xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจใต้รุมบี้รัฐบาล เร่งแก้CCTV-ฟันบริษัททิ้งงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ประธานหอฯ 5 จชต.-นักธุรกิจใน 3 จชต.รุมจี้รัฐบาล "มาร์ค" เร่งแก้ปัญหากล้องวงจรปิด ฟันบริษัทผู้รับสัมปทานฐานทิ้งงาน ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เผยอนุสาวรีย์ CCTV เกลื่อนเมืองรถสิบล้อเสยหล่นจากเสาไฟฟ้าพลเมืองดีนำไปให้ตำรวจถึงรู้ว่ากล้องเสีย แฉ DRCยื่นหนังสือขอยกเลิกสัญญากับรัฐ เพราะมีปัญหาตั้งแต่อุปกรณ์คอมพ์ยันซับพลายเออร์ในพื้นที่ทำให้งานไม่คืบหน้าจนต้องจ่ายเบี้ยปรับวันละ 1.9 แสนบาทกระทั่งยอดพุ่ง 40 ล้านบาท ท้ายสุดถอดใจเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา

กรณีบริษัท ดิจิตัล รีเสิร์ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด หรือ ดีอาร์ซี (DRC) ผู้ดำเนินโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลค่า 969 ล้านบาท ยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2551 และล่วงเลยมากกว่า 9 เดือนดังที่เคยเป็นข่าวไปแล้วนั้น
นายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผย "ASTVผู้จัดการรายวัน" ว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัท DRC ได้ขอยกเลิกสัญญาดำเนินการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อกระทรวงมหาดไทย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการยกเลิกสัญญานั้นไม่สามารถทำได้ ส่วนความคืบหน้าในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และกองคลัง
"สำหรับสาเหตุการขอยกเลิกสัญญานั้น เกิดจากปัญหาการดำเนินงานที่มีความล่าช้าเป็นหลัก ซึ่งก่อนหน้านี้มีการแก้ไขสัญญาทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งไม่มีผู้ใดเสียประโยชน์ โดยบริษัทขอแก้ไขเพื่อใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นทดแทน CPU ของบริษัท เดล คอมพิวเตอร์ ที่ได้ยกเลิกการผลิตในเวลาต่อมา ส่วนรัฐขอแก้ไขสถานที่ก่อสร้างห้องควบคุม"
นายปวิณ กล่าวต่อว่า จากการที่เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าอยู่เป็นระยะทำให้ทราบว่า บริษัทมีปัญหากับซัพพลายเออร์ในพื้นที่อีกด้วย ทำให้การทำงานทุกด้านล่าช้าเป็นอย่างมาก จนไม่มีด้านใดสามารถส่งมอบได้เลย ซึ่งที่มีการตรวจสอบล่าสุดก่อนที่จะมีการแจ้งขอยกเลิกสัญญาพบว่า งานติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดพร้อมสายหัวกล้องดำเนินการแล้วประมาณ 30% กล่าวคือ ติดตั้งแล้วกว่า 1,000 จุด จากทั้งหมด 3,520 จุด งานก่อสร้างห้องควบคุมดำเนินการแล้วประมาณ 80% และงานเดินเคเบิ้ลเน็ตเวิร์คอีกประมาณ 80% ซึ่งตลอดเวลาที่เลยระยะการส่งมอบงานได้มีการส่งหนังสือแจ้งค่าปรับวันละ 190,000 บาท จนถึงเดือนกรกฎาคมเป็นเงินราว 40 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นอีกผลหนึ่งของการขอยกเลิกสัญญาในเวลาต่อมา
"หลังจากที่บริษัทส่งมอบงานไม่ทันตามกำหนดก็ยังไม่เคยต่อสัญญา แต่เราได้แจ้งให้จ่ายค่าปรับเป็นรายวัน และบริษัทก็มีการดำเนินงานในพื้นที่ต่อเนื่องมาโดยตลอด จนกระทั่งมาขอยกเลิกสัญญาเมื่อกรกฎาคม ซึ่งเราก็ไม่เคยรู้มาก่อนล่วงหน้า สำหรับเรื่องงบประมาณนั้นยังอยู่ที่เรา 100% เพราะบริษัทยังไม่ส่งงานที่ผ่านการตรวจรับเลยและเงินค้ำประกันสัญญา 5% ก็ยังอยู่ครบ ทั้งนี้ บริษัท DRC เพิ่งจะได้รับสัมปทานโครงการรัฐของที่นี่เป็นครั้งแรกและเสนอราคาต่ำ แต่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยของโรเบิร์ต บอซ ซึ่งได้รับการยอมรับในคุณภาพ ณ เวลานั้น และมีการแข่งขันกันถึง 6 ยี่ห้อ"
นายดิสพูน จ่างเจริญ รองประธานชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร จ.ปัตตานี กล่าวถึงผลกระทบของโครงการการกล้องโทรทัศน์วงจรปิดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่แล้วเสร็จว่า ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและไม่มั่นใจในความรู้สึกปลอดภัย เพราะหากเกิดเหตุขึ้นแล้วก็ไม่สามารถเก็บหลักฐานหรือติดตามเบาะแสคนร้ายได้ ซึ่งปกติที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้วประชาชนยังร่วมกันดูแลรักษาเพื่อสาธารณะประโยชน์อยู่แล้ว ทั้งที่ไม่รู้ว่ากล้องหลายตัวติดตั้งแล้วไม่สามารถใช้การได้
"ที่หน้าบ้านของผมมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดติดอยู่บนเสาไฟฟ้าตัวหนึ่ง วันหนึ่งมีรถสิบล้อมาชนเข้าที่เสาไฟฟ้า ทำให้กล้องตกลงมาที่พื้น ผมตกใจมากรีบพากล้องไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูอาการ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ และยังถามผมอีกว่าจะสนใจทำไม ก็กล้องตัวนี้มันใช้การไม่ได้ ผมรู้สึกเจ็บใจมาก เพราะเชื่อว่ากล้องตัวนี้ใช้งานได้มาโดยตลอด หากเกิดอะไรขึ้นมาจะบันทึกภาพต่างๆ ได้"
