ตราด - รมว.วัฒนธรรม โฟนอินล็อบบี้แกนนำ ปิดเกาะช้างในที่ประชุม รับพิสูจน์สิทธิเสร็จ 15 ธ.ค.นี้ ด้านนายกสมาคมท่องเที่ยวเผย กรุ๊ปทัวร์, นักท่องเที่ยวยกเลิก,เลื่อน 20-30% ระบุ ไม่ปิดเกาะช้างแล้ว ด้านอดีตนายก อบต.เกาะช้าง เตรียมใช้เรือรับส่งนักท่องเที่ยวหากปิดเกาะ ชี้ ชาวเกาะช้างไม่เห็นด้วย
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะช้าง จ.ตราด นายศักดิ์ประเสริฐ เจริญประสิทธิ์ นายอำเภอเกาะช้าง ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต และชาวเกาะช้าง ประกอบด้วย นายโสภณ จันเดิม ส.อบจ.ตราด เขต อ.เกาะช้าง นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนัน ต.เกาะช้าง นายจักรกฤษ เพิ่มทรัพย์ นายนิมิต แว่นแคว้น เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการไขปัญหาที่ชาวเกาะช้างต้องการให้รัฐบาล ดำเนินการในเรื่องของการพิสูจน์สิทธิโดยเร็ว หลังล่าช้ามาเกือบ 10 ปี
นายศักดิ์ประเสริฐ กล่าวในที่ประชุมว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา แกนนำชาวเกาะช้าง ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อยื่นหนังสือผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการให้นายกรัฐมนตรีได้เข้ามาแก้ปัญหาที่ดินทำกินที่ถูกออกเอกสารสิทธิทับที่ดินทำกิน พร้อมประกาศหากไม่ยอมดำเนินการจะมีการปิดเกาะช้าง ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ทราบข่าวรวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างตื่นตกใจกันเป็นอันมาก จึงได้เชิญทุกคนเข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไข
ซึ่งในที่ประชุมแกนนำ ทุกคนได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ที่ผ่านมา ภาครัฐไม่จริงใจกับการแก้ปัญหา ทำให้ชาวเกาะช้างเดือดร้อน ทั้งถูกจับดำเนินคดี และถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดินของรัฐ ทั้งที่ขั้นตอนการพิสูจน์สิทธิมันน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ปรากฏว่า มีการเปลี่ยนแปลงการอ่านแปรภาพถ่ายทางดาวเทียมใหม่จากปี 2518 มาเป็น ปี 2510 ทำให้ชาวเกาะช้าง รอไม่ไหว อีกทั้งกฎเกณฑ์ทุกอย่างฝ่ายราชการเป็นผู้ออกทั้งนั้น ชาวบ้านไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเลย แต่พอเกิดปัญหาชาวบ้านกลับ ต้องรับปัญหาไปเต็มๆ
และในขณะที่มีการประชุมกันอยู่นั้น นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ตราด ได้โฟนอินเข้ามาในที่ประชุม และได้ชี้แจงให้ชาวเกาะช้างที่เข้าร่วมประชุมทราบว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวนี้เลย เพราะได้ติดตามงานตลอดซึ่งการดำเนินงานได้ผ่านเข้าไปถึงในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว และคาดว่า เรื่องจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2552 นี้แน่นอน จึงอยากให้ทุกคนใจเย็นรออีกสักหน่อย และก็อยากให้เห็นกับชาวเกาะช้างและผู้ประกอบการที่จะได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินการปิดเกาะช้างในครั้งนี้
จากนั้นแกนนำชาวเกาะช้างได้ออกไปปรึกษาหารือกันด้านนอกห้องประชุม และกลับเข้ามาพร้อมบอกว่า จะยอมที่จะไม่ปิดเกาะช้างในวันที่ 13 พฤศจิกายน นี้ และจะรอผลการพิสูจน์สิทธิที่จะแล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคม 2552 นี้ แต่มีข้อแม้ว่า หากผลที่ออกมาไม่เป็นที่พอใจหรือไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ในที่ประชุม ในวันที่ 18 ธันวาคม 2552 ชาวเกาะช้างจะยึดมั่นกับมาตรการเดิมโดยจะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
