xs
xsm
sm
md
lg

ภาคเอกชน 5 จชต.พบ “มาร์ค” ครั้งแรกเตรียมถก 3 ประเด็นหลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – การร่วมเวทีพบหน้านายกรัฐมนตรี กับภาคเอกชนใน 5 จังหวัดชายแดนใต้เป็นครั้งแรกคึกคัก เตรียมเอกสารและชี้แจงเพื่อนำเสนอปัญหาความเดือดร้อน ทั้งความล่าช้าในการปรับปรุงระบบโลจิสติกส์ทางบก และท่าเรือ ลดต้นทุนในเวทีตลาดอาเซียน, เงินกู้ซอฟต์โลนที่เงียบหายเข้ากลีบเมฆ และการช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวที่ต้องอาศัยความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ควบคู่กับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดโต๊ะพบภาคเอกชน 5 จังหวัดชายแดนใต้เป็นครั้งแรกวันที่ 31 ต.ค.ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำกัดแค่ 90 นาทีเท่านั้น ท่ามกลางปัญหาที่สะสมและไม่ได้รับการแก้ไข

สงขลาจี้รัฐขยายระบบโลจิสติกส์

นายไชยยศ สินเจริญกุล ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สงขลา กล่าวว่า เมืองชายแดนสงขลาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้ ที่มีมูลค่าการส่งออกกว่าแสนล้านบาทมากที่สุดของประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์จากยางพารา และอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งรัฐควรให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงหรือขยายระบบโลจิสติกส์ของภาคใต้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ได้แก่

1.ปรับปรุงประสิทธิภาพการขนส่งระบบรางรถไฟ ซึ่งเป็นระบบขนส่งที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ให้เชื่อมโยงเส้นทางไปยังท่าเรือต่างๆ ตลาดจนลานพักสินค้าโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศเป็นสำคัญ รวมถึงต้องมีมาตรการรองรับกรณีเกิดการหยุดเดินรถไฟ

2.ขยายและพัฒนาท่าเรือสองฝั่งทะเลให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะท่าเรือน้ำลึกสงขลา-ท่าเรือกันตัง จ.ตรังที่ยังมีข้อจำกัดไม่สามารถให้บริการได้เพียงพอต่อการขยายตัว และเส้นทางสายบ้านบางสัก-นาเกลือไม่สะดวก ทำให้ผู้ส่งออกต้องพึ่งพิงท่าเรือเพื่อนบ้าน เช่น ท่าเรือปีนัง นับเป็นการสูญเสียโอกาสและรายได้ของประเทศอย่างยิ่ง

3.เร่งสร้างเส้นทางพิเศษ หรือ มอเตอร์เวย์ เชื่อมระหว่างด่านศุลกากร-ท่าเรือน้ำลึกสงขลาเชื่อม ซึ่งปัจจุบันมีการจราจรเส้นทาง อ.สะเดา-หาดใหญ่-เมืองสงขลา แออัด และเป็นการใช้เส้นทางร่วมกันทั้งประชาชน รถโดยสารในประเทศ-ต่างประเทศ และการขนส่งสินค้า

4.การให้บริการเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ของสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ โดยพึ่งพิงเฉพาะสายการบินต่างชาติ ซึ่งล่าสุด สายการบินไทเกอร์แอร์ ให้บริการเส้นทางสิงคโปร์-หาดใหญ่-สิงคโปร์ ในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ แต่ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะหยุดบริการเมื่อไหร่ ขอให้รัฐพิจารณาความมั่นใจของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล ความเชื่อมั่นการลงทุน และศักดิ์ศรีของคนไทยที่มีต่อสนามบินของประเทศตนเอง เพราะยังไม่มีสายการบินแห่งชาติของตนเองให้บริการ

3 จชต.จี้คืบหน้าซอฟต์โลน

นายพจน์ ไพบูลย์เกษมสุทธิ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ เสนอให้รัฐบาลแก้ร่าง พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนใต้ มาตราที่ 3 เพื่อเปลี่ยนนิยามศัพท์ จากเดิมคำว่า ”จังหวัดชายแดนใต้” หมายความว่า จ.นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สตูล, สงขลา และจังหวัดอื่นหรือบางพื้นที่ของจังหวัดอื่นในภาคใต้ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด โดยเสนอให้เพิ่ม 4 อำเภอของสงขลาเข้าไว้ในคำนิยามศัพท์คำนี้ และแก้ไข มาตรา 7 เปิดโอกาสให้คนในพื้นที่เข้าร่วมทำงานร่วมกับบุคลากรจากส่วนกลาง

ส่วนความช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอัตรา 1.5 % (ซอฟต์โลน) ซึ่งภายหลังจากที่มีรัฐมีนโยบายให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ปล่อยกู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่ผู้ประกอบการนั้นให้ความสนใจและยังต้องการเพื่อใช้หมุนเวียนให้ธุรกิจอยู่ได้

ด้าน นายณัฐนนท์ พงษ์ธัญญะวิริยา ประธานหอการค้าจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ต้องการให้รัฐเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้ของชายฝั่งทะเลที่เป็นรอยต่อกับ จ.นราธิวาส ที่ทำการเกษตรไม่ได้เพื่อตั้งเป็นพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมการเกษตรกรรมและท่าเรือขนส่งสินค้า พร้อมกับช่วยเหลือขุดร่องน้ำแม่น้ำปัตตานี ที่มีทรายมาทับถมจนตื้นเขิน เรือขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านได้ ให้มีความลึกมาตรฐานประมาณ 6-7 เมตร

ขอมาตรการความปลอดภัย-ฟื้นฟูภาคท่องเที่ยว

นายสมชาติ พิมพ์ธนะพูนพร นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ได้รัฐบาลชุดใหม่มายังไม่เห็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่พบปะภาคเอกชนเลย ความจำเป็นลำดับแรกนั้น ต้องการให้รัฐสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้หลากหลายอย่างเป็น โดยดูพัฒนาการของประเทศสิงคโปร์ที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณและมีความคิดสร้างสรรค์สร้างจุดขายใหม่ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง และผลักดันการประชุมสัมมนาของภาครัฐให้เกิดขึ้นในหาดใหญ่

ขณะที่ นางกรรณิกา ดำรงวงศ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.นราธิวาส กล่าวว่า รัฐบาลควรขยายเวลายกเลิกค่าธรรมเนียมสถานประกอบการบันเทิงปีละ 20,000 บาท ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2548 ออกไปอีก เศรษฐกิจในกลุ่มท่องเที่ยวยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก พร้อมกับเร่งรัดโครงการก่อสร้างสร้างสะพานที่ตากใบ ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญของนักท่องเที่ยวมาเลเซียในลักษณะที่เป็นวงกลมเชื่อมสะพานสุไหงโก-ลก ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ส่วน จ.ปัตตานีนั้นขอให้รัฐรื้อฟื้นสาขาสำนักงานท่องเที่ยวในพื้นที่ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อความสะดวกในการของบจัดกิจกรรมที่ปัจจุบันต้องติดต่อ จ.ยะลา

ด้าน นายสามารถ เจริญฤทธิ์ นายกท่องเที่ยวจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการยังขาดความพร้อมในการบริการด้านท่องเที่ยว จึงอยากให้สนับสนุนอบรมพัฒนาบุคลากร ทั้งบุคลิกภาพและการใช้ภาษา และแก้ปัญหาขยะขนเกาะหลีเป๊ะซึ่งเป็นแหล่งรองรับนักท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัด รวมถึงผู้ประกอบการขาดเงินทุนในการก่อสร้างที่พักบนเกาะที่ยังไม่เพียงพอด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น