นายดิสพูน กล่าวต่อว่า ในเรื่องนี้ตนพร้อมด้วยแกนนำพันธมิตรฯปัตตานี ได้ไปร้องเรียนต่อนายธีระเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีให้เร่งติดตามโครงการดังกล่าวให้เสร็จลุล่วงโดยเร็วเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติแล้ว เพราะเป็นโครงการที่ใช้งบฯสูงเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาษีของประชาชน อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนดำเนินการ เหตุใดจนถึงป่านนี้จึงยังทำไม่เสร็จสักที
นายดิสพูน กล่าวต่ออีกว่า กรณีที่บริษัทเอกชนผิดสัญญากับรัฐนั้นอยากให้มีการติดตามฟ้องดำเนินคดีเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของส่วนรวม รวมถึงขึ้นบัญชีดำบริษัทนี้ด้วย พร้อมกับเร่งหากล้องโทรทัศน์วงจรปิดตัวใหม่มาติดตั้ง ตลอดจนซ่อมแซมกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่ใช้งานไม่ได้ให้เร็วที่สุด และโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ารัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ใช่ช่วงหาเสียงเลือกตั้งเลยไม่มีคนในรัฐบาลสนใจ และเห็นว่ารัฐบาลควรหาบริษัทใหม่มาทำการติดตั้งให้เสร็จโดยด่วน เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจและรู้สึกว่าตนเองปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้พึ่งพากล้องโทรทัศน์วงจรปิดของเทศบาลที่ติดอยู่ตามสี่แยกสำคัญๆ ในบางจุดเท่านั้น แต่กล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่มีคุณภาพสูง และราคาแพงถึงตัวละกว่า 275,284 บาทของกระทรวงมหาดไทยมีแค่ตัวกล้องแต่ไม่มีสายต่อจึงใช้การไม่ได้ทั้งหมด
"ตอนนี้ประชาชนที่ประกอบธุรกิจค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ก็ต้องลงทุนติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดกันเอง เพื่อความปลอดภัยแม้ว่าจะต้องใช้เงินเยอะก็ตาม หากเป็นไปได้อยากให้ทางราชการสนับสนุนค่าใช้จ่ายกับร้านค้าคนละครึ่ง ซึ่งเจ้าของร้านค้าเองก็จะรู้สึกร่วมเป็นเจ้าของและดูแลเป็นพิเศษ"
นายพจน์ ไพบูลย์เกษมสุทธิ ประธานหอการค้า 5 จังหวัดชายภาคใต้ กล่าวว่า ที่บริษัทผู้รับสัมปทานติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด 5 จังหวัดชายแดนใต้มีความประสงค์จะยกเลิกสัมปทานนั้น หากสามารถทำได้จริง รัฐต้องเร่งหาบริษัทใหม่เข้ามารับช่วงดำเนินการต่อ ซึ่งทุกโครงการที่เปิดประกวดราคาต้องมีความโปร่งใสในการประมูลตั้งแต่แรกและควรหาผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านนั้นจริงๆ ซึ่งมีบริษัทมากมายที่พร้อมจะทำการติดตั้ง
"หลังจากที่มีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแล้ว กระบวนการควบคุมดูแลก็เป็นสำคัญ รัฐจะต้องจัดระบบการดูแลควบคุมกล้องให้มีจุดศูนย์กลางเพียงแห่งเดียวที่บูรณาการงานได้ เพราะปัจจุบันมีหลายหน่วยงานเป็นเจ้าของเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันเหตุ อย่างกรณีกล้องวงจรปิดในเทศบาลเมืองยะลา ก็ควรที่จะมีหน่วยงานหนึ่งเท่านั้นที่มาดูแลทั้งระบบ ไม่ควรที่จะแบ่งออกหลายหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม ผมต้องฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยเร่งจัดสรรงบประมาณในการติดตั้งกล้องวงจรปิดพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสียพี่น้องผู้บริสุทธิ์ใน 3 จังหวัดมากกว่านี้"
วานนี้ (8 ก.ย.) นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่พบชาวบ้านย่านตลาดสดเทศบาลเมืองนราธิวาส และตรวจพื้นที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดตามเสาไฟฟ้า พร้อมกล่าวว่า จริงๆ แล้วเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ต้องติดตั้งกล้องตามแยกต่างๆ และย่านเขตเศรษฐกิจกว่า 1,000 ตัว แต่ผู้รับเหมาติดตั้งเพียง 120 ตัว อีกทั้งบางจุดใช้การไม่ได้ ซึ่งจะต้องเร่งรัดการติดตั้งทั้งระบบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะประสบปัญหาเหมือนกันคือ ผู้รับเหมาทิ้งงาน ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญระดับต้นๆ ของการแก้ปัญหาความไม่สงบที่มักฉวยโอกาสแฝงตัวเข้าไปก่อเหตุร้ายในเขตเมืองหรือแหล่งชุมชน ดังนั้น จะต้องพิจารณาขบวนการต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ให้บริษัทใหม่มารับเหมาติดตั้งให้เสร็จสิ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น