ทางด้าน นายสัญญา เกิดมณี อดีตนายก อบต.เกาะช้าง และผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวเกาะช้าง กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มแกนนำที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น,กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และแก้ปัญหาไม่ถูก จะมาปิดเกาะช้างเพื่อต่อรองให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการพิสูจน์สิทธิที่ดินนั้น ต้องเข้าใจว่า การทำงานของภาครัฐมีความล่าช้า และไม่ได้ทำงานเฉพาะที่เกาะช้างอย่างเดียว จังหวัดอื่นๆ ก็มีปัญหาเช่นกัน ดังนั้น หากมีการปิดเกาะช้างจริง ๆ ตนเองพร้อมจะออกไปเจรจากับแกนนำ ซึ่งรู้จักกันทุกคน หากยังไม่ยอมก็จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับแกนนำที่ปิดเกาะช้าง ที่ผ่านมา ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะนักท่องเที่ยว ต่างประเทศกว่า 30 กรุ๊ป ได้ยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยว แต่ส่วนที่ติดต่อมาก็ชี้แจงไปว่าเกาะช้างไม่ปิดแน่นอน
“ผมต้องบอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ติดต่อมาว่าจะแก้ปัญหาหาให้หากปิดเกาะช้างจริง โดยจะนำเรือเร็ว เรือโดยสารมารับนักท่องเที่ยวทั้งหมดเพื่อไปขึ้นฝั่งอีกด้านหนึ่งของเกาะช้าง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตาม ผมกับกลุ่มแกนนำสามารถคุยกันรู้เรื่อง”
ขณะที่ นางสาวจารุวรรณ จินตกานนท์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลสรุปจากการประชุมแกนนำปิดเกาะช้างที่ อ.เกาะช้าง ได้มีข้อสรุปแล้วว่าจะไม่ปิดเกาะช้าง ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 แน่นอน ที่ผ่านมา ทางสมาคมได้พยายามชี้แจงให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้าใจแต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่ติดต่อมาและสอบถามได้ตัดสินใจยกเลิกและ เลื่อนไปแล้ว 30% ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเกาะช้างในขณะนี้ เริ่มมีมากขึ้นก็จริง แต่ยังไม่มากเหมือนทุกปี ยิ่งมีสถานการณ์แบบนี้ยิ่งส่งผลกระทบไปอีก
“ทางผู้ประกอบการเข้าใจปัญหาของชาวเกาะช้าง และรู้สึกเห็นใจชาวเกาะช้างว่าที่ดินของพ่อ-แม่ ที่ทำมาหากินมานานหลายสิบปี ต้องตกอยู่ในมือภาครัฐและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แม้ปัญหานี้ทางรัฐมนตรีก็ได้มีการแก้ไขได้อย่างเร่งด่วนอยู่แล้ว”
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเกาะช้าง จ.ตราด นายศักดิ์ประเสริฐ เจริญประสิทธิ์ นายอำเภอเกาะช้าง ได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต และชาวเกาะช้าง ประกอบด้วย นายโสภณ จันเดิม ส.อบจ.ตราด เขต อ.เกาะช้าง นายวันรุ่ง ขนรกุล กำนัน ต.เกาะช้าง นายจักรกฤษ เพิ่มทรัพย์ นายนิมิต แว่นแคว้น เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางในการไขปัญหาที่ชาวเกาะช้างต้องการให้รัฐบาล ดำเนินการในเรื่องของการพิสูจน์สิทธิโดยเร็ว หลังล่าช้ามาเกือบ 10 ปี
นายศักดิ์ประเสริฐ กล่าวในที่ประชุมว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 ที่ผ่านมา แกนนำชาวเกาะช้าง ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เพื่อยื่นหนังสือผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการให้นายกรัฐมนตรีได้เข้ามาแก้ปัญหาที่ดินทำกินที่ถูกออกเอกสารสิทธิทับที่ดินทำกิน พร้อมประกาศหากไม่ยอมดำเนินการจะมีการปิดเกาะช้าง ทำให้ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ทราบข่าวรวมทั้งนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ต่างตื่นตกใจกันเป็นอันมาก จึงได้เชิญทุกคนเข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไข
ซึ่งในที่ประชุมแกนนำ ทุกคนได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า ที่ผ่านมา ภาครัฐไม่จริงใจกับการแก้ปัญหา ทำให้ชาวเกาะช้างเดือดร้อน ทั้งถูกจับดำเนินคดี และถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ดินของรัฐ ทั้งที่ขั้นตอนการพิสูจน์สิทธิมันน่าจะเสร็จสิ้นแล้ว แต่ปรากฏว่า มีการเปลี่ยนแปลงการอ่านแปรภาพถ่ายทางดาวเทียมใหม่จากปี 2518 มาเป็น ปี 2510 ทำให้ชาวเกาะช้าง รอไม่ไหว อีกทั้งกฎเกณฑ์ทุกอย่างฝ่ายราชการเป็นผู้ออกทั้งนั้น ชาวบ้านไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเลย แต่พอเกิดปัญหาชาวบ้านกลับ ต้องรับปัญหาไปเต็มๆ
