ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ชาวบ้านกู้กูภูเก็ตยื่นฟ้องศาลปกครองเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดิน 21 ไร่ออกในป่าชายเลนเอง หลังหน่วยงานราชการทำงานไม่คืบหน้า
วันนี้ (8 ธ.ค) ที่บริเวณศาลาชุมชนหมู่ที่ 3 บ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา นำโดยนายสมหมาย เจริญสุข ประธานชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ร่วมกันเปิดเผยข้อมูลเอกสารเตรียมยื่นให้ศาลปกครองชั้นต้น จังหวัดนครศรีธรรมราช เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิที่ดินบริเวณป่าชายเลน หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้แจ้งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินเลขที่ 3561 ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 21 ไร่ โดยออกเอกสารสิทธิมาตั้งแต่ปี 2527
ทั้งนี้ ชาวบ้านคาดว่าการออกเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เพราะจากสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ป่าชายเลน และมีการยื่นเรื่องกันมาตั้งแต่ปี 2550 โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบและอ่านภาพถ่ายทางโอกาส แต่ยังไม่มีข้อสรุปอะไรออกมา ทั้งที่การอ่านภาพถ่ายทางอากาศระบุว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านมองว่าการดำเนินการตรวจสอบเป็นไปด้วยความล่าช้า จึงได้รวบรวมหลักฐาน และเอกสารต่างๆ รวมทั้งการแปรภาพถ่ายทางอากาศเพื่อที่จะนำไปยื่นต่อศาลปกครองชั้นต้นจังหวัดนครศีธรรมราช เพื่อขอให้เพิ่กถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว เพราะถ้ารอหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกมากน้อยแค่ไหน
สำหรับการเดินทางไปยื่นให้ศาลปกครองเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่จะเดินทางไปยื่นในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค)
ประธานชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันต่อสู้เพื่อให้ได้ผืนป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติกลับคืนมา หากพิจารณาจากหลักฐานต่างๆ รวมทั้งจากการมองภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งได้วิเคราะห์ตีความหมายชัดเจนแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชายเลน ไม่มีร่องรอยการใช้สอยประโยชน์ที่ดิน ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปการสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ได้แล้ว แต่กระบวนการยังไม่คืบหน้า เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของอธิบดีกรมที่ดิน จึงต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรมของศาลปกครองมาช่วยเร่งกระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิ
ด้าน นายอนุชา อาจหาญ ตัวแทนชาวบ้านกู้กู กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่กลับมีการออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินทับพื้นที่บริเวณตรงกลางป่าชายเลน ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ชาวบ้านหวังว่าจะได้ผืนป่าชายเลนกลับคืนมาให้อยู่คู่ชุมชนบ้านกู้กู สร้างประโยชน์ส่วนร่วม ต่อการเป็นป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และห่วงโซ่อาหารที่อุดมสมบูรณ์ระบบนิเวศน์ทางทะเล และประมงพื้นบ้านต่อไป
วันนี้ (8 ธ.ค) ที่บริเวณศาลาชุมชนหมู่ที่ 3 บ้านกู้กู ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชาวบ้านหมู่ที่ 3 ต.รัษฎา นำโดยนายสมหมาย เจริญสุข ประธานชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ร่วมกันเปิดเผยข้อมูลเอกสารเตรียมยื่นให้ศาลปกครองชั้นต้น จังหวัดนครศรีธรรมราช เพิกถอนการออกเอกสารสิทธิที่ดินบริเวณป่าชายเลน หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้แจ้งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิที่ดินเลขที่ 3561 ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 21 ไร่ โดยออกเอกสารสิทธิมาตั้งแต่ปี 2527
ทั้งนี้ ชาวบ้านคาดว่าการออกเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เพราะจากสภาพพื้นที่โดยรอบเป็นพื้นที่ป่าชายเลน และมีการยื่นเรื่องกันมาตั้งแต่ปี 2550 โดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้มีการตรวจสอบและอ่านภาพถ่ายทางโอกาส แต่ยังไม่มีข้อสรุปอะไรออกมา ทั้งที่การอ่านภาพถ่ายทางอากาศระบุว่าเป็นพื้นที่ป่าชายเลน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านมองว่าการดำเนินการตรวจสอบเป็นไปด้วยความล่าช้า จึงได้รวบรวมหลักฐาน และเอกสารต่างๆ รวมทั้งการแปรภาพถ่ายทางอากาศเพื่อที่จะนำไปยื่นต่อศาลปกครองชั้นต้นจังหวัดนครศีธรรมราช เพื่อขอให้เพิ่กถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว เพราะถ้ารอหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกมากน้อยแค่ไหน
สำหรับการเดินทางไปยื่นให้ศาลปกครองเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่จะเดินทางไปยื่นในวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค)
ประธานชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านกู้กู ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นชาวบ้านได้รวมตัวกันต่อสู้เพื่อให้ได้ผืนป่าชุมชนเฉลิมพระเกียรติกลับคืนมา หากพิจารณาจากหลักฐานต่างๆ รวมทั้งจากการมองภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งได้วิเคราะห์ตีความหมายชัดเจนแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าชายเลน ไม่มีร่องรอยการใช้สอยประโยชน์ที่ดิน ซึ่งน่าจะมีข้อสรุปการสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ได้แล้ว แต่กระบวนการยังไม่คืบหน้า เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาของอธิบดีกรมที่ดิน จึงต้องอาศัยกระบวนการยุติธรรมของศาลปกครองมาช่วยเร่งกระบวนการเพิกถอนเอกสารสิทธิ
ด้าน นายอนุชา อาจหาญ ตัวแทนชาวบ้านกู้กู กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่กลับมีการออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินทับพื้นที่บริเวณตรงกลางป่าชายเลน ซึ่งการต่อสู้ครั้งนี้ชาวบ้านหวังว่าจะได้ผืนป่าชายเลนกลับคืนมาให้อยู่คู่ชุมชนบ้านกู้กู สร้างประโยชน์ส่วนร่วม ต่อการเป็นป่าชายเลนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และห่วงโซ่อาหารที่อุดมสมบูรณ์ระบบนิเวศน์ทางทะเล และประมงพื้นบ้านต่อไป
