ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อธิบดีกรมทรัพย์ลงพื้นที่ภูเก็ตตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุกเพียบ ระบุตรวจสอบเบื้องต้นเชื่ออยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด เผยในพื้นที่ถลาง ใครมีเอกสารสิทธินำมายืนยันตรวจสอบที่มาที่ไป ส่วนพื้นที่บ้านกู้กูได้รับยืนยันแล้วเป็นที่ดินป่าชายเลนแน่นอน ที่มีการออกเอกสารสิทธิไปก่อนหน้านี้
วันนี้ (12 พ.ย.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยคณะและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่บริเวณป่าชายเลน หมู่ที่ 5 บ้านเมืองใหม่ หมู่ 10 บ้านแหลมทราย ต.เทพกระษัตรี อ.ถลาง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน เพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างจำนวนหลายสิบไร่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปเฝ้าระวังเพื่อป้องกันการบุกรุกที่ดินเพิ่มเติม และเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนที่บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง ซึ่งถูกนายทุนบุกรุกแผ้วถาง และสร้างคันดินกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าไปในพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งมีป่าชายเลนที่ถูกบุกรุกอยู่นอกเอกสารสิทธิที่มีการอ้างสิทธิ์จำนวน 12 ไร่ และมีการอ้างเอกสารสิทธิครอบครอบจำนวน 50 กว่าไร่
นายจตุพร กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อมาติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่และกระทรวงได้รับการร้องเรียนว่า มีการบุกรุกเป็นจำนวนมากเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ดินมีราคาสูง ซึ่งในส่วนของพื้นที่หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 10 ต.เทพกระษัตรี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำป้ายไปปักไว้แล้วเพื่อแจ้งให้ทราบว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลน
จากการตรวจสอบเห็นชัดเจนว่าพื้นที่ที่มีการบุกรุก เป็นพื้นที่ป่าชายเลน ส่วนกรณีที่มีการอ้างเอกสารสิทธิทั้งโฉนด และส.ค.1เข้าไปครอบครองที่ดินบริเวณป่าชายเลนดังกล่าวนั้นก็ให้นำหลักฐานมาตรวจสอบกันว่ามีการออกกันมาอย่างไร แต่คิดว่าการดำเนินการตรวจสอบน่าจะล่าช้า จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ติดต่อสอบถามไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า พื้นที่ที่มีการก่อสร้างเป็นพื้นที่อะไรและมีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นคิดว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าชายเลน
ส่วนพื้นที่ที่บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งมีการร้องเรียนจากชาวบ้านและแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้วแต่ชาวบ้านมองว่า ปัญหาการบุกรุกที่ดินบริเวณดังกล่าวยังไม่มีความคืบหน้าซึ่งระยะเวลาผ่านมา 2 ปีแล้ว โดยปัญหาในบริเวณดังกล่าวนั้นแยกเป็น 3 ส่วนคือส่วนที่อ้างโฉนดที่ดิน
ส่วนที่กำลังขอออกเอกสารสิทธิ และส่วนที่อยู่ด้านหลังคูกั้นก็ได้มีการจับกุมผู้บุกรุกและส่งพนักงานดำเนินคดีซึ่งหัวหน้าพนักงานสอบสวน คือ นายอำเภอมีการสั่งไม่ฟ้องซึ่งกำลังทำเรื่องสอบถามถึงสาเหตุของการสั่งไม่ฟ้อง
ส่วนกรณีที่มีการอ้างเอกสารสิทธิครอบครองพื้นที่ป่าชายเลน และมีการส่งเรื่องให้คณะกรรมการที่ส่วนกลางตรวจสอบพิสูจน์สิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว และขณะนี้ผลการตรวจสอบออกมาแล้วว่าพื้นที่ออกเอกสารสิทธิเป็นที่ป่าชายเลน ซึ่งเรื่องนี้จังหวัดจะต้องดำเนินการต่อไป ซึ่งจะต้องมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย
นายจตุพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับการบุกรุกทำลายพื้นที่ทรัพยากรธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ป่าชายทะเล หรือทรัพยากรทางทะเล มีความสำคัญโดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญถ้าปล่อยให้มีการบุกรุกไปมากความสวยงามของเมืองท่องเที่ยวก็จะหมดไป ซึ่งการดำเนินการปราบปรามในส่วนของการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน ต้องยอมรับว่ามีทั่วไปไม่ใช่เฉพาะจังหวัดภูเก็ตเท่านั้น ซึ่งจะต้องดำเนินการทุกพื้นที่ โดยภาพรวมพื้นที่ป่าชายเลนทั้งประเทศมีจำนวน1.5 ล้านไร่ ขณะนี้ได้ให้ความสำคัญในการเข้าไปฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม