องยุติลง เพราะไม่สามารถต้านทานแรงคัดค้านของชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะได้ ที่พวกเขาเชื่อว่าที่ดินที่อาศัยอยู่เป็นของบรรพบุรุษตั้งแต่ดั้งเดิม
นายสันยา สิริหัน ชาวเลเกาะหลีเป๊ะ อายุ 30 ปี บอกว่า ได้อาศัยอยู่บนพื้นที่ดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่า 30 ปี และจะไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ เข้าทำการรางวัดที่ดินดังกล่าว เพราะพวกเราเป็นเจ้าของที่ดินแห่งนี้ที่เป็นของปู่ย่าตายาย ต่อให้เจ้าหน้าที่มากี่ครั้งก็จะไม่ยอมให้ทำการรางวัดที่ดินเด็ดขาด ชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ มีแต่คนจน ไม่มีเงิน ที่จะทำเอกสารขึ้นมา ขอให้ทางผู้ว่า ราชการจังหวัดสตูล ช่วยพวกเราด้วย ลงมาตรวจสอบให้ที
ด้าน น.ส.พิมพา หาญทะเล อายุ 25 ปี ชาวเลหลีเป๊ะอีกคนที่อยู่มากว่า 20 ปี เชื่อว่าจะไม่ยอมให้มีการวัดที่ดินเด็ดขาด เพราะเคยเกิดเรื่อนี้มาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะนายทุนที่มาแอบอ้างว่ามีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย และนายทุนเข้ามาบังคับชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ส่วนพวกผู้ใหญ่หรือชาวเลผู้สูงอายุที่มีพื้นที่ดินมักจะถูกเป็นประจำ และขู่ที่จะทำร้าย
ความพยายามของการเข้าวัดที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะของตำรวจและชุดเจ้าหน้าที่รางวัดดิน สำนักงานที่ดิน จ.สตูล นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ต้องประสบกับความล้มเหลว ซึ่งหลังจากนี่ทางผู้อ้างตัวมีสิทธิในการครอบครองเตรียมขอหมายศาลจังหวัดในการทวงสิทธิที่ดินของตนเองกลับคืนมา
นายฉันทวัช นวกิจชัยกุล เจ้าของที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ บอกว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำงานยาก เพราะชาวเลเข้าขัดขวาง แต่อย่างไรก็จะเดินหน้าต่อและจะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะเรามีเอกสารสิทธิถูกต้องตามกฎหมาย และเข้าถึงชั้นศาลเพื่อให้ช่วยเหลือ
ด้าน พ.ต.อ.สมปอง ช่อคง รองผู้กำกับสภ.เมืองสตูล กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ที่ชาวเลเข้ามาอาศัยกว่า 50 ครัวเรือน นี้นั้นทางด้านเจ้าของที่อ้างว่ามีเอกสารถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รางวัดที่ดินไม่สามารถเข้าไปวัดได้เพราะชาวบ้านไม่ยอม ถึงแม้จะเจรจาแล้ว ชาวเล ทั้ง 300 กว่าคนพร้อมที่จะใช้อาวุธที่ถือมาเข้าทำร้าย ได้
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมขออำนาจหมายศาลเข้าจับกุม และตั้งข้อหาชาวเลที่ขัดขวางการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และบุกรุกที่ดินส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ ถือว่าเป็นผืนแผ่นดินทอง หลายคนต่างพยายามเข้ามาจับจองหาทำเลสวยๆ เพื่อทำรีสอร์ต ร้านอาหาร ซึ่งมองไปทางไหนก็จะเห็นว่ารอบเกาะหลีเป๊ะ จะเห็นแต่รีสอร์ต และร้านค้า ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าการย้ายถิ่นของกลุ่มชาวเลเหล่านี้เกิดจากการนำที่ดินขายให้นายทุน แล้วพาครอบครัวอพยพจับจองที่อยู่ใหม่
สำหรับพื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ บริเวณชายหาดจะมีราคาสูงถึงไร่ละ 8 ล้านบาท บริเวณกลางเกาะราคาไร่ละ 5 ล้านบาท บางจุดก็มีราคา 2 ล้านบาท บนเกาะหลีเป๊ะมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,500 ไร่ที่มีเอกสารสิทธิจำนวนกว่า 160 ไร่ 1งาน 10 ตาราง และส่วนใหญ่ที่ทำรีสอร์ทไม่มีเอกสารสิทธิ อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
