ยะลา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา แถลงผลการปฏิบัติงานของตำรวจในพื้นที่ว่ามีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาการก่อเหตุร้ายรายวันของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ พร้อมโบ้ยสื่อรายงานข่าวบิดเบือน โดยเสนอสถานการณ์ในพื้นที่ว่ามีความรุนแรง มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ ล้มตายเป็นจำนวนมาก เกินที่จะเยียวยา
วันนี้ (29 ต.ค.) ที่บริเวณชั้น 2 อาคารกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พร้อมด้วย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ในแต่ละฝ่ายที่รับผิดชอบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติงานของตำรวจในพื้นที่จังหวัดยะลา ว่ามีความสามารถที่จะแก้ไขปัญหาการก่อเหตุร้ายรายวัน ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
พล.ต.ต.สายัณห์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าวว่า ตามที่สื่อบางฉบับหรือมีบุคคลบางคน ได้เสนอข่าวสารหรือพูดถึง สถานการณ์ในพื้นที่ว่ามีความรุนแรง มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ ล้มตายเป็นจำนวนมาก เกินที่จะเยียวยา สำหรับในพื้นที่จังหวัดยะลานั้น ที่ผ่านมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 51 ถึงปัจจุบัน ซึ่งจากการปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นหลักสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลาเน้นในเชิงสังคมจิตวิทยาเป็นหลักสำคัญ คือ ประชาชนต้องเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติ และจะต้องมีความเข้าใจในขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ในพื้นที่เป็นอย่างดี ส่วนหลักในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น โดยจะเน้นหลักใหญ่ 3 ประการ คือ 1.เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีความเข้มแข็งทั้งตัวบุคคล สถานที่ รวมถึงหลักยุทธวิธีในการทำงาน 2.จะต้องยึดหลักด้วยความเสมอภาค และมีความเป็นธรรมในการดำเนินคดีตามกฎหมาย ยึดหลักนิติธรรมอย่างแท้จริง 3.ต้องทำให้ประชาชนมีความเข้าใจ มีความรู้สึกที่ดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
สำหรับการปฏิบัติงานในด้านความมั่นคง ยาเสพติด รวมทั้งอาชญากรรมอื่นๆ นั้น ได้มีการจัดตั้งชุมชนเข้มแข็ง ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อช่วยกันดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินภายในชุนชนของตนเอง ให้มีความปลอดภัยสูงสุด ส่วนในพื้นที่ที่เป็นป่าเขายากลำบากต่อการปฏิบัติงาน เช่น ในพื้นที่ อ.ยะหา อ.บันนังสตา และ อ.ธารโต นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประสานการปฏิบัติกับฝ่ายทหาร ทหารพราน เพื่อเปิดยุทธการเชิงรุก ในการเข้าปฏิบัติการต่อผู้ก่อความไม่สงบที่ยังหลบหนีซุกซ่อนตัว
ซึ่งผลจากการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบสถิติเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดยะลา ลดลงตามลำดับ ปี 2550 (ต.ค.2549-ก.ย.2550) เกิด 738 เหตุ ปี 2551 (ต.ค.2550-ก.ย.2551) เกิด 405 เหตุ ปรากฏเหตุลดลง 333 เหตุ คิดเป็น 45.12% สำหรับปี 2552 (ต.ค.2551-ก.ย.2552) เกิด 297 เหตุ ปรากฏเหตุลดลงจากปี 2551 จำนวน 108 เหตุ คิดเป็น 26.67% พื้นที่เพ่งเล็งเขตเทศบาลนครยะลา และเขตเมืองยะลา ปี 2550 (ต.ค.2549-ก.ย.2550) เกิด 207 เหตุ ปี 2551 (ต.ค.2550-ก.ย.2551) เกิด 73 เหตุ ปรากฏเหตุลดลง 134 เหตุ คิดเป็น 64.73% สำหรับปี 2552 (ต.ค.2551-ก.ย.2552) เกิด 60 เหตุ ปรากฏเหตุลดลงจากปี 2551 จำนวน 108 เหตุ คิดเป็น 26.67%
ส่วนการปฏิบัติงานเข้าปิดล้อมตรวจค้น และปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ปี 2551 เกิดการปะทะ 11 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บ 13 นาย คนร้ายเสียชีวิต 19 คน บาดเจ็บ 1 คน ปี 2552 เกิดการปะทะ 8 ครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย บาดเจ็บ 2 นาย คนร้ายเสียชีวิต 15 คน ไม่มีบาดเจ็บ โดยผลจากการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทั้ง 4 ฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ได้มีการประสานการปฏิบัติกับพลังมวลชนเข้มแข็งในพื้นที่ และได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี จึงทำให้สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดยะลาลดลงแต่อย่างไรก็ตามผู้ก่อความไม่สงบยังคงดำรงความมุ่งหมายในการก่อเหตุต่อพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐหลายรูปแบบซึ่งทุกภาคส่วนจะร่วมกันปฏิบัติเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ
ส่วนความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในตลาดสดพิมลชัย ถนนพิมลชัย เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อเช่าตรู่ของวันที่ 19 ตุลาคม 52 ที่ผ่านมานั้น หลังเกิดเหตุทางชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้ร่วมกับชุดสืบสวนสอบสวนของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และชุดสืบสวนสอบสวนของ สภ.เมืองยะลา ได้ประสานกำลังตรวจสอบหลักฐาน สามารถเข้าควบคุมผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือนายรอเฮง มะมิง ชาวตำบลตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
รวมทั้งสามารถควบคุมตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง คือ นายซาอุดี เจ๊ะสะแป นายเจ๊ะอารง เป๊าะซา นายมันโซ เป๊าะซา นายอับดุลกอเดร์ สุหลง และนายสุกรี มะยูดิง ซึ่งผู้ต้องสงสัยทั้งหมด เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ที่ศูนย์พิทักษ์สันติ ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และผู้ต้องสงสัย ได้ให้การที่เป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมตัว นายสะหะ สาแป ซึ่งมีหลักฐานว่าเป็นผู้จ้างวานในเหตุการณ์นี้ได้แล้วเช่นกัน
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลายังได้กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ประกอบการค้าในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และพบการค้าน้ำมันเถื่อน ซึ่งในเบื้องต้นมีความเชื่อมโยงกับการสนับสนุนงบประมาณก่อเหตุให้กับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ในส่วนของจังหวัดยะลาตนเองได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ประสานงานไปยังสถานีตำรวจ ใน 8 อำเภอของจังหวัดยะลา ในการตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ว่ามีส่วนสนับสนุนเงินงบประมาณให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ หรือไม่อย่างไร ในเบื้องต้น ตรวจสอบว่ายังไม่พบ แต่อยู่ในระหว่างการสืบสวนหาข่าวเพิ่มเติมอยู่ โดยทางตำรวจภูธรจังหวัดยะลามีเป้าหมายในการตรวจสอบแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
ส่วนในเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยครู โรงเรียน ในช่วงที่จะมีการเปิดภาคเรียนในวันจันทร์ที่ 2 พ.ย.52 ที่จะถึงนี้ ได้มีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ในจุดที่เป็นรอยต่อระหว่างจุดต่อจุด เช่นเขตรอยต่อระหว่าง อ.กรงปินัง กับ อ.เมืองยะลา อ.รามัน กับ อ.เมือง ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลแล้วสร้างความมั่นใจให้กับครู ภายในโรงเรียนมีการประสานงานกับ ชุดรักษาความปลอดภัยในชุมชนหมู่บ้านในการดูแลรักษาความสงบ คาดว่าคงจะไม่มีปัญหา