และในขณะที่มีการประชุมกันอยู่นั้น นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ตราด ได้โฟนอินเข้ามาในที่ประชุม และได้ชี้แจงให้ชาวเกาะช้างที่เข้าร่วมประชุมทราบว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวนี้เลย เพราะได้ติดตามงานตลอดซึ่งการดำเนินงานได้ผ่านเข้าไปถึงในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว และคาดว่า เรื่องจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2552 นี้แน่นอน จึงอยากให้ทุกคนใจเย็นรออีกสักหน่อย และก็อยากให้เห็นกับชาวเกาะช้างและผู้ประกอบการที่จะได้รับความเดือดร้อนจากการดำเนินการปิดเกาะช้างในครั้งนี้
จากนั้นแกนนำชาวเกาะช้างได้ออกไปปรึกษาหารือกันด้านนอกห้องประชุม และกลับเข้ามาพร้อมบอกว่า จะยอมที่จะไม่ปิดเกาะช้างในวันที่ 13 พฤศจิกายน นี้ และจะรอผลการพิสูจน์สิทธิที่จะแล้วเสร็จในวันที่ 15 ธันวาคม 2552 นี้ แต่มีข้อแม้ว่า หากผลที่ออกมาไม่เป็นที่พอใจหรือไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ในที่ประชุม ในวันที่ 18 ธันวาคม 2552 ชาวเกาะช้างจะยึดมั่นกับมาตรการเดิมโดยจะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
ทางด้าน นายสัญญา เกิดมณี อดีตนายก อบต.เกาะช้าง และผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวเกาะช้าง กล่าวว่า การกระทำของกลุ่มแกนนำที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น,กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และแก้ปัญหาไม่ถูก จะมาปิดเกาะช้างเพื่อต่อรองให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาการพิสูจน์สิทธิที่ดินนั้น ต้องเข้าใจว่า การทำงานของภาครัฐมีความล่าช้า และไม่ได้ทำงานเฉพาะที่เกาะช้างอย่างเดียว จังหวัดอื่นๆ ก็มีปัญหาเช่นกัน ดังนั้น หากมีการปิดเกาะช้างจริง ๆ ตนเองพร้อมจะออกไปเจรจากับแกนนำ ซึ่งรู้จักกันทุกคน หากยังไม่ยอมก็จะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับแกนนำที่ปิดเกาะช้าง ที่ผ่านมา ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว เพราะนักท่องเที่ยว ต่างประเทศกว่า 30 กรุ๊ป ได้ยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยว แต่ส่วนที่ติดต่อมาก็ชี้แจงไปว่าเกาะช้างไม่ปิดแน่นอน
“ผมต้องบอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ติดต่อมาว่าจะแก้ปัญหาหาให้หากปิดเกาะช้างจริง โดยจะนำเรือเร็ว เรือโดยสารมารับนักท่องเที่ยวทั้งหมดเพื่อไปขึ้นฝั่งอีกด้านหนึ่งของเกาะช้าง เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน อย่างไรก็ตาม ผมกับกลุ่มแกนนำสามารถคุยกันรู้เรื่อง”
ขณะที่ นางสาวจารุวรรณ จินตกานนท์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ตราด เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลสรุปจากการประชุมแกนนำปิดเกาะช้างที่ อ.เกาะช้าง ได้มีข้อสรุปแล้วว่าจะไม่ปิดเกาะช้าง ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2552 แน่นอน ที่ผ่านมา ทางสมาคมได้พยายามชี้แจงให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้าใจแต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่ติดต่อมาและสอบถามได้ตัดสินใจยกเลิกและ เลื่อนไปแล้ว 30% ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาเกาะช้างในขณะนี้ เริ่มมีมากขึ้นก็จริง แต่ยังไม่มากเหมือนทุกปี ยิ่งมีสถานการณ์แบบนี้ยิ่งส่งผลกระทบไปอีก
“ทางผู้ประกอบการเข้าใจปัญหาของชาวเกาะช้าง และรู้สึกเห็นใจชาวเกาะช้างว่าที่ดินของพ่อ-แม่ ที่ทำมาหากินมานานหลายสิบปี ต้องตกอยู่ในมือภาครัฐและไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แม้ปัญหานี้ทางรัฐมนตรีก็ได้มีการแก้ไขได้อย่างเร่งด่วนอยู่แล้ว”